"ผมจะเป็นนายกฯ แบบนี้" บิ๊กตู่โต้เดือด ชี้ทุ่มทำงาน 5 ปี ทั้งกดดัน แบกภาระคนทั้งปท.
นายกฯโต้เดือด! ปฏิเสธไม่ได้เตรียมการรัฐประหารมาก่อน 3 ปี แค่ให้เตรียมการฝึกระวังความปลอดภัย พ้อไม่เห็นเหรอต้องเผชิญสถานการณ์อะไรบ้าง มีคนตายด้วย ซัดพวกนั่งในสภาอย่ามาทำหน้าเยาะเย้ย-ไม่รู้สึกรู้สา - ‘บิ๊กป้อม’แจงปมกองทัพจัดซื้อยุทโธปกรณ์เหตุของเดิมใช้มานาน รมช.กลาโหม ยันขั้นตอน ‘ค่อนข้างโปร่งใส-ชัดเจน’ จัดซื้อเรือดำน้ำเพื่อความมั่นคงทางทะเล
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2562 เวลา 22:25 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงหลังนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายนโยบายรัฐบาลอย่างดุเดือด โดยปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องของการถวายสัตย์ฯ
ตอนหนึ่งพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "แม่ผมเป็นครู เมียผมก็เป็นครู แต่ผมไม่เคยเห็นเขาแสดงกิริยาเหล่านี้ใส่ผม หลายท่านอยากให้ผมโกรธ ผมต้องใช้ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขามากล่อมเกลาจิตใจ และเข้าใจแก่นแท้ของศาสนาดี "
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ทุ่มเททำงานมาโดยตลอด 5 ปี และอยู่ในสถานการณ์ที่เลือกไม่ได้ เชื่อว่าไม่มีใครยากทำ หากไม่มีเรื่องราวขึ้นมา วันนี้เพื่อนสมาชิกรัฐบาลใหม่ก็ตั้งใจเข้ามาทำงาน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าหลังจากติดหล่มมากว่า 10 ปี ประเทศเรากลายเป็นประเทศล้มเหลว เหมือนบ้านหลังหนึ่งกำลังพังลงไป แต่รัฐบาลใหม่กำลังต่อเติมแม้จะยังไม่เสร็จ แต่หากยังมัวยังงัดอย่างนี้ การพัฒนาประเทศก็เดินต่อไปไม่ได้
"รัฐบาลใหม่จะเริ่มทำงานหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้"
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุถึงทำงานท่ามกลางความกดดัน และต้องแบกภาระคนทั้งประเทศ 70 กว่าล้านคน และการทำงานที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยทำความผิดฐานละเมิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนในเรื่องปัญหายาเสพติด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ รวมไปถึงปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ การกระจายรายได้ ปัญหาสาธารณสุข ก็เป็นปัญหาที่สะสมมาหลายปีแล้ว ต้องช่วยกันแก้ไขต่อไป
"ใครจะว่าผม ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีแบบนี้ ส่วนเรื่องคดีต่างๆ ขอให้รอศาลตัดสิน"
@ปัดวางแผนรัฐประหารล่วงหน้า
ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้อภิปรายถึงกรณี ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ตั้งคำถามถึงการวางแผนรัฐประหารล่วงหน้า ระบุว่า ฟังมา 2 วัน มีแต่พูดว่าตนเตรียมการมา 3 ปี ให้ย้อนกลับไปฟังใหม่ ถามลูกน้องตนก็ได้ บอกว่าเป็น ผบ.ทบ. มา 3 ปี ต้องเผชิญสถานการณ์อะไรบ้าง สถานการณ์การขัดแย้ง ความรุนแรง ไม่รู้พวกไหนเหมือนกัน หลังจากนั้นคือเตรียมการให้ฝึกกำลังให้มีการระมัดระวังความปลอดภัย นั่นคือสิ่งที่เตรียมการ พอถึงเวลา 6 เดือนก่อนหน้า เกิดอะไรขึ้นในไทย พวกที่นั่งอยู่ไม่ต้องยิ้ม ยิ้มแบบไม่รู้สึกรู้สากันทั้งนั้น คนตายคนเจ็บเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นตนจึงต้องตัดสินใจ ไม่ได้ตัดสินใจก่อนหน้าด้วย วันนั้น (22 พ.ค. 2557) เท่านั้นเอง ที่คนของท่านบางพวกบอกว่า ไม่ต้องอยู่ อยู่กันแบบนี้ ถ้าทหารไม่ออกมาทำงานก็อยู่กันแบบนี้ งบประมาณทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ รับผิดชอบกันหรือไม่ ตอบมาสิ เพราะฉะนั้นอย่าทำหน้าเยาะเย้ยแบบนี้ตนไม่ชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2562 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายตอนหนึ่งถึงเหตุการณ์วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ว่า ในวันดังกล่าวตนบังเอิญอยู่ในเหตุการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ พูดตอนหนึ่งช่วงยึดอำนาจว่า "ใครอย่าคิดสู้ผม สู้ก็สู้ไม่ได้ ผมเตรียมการเรื่องนี้มา 3 ปีกว่า" ประโยคนี้ผมข้องใจมาจนบัดนี้ ขอถามวันนี้ว่า เตรียมการมา 3 ปีกว่า หมายความว่าอย่างไร ถ้านับย้อนหลังไปจากปี 2557 เวลา 3 ปีกว่าคือเตรียมการมาช่วงปี 2554-2555 ซึ่งขณะนี้เพิ่งมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง ก็มีการเตรียมการเรื่องนี้กันแล้ว แทบไม่น่าเชื่อเลย ไม่คิดว่าจะได้ยินนี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธ ตนจะพูด และอธิบายอะไรอีกบางประการที่ตรวจสอบว่า เป็นของจริง และมีการเตรียมการมาอย่างละเอียดด้วย
@‘บิ๊กป้อม’แจงปมกองทัพจัดซื้อยุทโธปกรณ์เหตุของเดิมใช้มานาน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี อภิปรายถึงกรณีกระทรวงกลาโหม และกองทัพจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ว่า งบประมาณที่จัดซื้อจัดหาที่ท่าน (ส.ส.ฝ่ายค้าน) พูดมาทั้งหมดเป็นความจริง แต่การใช้จ่ายของกระทรวงกลาโหมแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เรามีแผนการจัดหายุทโธปกรณ์อย่างชัดเจน และยุทโธปกรณ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอายุ 20-30 ปีทั้งนั้น ถึงคราวต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีการพัฒนาเรื่องของการใช้งบประมาณ พอเป็นเรื่องของเหล่าทัพที่จะพิจารณาใช้ยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ มาให้กระทรวงกลาโหมพิจารณาอีกครั้ง เป็นการทำงานร่วมกัน
ส่วนประเด็นเรื่องพูดถึงกรณีเรือล่มที่ จ.ภูเก็ต ว่าเป็นทัวร์ศูนย์เหรียญนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นการพูดนอกประเด็นไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ตนพูดเล่นกับผู้สื่อข่าว แต่เขาเอาไปเขียน และได้ออกมาขอโทษไปแล้ว โปรดเข้าใจตามนี้ด้วย ส่วนกรณีทัวร์ศูนย์เหรียญที่จีนได้มาจัดทำในไทย แล้วก็มารับส่งผู้โดยสารของคนจีนโดยเฉพาะ พูดไปไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องราวใหญ่โต ได้บอกกับทางคนจีนไปหมดแล้ว เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น อธิบายให้เขาฟัง เรื่องการท่องเที่ยวตนไม่เคยคุม
@รมช.กลาโหม ยันขั้นตอน ‘ค่อนข้างโปร่งใส-ชัดเจน’
ขณะที่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม อภิปรายชี้แจงข้อมูลเรื่องงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างกองทัพเพิ่มเติมว่า ในแผนหรือในยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศหรือระดับสากลก็ตาม เฉลี่ยแล้วจะมีงบส่วนนี้ประมาณ 2% ของ GDP สำหรับกองทัพไทยก่อนปี 2540 ใช้งบประมาณ 2.2-2.4% ของ GDP หลังปี 2540 ก็ปรับตัวขึ้นลง
“ยกตัวอย่าง กระทรวงกลาโหมมีงบ 100 บาท 47-48 บาท ใช้ไปกับงบกำลังพล 23-24 บาท เป็นงบปฏิบัติภารกิจทั่วไป รวมทั้งภารกิจที่ได้รับมอบหมายเพิ่มเติม ที่เหลืออีก 18-19 บาท เป็นงบเรื่องพัฒนากองทัพ สัดส่วนจะเห็นได้ว่าน้อยมาก การพัฒนากองทัพนั้น ท่านรองนายกฯ (พล.อ.ประวิตร) เรียนแล้วว่า เรามียุทโธปกรณ์ที่อายุใช้งานสั้นมาก เราไม่ได้รับงบประมาณซ่อมปรับปรุงเพิ่มเติมให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง งบในส่วน 18-19 บาท คือการปรับปรุงให้ใช้การต่อไปได้ ส่วนที่ไม่สามารถซ่อมคืนสภาพเพราะอาจไม่คุ้มค่า ให้มีการจัดหาทดแทน” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวอีกว่า ในการจัดหาทดแทนเรียนว่า มีคณะกรรมการในการจัดหา มียุทธศาสตร์ประเมินภัยคุกคามว่า มีความเร่งด่วนในการจัดหายุทโธปกรณ์เช่นไร กองทัพต้องตั้งคณะกรรมการคัดเลือกแบบ คัดเลือกลักษณะเฉพาะว่าตรงตามปฏิบัติการ หรือยุทธวิธีแต่ละเหล่าทัพหรือไม่ ก่อนเสนอให้กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพต้องกำหนดความต้องการขึ้นมา การดำเนินการมีคณะกรรมการคัดเลือกแบบที่เหมาะสม มีการดำเนินการค่อนข้างโปร่งใส และชัดเจน
@ลั่นจัดซื้อเรือดำน้ำเพื่อความมั่นคงทางทะเล
ส่วนกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำวงเงิน 2 หมื่นล้านบาทนั้น พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า เป็นยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ เป็นผลประโยชน์ความมั่นคงทางทะเล ประเมินแล้วว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจทางทะเลตกปีละประมาณ 24 ล้านล้านบาท มีเรือเข้าออกท่าประมาณ 1.5 หมื่นลำ ดังนั้นความมั่นคงทางทะเลเป็นสิ่งที่กองทัพเรือไว้เพื่อปกป้องน่านน้ำทางทะเล มีการกำหนดยุทธศาสตร์ทางทะเล บทบาทหน้าที่ ขีดความสามารถในการปกป้อง เรือดำน้ำเป็นส่วนหนึ่งในนั้น
“การจัดซื้อเรือดำน้ำ ไม่ใช่ซื้อวันนี้ได้พรุ่งนี้ แต่ใช้เวลาถึง 6 ปี นับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเข้ามาประจำการ การจัดหามีขั้นตอน มิได้มาเพื่อหวังให้ประเทศต่าง ๆ ไม่ไว้วางใจ ทราบข่าวว่าประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนก็มี มีการฝึกร่วมกัน เป็นการป้องปราม ฝึกปฏิบัติภารกิจร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศด้วย ถ้าประเทศเกิดวิกฤติ จะทำให้ไทยมีความมั่นคง รักษาผลประโยชน์ชาติทางทะเล ซึ่งหมายถึงผลประโยชน์ของทุก ๆ คน” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/