กษ. ทุ่ม 1,800 ล้านบาท ดันโครงการเกษตร 5 จว.ชายแดนใต้

ก.เกษตรฯ สานต่อโครงการส่งเสริมอาชีพ 5 จว.ชายแดนใต้ ตั้งศูนย์ประสานร่วม ศอ.บต.-กปต. ทุ่ม 1,800 ล้าน สร้างเครือข่ายเกษตรกร ฟื้นฟูนาร้าง ผลิตข้าวปลอดสารพิษ จัดตั้งตลาดน้ำยางสดระดับท้องถิ่น

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(รมว.กษ.) เปิดเผยว่า กษ.ได้จัดทำโครงการส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555-2557 ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งปีงบประมาณ 2555 มีงบ 1,804 ล้านบาทโดยมีแผนงานและกิจกรรมสำคัญ 2 ส่วน

ส่วนที่ 1 เพื่อให้การลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มั่นคง สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ วิถีชีวิต ตรงกับความต้องการประชาชน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ทั่วถึงใ ส่งผลให้อัตราการว่างงานระดับหมู่บ้านลดลงอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการฟื้นฟูพื้นที่นาร้างเพื่อปลูกข้าว โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวปลอดสารพิษและข้าวอินทรีย์ โครงการเพิ่มศักยภาพเครือข่ายกลุ่มอาชีพการเกษตรของสถาบันเกษตรในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โครงการจัดตั้งตลาดน้ำยางสดระดับท้องถิ่น ฯลฯ ส่วนที่ 2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ เทคโนโลยี ศักยภาพแรงงาน ทั้งต้นน้ำปลายน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศและรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ การสนับสนุนโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การจัดหาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน การป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ-

นายธีระ กล่าวว่าจะบูรณาการการทำงานระหว่าง 12 หน่วยงานในสังกัด และหน่วยงานในพื้นที่อื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้มีประสิทธิภาพตอบสนองต่อความต้องการประชาชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจะมีการรายงานผลการดำเนินงานต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ทุก 3 เดือน เพื่อรายงานความคืบหน้าต่อนายกรัฐมนตรี

ซึ่งผลการดำเนินงานโครงการฯ 9 เดือนตั้งแต่ ต.ค.54-มิ.ย.55 ก้าวหน้าตามเป้าหมาย อาทิ กิจกรรมที่ดำเนินการแล้วเสร็จ 100% คือส่งเสริมการผลิตข้าวปลอดสารพิษ ปลูกยางพาราในพื้นที่ว่างเปล่า 696 หมู่บ้าน ปลูกยางพารา 1,377 หมู่บ้าน ส่งผลให้นาร้างลดลง 83,954 ไร่ ข้าวปลอดสารพิษเพิ่มขึ้น 275 ตัน อบรมถ่ายทอดเทคโนโลยี 3,200 ราย มอบปัจจัย 1,966 ราย จัดทำแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล 5 แห่ง สามารถเพิ่มผลผลิตกุ้งกุลาดำในอ่าวปัตตานีมูลค่า 10 ล้านบาท ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ปีกในครัวเรือนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อ ส่วนโครงการพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงแพะเนื้อเพื่อรองรับอุตสาหกรรมฮาลาลและการเลี้ยงแพะเนื้อแพะนมรายย่อยคืบหน้ากว่า 90% ส่งผลให้แพะเพิ่มขึ้น 21% ราคาแพะเพิ่มขึ้นจาก 120 บาท/กก. เป็น 180-200 บาท/กก. มูลค่ารวมกว่า 280 ล้านบาท

รมว.กษ. กล่าวว่ายังได้จัดตั้งศูนย์ประสานการดำเนินงานส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีรองปลัด กษ.เป็นประธานกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักแผนงานและโครงการพิเศษ สำนักงานปลัด กษ.ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการศูนย์ฯ เพื่อประสานระหว่างหน่วยงานภายในกระทรวงและขับเคลื่อนการดำเนินแผนงานโครงการให้สอดคล้องกัน รวมทั้งประสานงานกับฝ่ายเลขานุการ กปต. ตลอดจนกลไกหลักในพื้นที่ คือ ศอ.บต. และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า .