ให้'บิ๊กตู่'จบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง! 'ปิยบุตร' เดินหน้าอภิปรายปมถวายสัตย์ฯในสภาต่อ
‘ปิยบุตร แสงกนกกุล’ เลขาธิการ อนค. ชี้กรณีพิธีรับพระราชทานพระราชดำรัส ไม่ใช่การถวายสัตย์ใหม่ เดินหน้าอภิปรายต่อในสภา-รอองค์กรเกี่ยวข้องวินิจฉัย แนะให้นายกฯ จบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลา 13:30 น. วันที่ 27 ส.ค. 2562 ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีรับพระราชทานพระราชดำรัสพร้อมลายพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมา ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ว่า พิธีดังกล่าวไม่ใช่พิธีการถวายสัตย์ปฏิญาณครั้งใหม่แต่อย่างใด เป็นการเข้ารับพระราชทานขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น ต้องรอคำวินิจฉัยจากองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
"กรณีการถวายสัตย์ของ พล.อ.ประยุทธ์ และคณะรัฐมนตรี ตามที่เมื่อเช้านายกฯ ได้นำคณะเข้ารับพระราชดำรัสพร้อมลายพระราชหัตถเลขาต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์นั้น ขอยืนยันตามความเห็นของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีว่าไม่ใช่การถวายสัตย์ครั้งใหม่ โดยนายวิษณุบันได้ทึกเอาไว้ในหนังสือ “หลังม่านการเมือง” ว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์จบแล้ว พระมหากษัตริย์จะทรงมีพระราชดำรัสให้กำลังใจอำนวยพรให้กับคณะรัฐมนตรี หลายครั้ง พระราชดำรัสได้กลายเป็นแนวทางที่ใช้ในการบริหารประเทศ ในสมัยหนึ่งอดีตนายกรัฐมนตรี คือ นายบรรหาร ศิลปอาชา หลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ เห็นความสำคัญของพระราชดำรัสแล้ว จึงขอพระบรมราชานุญาตตีพิมพ์เอาไปแจกรัฐมนตรีทุกคน กรณีเมื่อเช้านี้ เป็นครั้งแรกที่มีการจัดพิธีรับพระราชดำรัสต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ แต่ไม่ใช่การถวายสัตย์ปฏิญาณใหม่ ดังนั้น จึงต้องพิจารณาต่อว่าการถวายสัตย์เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ และจะส่งผลทางกฎหมายอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์เองก็ไม่เคยชี้แจงอย่างชัดเจน จึงเป็นปัญหาต่อเนื่องมาในวันนี้ ซึ่งล่าสุดผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่ได้อธิบายชัดแจ้งว่าการถวายสัตย์ครบถ้วนหรือชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคำร้องในหลายองค์กรเช่น ป.ป.ช. และยังมีญัตติอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 152 แต่ทั้งหมดนี้ยังไม่มีองค์กรไหนวินิจฉัยยืนยันชัดเจนถึงผลทางกฎหมายของการถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 161 เพราะฉะนั้น ทุกเรื่องยังคงเป็นเรื่องที่ต้องรอการวินิจฉัยต่อไป" นายปิยบุตร ระบุ
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า ดังนั้นยังต้องพิจารณาต่อไปว่า การถวายสัตย์ฯ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมานั้น ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ส่วนหนึ่งประชาชอาจมีข้อสงสัยว่า ทำไมฝ่ายค้านจับจ้องอยู่แค่ประเด็นดังกล่าว ไม่สนใจปัญหาปากท้องประชาชน ต้องเรียนว่า ผู้ที่จะจบเรื่องดังกล่าวนี้ได้คือ นายกรัฐมนตรี เอง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แต่นายกฯ ไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ แม้แต่ตอบคำถามว่า ครบหรือไม่ ไม่อธิบายแม้กระทั่งว่า คิดอะไรอยู่ในใจ ทำไมวันนั้นถึงใช้กระดาษแข็งหนึ่งแผ่นแล้วอ่านตามนั้น ไม่ตอบแม้กระทั่งว่า ตัดสินใจอย่างไร ถึงไม่อ่านตามที่ปกติทางสำนักงานเลขาคณะรัฐมนตรีจะต้องทำแฟ้มไปให้อ่าน ท่านไม่ได้ตอบอะไรทั้งสิ้น และใช้วิธีเงียบไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้น ยืนยันตรงนี้ว่า เรื่องนี้ เราไม่ได้คิดที่จะล้มรัฐบาล เรื่องแค่นี้ล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่เราต้องการความแน่นอนชัดเจน เพื่อให้คณะรัฐมนตรีชุดนี้เข้ารับหน้าที่โดยสมบูรณ์แบบตามรัฐธรรมนูญ เมื่อบริหารราชการแผ่นดิน มีมติ ครม.แต่งตั้งโยกย้ายต่างๆ จะได้ชัดเจนว่าสมบูรณ์ ดังนั้นถ้าท่านใดคิดว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาหยุมหยิมน่ารำคาญ ไปแก้ไขปัญหาปากท้องดีกว่า ต้องถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จบเรื่องนี้ได้หรือยัง บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อ จะได้ชัดเจนว่า ต่อไปนี้มติ ครม. ชัดเจนหมดแล้ว ไม่โมฆะอีกแล้ว” นายปิยบุตร กล่าว