‘สมศักดิ์’ ถกร่วมทนายโจทก์ ‘คดีแพรวา’ ครบกำหนดชดใช้สิ้น ส.ค. -ค่าเยียวยาพุ่ง 41 ล.
‘สมศักดิ์’ หารือทนายโจทก์ คดีแพรวา เผยสิ้นสุดเวลาชดใช้เหยื่อ 25 ราย สิ้น ส.ค. 62 ล่าสุด ค่าเยียวยาพร้อมดอกเบี้ยรวม 41 ล้านบาท แต่งตั้ง ‘ธวัชชัย ไทยเขียว’ นั่งผู้ประสานงานส่วนกลางบูรณาการ ระบุจำเลยขายทรัพย์ได้ จะเป็นประโยชน์
วันที่ 23 ก.ค. 2562 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยุติธรรม) พร้อมด้วย ศ.พิเศษ วิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และผศ.ดร.กรศุทธิ์ ขอพ่วงกลาง ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) แถลงข่าวร่วมกันถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากคดีแพรวา ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม ชั้น 9 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมได้เชิญศูนย์นิติศาสตร์ มธ. มาหารือเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องการบูรณาการให้โจทก์ได้รับการดูแลชดเชยตามคำสั่งของศาลโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้มีโจทก์บางรายได้ทำความตกลงเยียวยากันไปในบางส่วนแล้ว ทำให้เหลือรอรับการชดเชยเยียวยาเพียง 25 ราย
โดยในส่วนของจำเลยที่มี 4 ราย สำนักงานกฎหมาย มธ.ได้ดำเนินการในขั้นตอนของศาลฎีกาที่มีคำสั่งและส่งคำบังคับคดีให้จำเลยทั้งหมด แต่เนื่องจากจำเลยไม่ได้มีที่พักอาศัยแห่งเดียวกัน ทำให้ศาลต้องส่งคำบังคับคดีไปยังภูมิลำเนานั้น จึงทำให้เวลาในการรับไม่ตรงกัน
รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า จำเลยที่ 2 และ 4 มีการติดหมายบังคับคดีเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2562 ส่วนจำเลยที่ 1 และ 3 วันที่ 13 ก.ค. 2562 ซึ่งวันครบกำหนดต้องมาชำระหรือจ่ายเงินเยียวยาให้แก่โจทก์ต้องดำเนินการภายใน 30 วัน แต่เนื่องจากต้องนับจากวันติดหมายออกไปอีก 15 วัน จึงทำให้ครบกำหนดประมาณวันที่ 28 หรือ 29 ส.ค. 2562 หรือปลาย ส.ค. 2562 นั่นเอง หลังจากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของ มธ. จะต้องไปขอออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีจากศาล เมื่อได้หมายแล้ว จะเป็นหน้าที่ของกรมบังคับคดี
“ทั้งหมดนี้คือกระบวนการเร็วที่สุด ส่วนจะมีอะไรที่เข้ามาทำให้วันเวลาเปลี่ยนแปลงไปนั้น ถือเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งตัวเลขของค่าเสียหายที่ศาลมีคำสั่งบังคับประมาณ 25 ล้านบาท ในจำนวนนี้จำเลยที่ 4 รับผิดชอบเพียง 2.8 ล้านบาท” นายสมศักดิ์ กล่าว และว่าหากคิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จนถึงปัจจุบัน ค่าชดใช้เยียวยาจะอยู่ที่ 41 ล้านบาทแล้ว ซึ่งหากช้าออกไปอีก ความเสียหายจะตกแก่จำเลยที่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยตามกฎหมาย
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า กระทรวงยุติธรรมยังได้แต่งตั้ง “นายธวัชชัย ไทยเขียว” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้ประสานส่วนกลางบูรณาการ ซึ่งจะเป็นผู้ตอบรายละเอียดต่าง ๆ ของคดีนี้ในช่วงเวลาหนึ่งได้ และการเข้าไปดูแลในเรื่องการขายที่ดินของจำเลยเพื่อนำเงินมาชดใช้เยียวยา คงทำนอกเหนือจากกฎหมายไม่ได้ แต่หากจำเลยขายเองได้ จะเป็นประโยชน์ ส่วนกรณีช้าไปกว่าระยะเวลาที่กำหนด จะเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งกรมบังคับคดีจะเข้ามาดำเนินการขายทอดตลาด
ด้าน ผศ.ดร.กรศุทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายไปก่อน ซึ่งทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่ติดตามจากการรายงานข่าวนั้น กรณีที่พบว่า อาจไม่มีทรัพย์สินจริง ต้องไปดูระหว่างฟ้องคดีมีการจำหน่ายถ่ายโอนทรัพย์สิน ต้องมีการเพิกถอนนิติกรรมกับบุคคลภายนอก เพื่อดึงทรัพย์กลับมาเป็นของจำเลย จากนั้นจึงบังคับคดีจากทรัพย์สินตรงนั้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นตอนนั้น
“สิ่งที่ผู้เสียหายอยากได้ แค่ให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาเท่านั้น ไม่อยากได้มากกว่านั้น” ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ มธ. ระบุ
ทั้งนี้ ไม่ได้รับการติดต่อโดยตรงจากคนในราชนิกูลเทพหัสดินเกี่ยวกับเช็คเงินสด 5 แสนบาท เพื่อมอบให้ผู้เสียหายนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการขั้นตอนการบังคับคดี แต่อาจมีการสอบถามผ่านบุคคลกลาง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ผู้เสียหายไม่ประสงค์รับเงินดังกล่าว ยกเว้น ถ้าอยากมอบจริง ๆ อาจต้องแสดงเจตนาให้ชัดเจนว่าบริจาคเพื่อวัตถุประสงค์ใดที่ไม่ใช่การไกล่เกลี่ยแทนจำเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายสมศักดิ์ เปิดเผยถึงแนวทางในการนำเงินจากกองทุนยุติธรรมสำรองจ่ายให้แก่ผู้เสียหายไปก่อนนั้น ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากติดขัดด้านกฎหมาย แต่อนาคตอาจมีแนวทางแก้ไขกฎหมาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือในลักษณะนี้ได้ต่อไป
สำหรับคดีนี้เป็นระยะเวลากว่า 9 ปี ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุบนทางด่วนโทลเวย์ ซึ่งคดีได้ถึงที่สุดแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297-308/2562 โดยพิพากษาในคดีระหว่างโจทก์ที่ 6 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เสร็จเด็ดขาดตามยอมสัญญาประนีประนอมยอม ฉบับลงวันที่ 20 เมษายน 2561 และให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ร่วมกันชำระค่าเสียหายให้แก่โจทก์ในแต่ละคดี ซึ่งรวมค่าสินไหมทดแทนที่ศาลฎีกากำหนดให้ทุกคดีแล้วรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 25,261,164 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันทำละเมิด เป็นต้นไป จนกว่าจำเลยจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น
และศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 โดยทนายความผู้รับผิดชอบสำนวนคดีได้ชี้แจงผลคำพิพากษาให้แก่โจทก์พร้อมดำเนินการส่งคำบังคับเพื่อให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลภายใน 30 วัน เรียบร้อยแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/