คาร์บอมบ์ "ซี.เอส.ปัตตานี" บึ้มหม้อแปลงซ้ำมืดค่อนเมือง กราดยิงร้านน้ำชาดับ 2
ปัตตานีป่วนหนัก! คนร้ายใช้ "คาร์บอมบ์" ถล่มด้านหลังโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี ตูมสนั่นไฟลุกท่วม บาดเจ็บ 3 ราย แขวนระเบิดหม้อแปลงไฟฟ้าบนถนนปากน้ำ บึ้มซ้ำไฟดับเกือบทั้งเมือง ประชาชนหวาดผวาไม่กล้าออกจากบ้าน เผยสถิติระเบิดในรถยนต์ถี่ยิบ 11 วัน 3 ลูก คล้อยหลังแค่ 2 ชั่วโมงมือมืดกราดยิงร้านน้ำชาที่ควนโนรีใกล้บ้าน "คอลีเยาะ หะหลี" ชาวบ้านสังเวย 2 ศพ เจ็บระนาว
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงวิกฤติ และมีเหตุรุนแรงขนาดใหญ่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันอังคารที่ 31 ก.ค.2555 คนร้ายลอบวางระเบิด "คาร์บอมบ์" บริเวณด้านหลังโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 ราย กระจกอาคารโรงแรมแตกละเอียดหลายสิบบาน หลังเกิดเหตุระเบิดพนักงานโรงแรมได้เร่งอพยพแขกที่เข้าพักออกจากโรงแรมเป็นการด่วน
นอกจากนั้น ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันยังมีรายงานเหตุหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด ซึ่งเป็นหม้อแปลงขนาดใหญ่บนถนนปากน้ำ ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีเช่นกัน แรงระเบิดทำให้ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ซ้ำเติมสถานการณ์ให้ดูวิกฤติมากขึ้นไปอีก ส่งผลให้ประชาชนทั่วทั้งเมืองแตกตื่นและหวาดกลัว
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และชุดเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุระเบิด (อีโอดี) ได้เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบซากรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ ตอนเดียว สีน้ำเงิน อยู่ในสภาพพังยับเยินบริเวณกำแพงด้านหลังโรงแรมติดกับห้องครัว คาดว่าเป็นรถที่คนร้ายใช้ทำคาร์บอมบ์ แรงระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้ โดยเพลิงลุกลามทางท่อแอร์ขึ้นไปถึงชั้นบนของโรงแรม แต่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ยังไม่ทราบภาชนะบรรจุ
ส่วนเหตุระเบิดหม้อแปลงไฟฟ้าบนถนนปากน้ำ เจ้าหน้าที่ระบุว่า คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องไปแขวนไว้บนหม้อแปลงขนาดใหญ่ เมื่อเกิดระเบิดขึ้นจึงทำให้ไฟฟ้าดับเกือบทั้งเขตเทศบาล
ย้อนอดีตบึ้ม "ซี.เอส.ปัตตานี" ปี 51
สำหรับโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี ซึ่งมี นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เป็นผู้บริหารนั้น เคยเกิดระเบิดคาร์บอมบ์มาแล้วครั้งหนึ่งบริเวณพื้นที่จอดรถด้านหน้าโรงแรม เมื่อค่ำวันที่ 15 มี.ค.2551 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 15 ราย รวมทั้งตัวนายอนุศาสตร์เองด้วย หลังเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ทางโรงแรมเพิ่มมาตรการเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย โดยห้ามรถทุกชนิดเข้าไปจอดบริเวณหน้าโรงแรม แต่ครั้งนี้คนร้ายใช้เส้นทางด้านหลังที่มาจากถนนเจริญประดิษฐ์ หรือ "ถนนสาย ม.อ." แล้วจอดรถที่ติดตั้งระเบิดเอาไว้นอกกำแพงโรงแรมติดกับห้องครัว โดยจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) เพียงไม่กี่ร้อยเมตร
มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ครั้งล่าสุด โรงแรมต้องปิดให้บริการชั่วคราวเพื่อตรวจสอบความเสียหาย และได้อพยพผู้เข้าพักทั้งหมดไปพักที่โรงแรมปาร์ควิว ส่วน นายอนุศาสตร์ นั้นขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในพื้นที่
คาร์บอมบ์ 3 ลูกในรอบ 11 วัน 
อนึ่ง ในรอบ 11 วันที่ผ่านมา คือตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.2555 ซึ่งเป็นวันแรกของเดือนรอมฎอน หรือเดือนแห่งการถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์มาแล้วถึง 3 ครั้ง คือ เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.ค.ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย วันพุธที่ 25 ก.ค.ที่ อ.รามัน จ.ยะลา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 5 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และล่าสุดคือที่โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี เมื่อช่วงค่ำวันอังคารที่ 31 ก.ค.
นอกจากนั้น ยังเกิดเหตุการณ์สลดอีก 1 เหตุการณ์ คือคนร้ายเกือบ 20 คน มีรถกระบะ 3 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามรุมยิงทหารชุดลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 4 นายที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อวันเสาร์ที่ 28 ก.ค.ด้วย
กราดยิงร้านน้ำชาควนโนรีชาวบ้านสังเวย 2 ศพ
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.วันเดียวกัน เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธสงครามกราดยิงร้านน้ำชาในพื้นที่ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทำให้มีชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 4 ราย
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่ใกล้หมู่บ้านซึ่งเป็นภูมิลำเนาของ น.ส.คอลีเยาะ หะหลี แกนนำครอบครัวผู้สูญเสียในเหตุการณ์กรือเซะ (28 เม.ย.2547) ซึ่งมีบทบาทอย่างสูงในพื้นที่ในฐานะผู้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับญาติเหยื่อความรุนแรง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เพลิงกำลังโหมกระหน่ำอย่างน่ากลัวภายหลังเกิดระเบิดคาร์บอมบ์ด้านหลังโรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี
2 รถกู้ภัยของเจ้าหน้าที่กำลังเดินทางเข้าที่เกิดเหตุในขณะที่ไฟฟ้าดับเกือบทั้งเมือง
ขอบคุณ :
1 คุณอับดุลเลาะ เบ็ญญากาจ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เอื้อเฟื้อภาพเหตุการณ์ขณะไฟฟ้าดับ
2 หน่วยกู้ภัยสันติปัตตานี อำนวยความสะดวกเรื่องการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและข้อมูลเบื้องต้น
