'ปลอดประสพ' แจงละเอียดให้หายงง ทีโออาร์ 3.5 แสนล. ยันไม่มีล็อคสเป็ค
ประธาน กบอ.ยัวะคนกุข่าวทุจริตทีโออาร์ 3.5 แสนล. ยันยังไม่ใช้งบ-ไม่ปิดกั้น คนไทย เล็งจ้าง 2 บริษัทเอกชนคุมงานก่อสร้าง-ตรวจสอบงาน
วันที่ 24 กรกฎาคม คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) จัดการประชุมชี้แจง "โครงการการเสนอกรอบความคิด (Conceptual Plan) เพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบ แก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ " โดยมี ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธาน กบอ. เป็นประธานการประชุมและชี้แจงรายละเอียดในโครงการดังกล่าวแก่ภาคธุรกิจ องค์กร ผู้แทนสถานทูตและผู้สนใจทั้งในและต่างประเทศกว่า 1,000 คน ณ ห้อง แกรนด์ ฮอลล์ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (สวทช.)
ดร.ปลอดประสพ กล่าวว่า ภายหลังที่เปิดให้ภาคธุรกิจผู้สนใจเข้ายื่นหลักฐานเพื่อรับเอกสารโครงการฯ ที่ตึกแดง 1 ทำเนียบรัฐบาล ไปตั้งแต่วันที่ 9 – 23 กรกฎาคม 2555 รวมแล้วมีผู้สนใจรวม 398 ราย ประกอบด้วยภาคธุรกิจในประเทศ 303 ราย ภาคธุรกิจต่างประเทศ 37 ราย ส่วนราชการ 17 ราย สถานทูต 22 รายและสื่อมวลชน 19 ราย
นั่งหัวโต๊ะ คกก.ตรวจสอบคุณสมบัติเอง
ประธาน กบอ. กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ครม.ได้อนุมัติและเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกกรอบแนวคิด เพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบ แก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว http://www.thaireform.in.th/reform-the-news/item/7916.html แต่ปัจจุบันโหมดของงานยังไม่ใช่การจัดซื้อจัดจ้าง ยังไม่มีสัญญาใดๆ เกิดขึ้นและยังไม่มีการจ่ายเงินให้ฝ่ายใดทั้งสิ้น
"หากมีการกล่าวหาลอยๆ ว่ามีการคอร์รัปชั่นจึงเป็นไปไม่ได้และขอยืนยันว่าจะไม่มีการเลือกใครไว้ใน ใจ ไม่มีใครได้เปรียบใคร ไม่มีการปิดกั้นผู้ใด สำหรับบริษัทต่างประเทศต้องเป็นไปตามกฎหมายไทยทุกประการ จะไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะนำความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาใช้อ้างก็ตาม"
แจงละเอียดกรอบทีโออาร์ อภิมหาโปรเจคจัดการน้ำ
ประธาน กบอ. กล่าวว่า ภายหลังจากการชี้แจงในวันนี้เป็นต้นไป ทุกบริษัทจะมีเวลา 90 วันในการทำงาน โดยที่ 30 วันแรก ทุกบริษัทจะต้องยืนยันฐานะของผู้เสนอว่าเป็นนิติบุคคลลักษณะใด ภายใน 60 วันแรกจะต้องทำรายงานเกี่ยวกับกรอบแนวคิด (Conceptual Plan) และอีก 30 วันจะเรียกสัมภาษณ์และส่งเอกสารประกอบ จากนั้นจะทำการคัดเลือกแบบจัดทำบัญชีรายชื่อบริษัท (Shortlist)
"ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเดียว หรือเป็นกลุ่มที่ทำ Consorrtium หรือ Joint Venture ต้องแสดงหลักฐานเป็นเอกสารเท่านั้น สำหรับบริษัทต่างชาติที่ไม่ใช่จดทะเบียนในประเทศไทยต้องได้รับการยืนยันจาก สถานทูตฯ ภายใน 30 วัน โดยคณะกรรมการจะตรวจสอบคุณสมบัติและประสบการณ์ ซึ่งในช่วงนี้ไม่จำเป็นต้องรอในการทำงาน สามารถดำเนินการศึกษาและทำงานได้เลย"
ในส่วนรายละเอียดการจัดทำทีโออาร์ ประธาน กบอ. กล่าวว่า จะต้องแยกเป็น 8 เรื่อง ตามรายละเอียดทีโออาร์ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งครอบคลุมลุ่มน้ำรองอีก 17 ลุ่มน้ำ และสามารถเพิ่มเติมอีก 2 เรื่องโดยไม่บังคับแต่จะพิจารณาเป็นพิเศษ ได้แก่ 1.แนวทางการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนโดยระบบการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำต่างๆ (Tran-Basin Diversion) 2.โครงการเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำขนาดต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำ (Water Security) โดยที่ทั้ง 2 โครงการจะไม่รวมอยู่ในในงบประมาณ
จากนั้นคณะกรรมการจะจัดทำบัญชีรายชื่อบริษัท แบ่งเป็น 6 กลุ่มแผนงานและโครงการ และใช้การให้คะแนน เพื่อคัดเลือก 3 บริษัท โดยยึดหลัก 1.ความ ถูกต้องและความครบถ้วนของกรอบแนวคิด 2.ความสอดคล้องกับแผนแม่บท 3.ความเป็นไปได้และความเหมาะสมทางเทคนิค 4.ความเชื่อมโยงของระบบทั้งหมด 5.ความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ 6.กรอบเวลา ต้องสั้นที่สุด 7.ประมาณการค่าใช้จ่าย งบประมาณ 8.ผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ซึ่งหัวข้อเหล่านี้จะนำมาสร้างเป็นระบบการให้คะแนน
ท้ายที่สุดจะคัดเลือก 1 บริษัทเพื่อทำสัญญาในอนาคต โดยจะเริ่มเจรจาและคัดเลือกจากบริษัทที่ได้คะแนนสูงสุด ฉะนั้น บริษัทที่อาจจะได้สัญญาในอนาคต อาจมีหลายลักษณะ เช่น ใน 6 กลุ่มแผนงานและโครงการ อาจเป็น 6 บริษัทที่ได้ หรืออาจจะมี 1 บริษัทที่ได้มากกว่า 1 แผนงานก็ได้ สุดแล้วแต่คะแนนที่ได้รับ
เล็งตั้ง คกก. 2 ชุดคุมงานก่อสร้าง-ตรวจสอบงาน
ทั้งนี้ นายปลอดประสพ กล่าวถึงระยะเวลาการดำเนินการที่ค่อนข้างจำกัด ด้วยข้อจำกัดเรื่องของเงินกู้ อีกทั้ง ประเทศไทยมีเวลาน้อยในการต่อสู้กับภัยพิบัติ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะใช้ระบบการออกแบบรวมก่อสร้าง (design and build) ซึ่งจะมีคณะกรรมการอีก 2 ชุด (ว่าจ้างบริษัทเอกชน) เข้ามาช่วยเหลือและควบคุมงาน ได้แก่ 1.บริษัท ที่ปรึกษาโครงการ (Project Management Consultant : PMC ) 2. บริษัทที่ปรึกษาด้านการก่อสร้าง (Construction Supervision Consultant) ที่จะช่วยวิเคราะห์และประเมินการออกแบบและการก่อสร้าง
ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทได้ทำสัญญาในอนาคตจะต้องส่งการออกแบบทุกเรื่องให้คณะกรรมทั้ง 2 ชุดพิจารณาก่อนทำการก่อสร้างเป็นเวลา 1 เดือน และจะพิจารณางบประมาณในการทำรายละเอียดการออกแบบและค่าก่อสร้างไปพร้อมๆ กัน
"เน้นย้ำว่า ปัจจัยเรื่องเวลา ราคา เทคนิคและประสบการณ์จะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คณะกรรมคัดเลือกจะใช้ในการตัดสินใจ"
แจ้งปฏิทินส่ง Conceptual Plan
ขณะที่นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรอบเวลาในการดำเนินการตามทีโออาร์ภายหลังจากนี้ว่า
1.บริษัทที่มีความจำนงร่วมโครงการ ต้องยื่นเอกสารแสดงคุณสมบัติในทีโออาร์ ภายในเวลา 1 เดือน มีกำหนดส่งในวันศุกร์ที่ 24 ส.ค. 2555
2.คณะกรรมการจะตรวจสอบคัดเลือกและแจ้งผลการคัดเลือกกลุ่มบริษัทตาม คุณสมบัติที่เสนอมา โดยใช้เวลาพิจารณา 1 เดือน และแจ้งผลในวันจันทร์ที่ 24 ก.ย.2555 จากนั้นบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกจะมีเวลา 3 เดือน ในการจัดส่งแผนความคิด (Conceptual Plan) ที่แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ในช่วงแรก ส่งเอกสารฉบับร่าง ภายในวันที่ 23 พ.ย. 2555 จากนั้นต้องส่งเอกสารฉบับสมบูรณ์และสัมภาษณ์ ภายในวันที่ 28 ธ.ค.2555
ทั้งนี้ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาแล้ว จะประกาศผลบริษัทที่ได้โครงการในวันที่ 31 ม.ค. 2556
ตอบหลายคำถาม"ผมรับผิดชอบเอง"
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวทีได้เปิดให้ผู้ร่วมเข้าสัมมนาได้ซักถาม ซึ่งมีตัวแทนบริษัทไทยและต่างประเทศลุกขึ้นตั้งคำถามกับ ดร.ปลอดประสพ เช่น เรื่องแผนในการบริหารจัดการน้ำที่กังวลว่าจะซ้ำซ้อนกับแผนต่างๆ ที่หน่วยงานภาครัฐจัดทำไว้แต่เดิม
โดยดร.ปลอดประสพ กล่าวชี้แจงว่า แผนเรื่องน้ำหรือข้อมูลที่มีอยู่ในหน่วยงานภาครัฐต่างๆ นั้น ล้วนเป็นแผนที่เกิดขึ้นก่อนน้ำท่วมใหญ่ ดังนั้นจึงต้องการข้อเสนอกรอบแนวคิดอีกครั้ง เพื่อต้องการรู้ว่าแผนที่ศึกษาไว้เดิมใช้ได้อยู่หรือไม่ ยกตัวอย่างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เช่น แม่วงก์ แก่งเสือเต้น ที่มีข้อถกเถียงอยู่ในปัจจุบัน ผู้ยื่นข้อเสนอคิดเห็นอย่างไร ต้องออกแบบใหม่หรือไม่ หรือเรื่องฟลัดเวย์ ฟลัดไดเวอร์ชั่น (flood diversion) เป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่ หากจะสร้างจะดำเนินการก่อสร้างที่ไหน อย่างไร จะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง ตรงนี้จึงต้องการให้มีการเสนอความเห็นบนฐานเดิม รวมทั้งของใหม่ที่บริษัท หรือกลุ่มบริษัทคิดขึ้นมาใหม่ด้วย
"แผนแม่บทนี้มาจากคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี อีกทั้ง พ.ร.บ.เงินกู้ก็ผ่าน สภาฯ ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว"
ส่วนเรื่องงบประมาณ การทำสัญญา เช่น ในกรณีเป็นบริษัทต่างประเทศหากเกิดข้อพิพาทจะขึ้นศาลประเทศใดนั้น ดร.ปลอดประสพ กล่าวว่า การดำเนินการตามแผนครั้งนี้เรากัดฟันสู้ โดยกู้เงินจากภายในประเทศ เพื่อนำมาใช้ในโครงการ ประเทศไทยไม่ได้รวย แต่เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายจากอุทกภัยขึ้นอีก ส่วนการดำเนินการนั้นอยากใช้เงินให้น้อยที่สุดและได้ของดีที่สุด แต่เราไม่ปฏิเสธ ถ้าใครสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีสิ่งที่ดีที่สุดในโลกและเป็นสิ่งที่ดีที่สุด สำหรับประเทศไทย ส่วนหากมีปัญหาเรื่องสัญญา ข้อเสนอเป็นภาษาไทย เงินไทย สัญญาไทยก็ต้องอยู่ในระบบกฎหมายไทย
ทั้งนี้ ดร.ปลอดประสพ กล่าวย้ำกับผู้ร่วมสัมมนาด้วยว่า การปฏิบัติหน้าที่ของตนนั้น เมื่อเป็นคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยกฎหมาย ดังนั้นสิ่งที่พูด คำพูดจึงเป็นกฎหมาย...
"ผมพูดผิดผมรับผิดชอบเอง"
ด้านนายโทโมยูกิ คาวาบาตะ รองผู้อำนวยการไจก้า ประเทศไทย ซึ่งมาร่วมในการประชุมชี้แจงทีโออาร์ กล่าวว่า ภายหลังรับฟังการชี้แจงในวันนี้แล้วยังมีความสนใจเข้าร่วมในโครงการดังกล่าว และจะนำข้อมูลที่ได้เพิ่มเติมไปแชร์ให้บริษัทที่สนใจหรือผู้เกี่ยวข้องที่ ญี่ปุ่นได้รับทราบ ทั้งนี้ยังไม่มั่นใจว่าข้อมูลที่ได้เพียงพอหรือไม่
"ไจก้าจะนำข้อมูลแชร์ผ่านทางรัฐบาลญี่ปุ่น โดยที่ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าบริษัทญี่ปุ่นที่จะเข้ามาร่วมซึ่งจะมาเป็น ทีมนั้นรวมแล้วมีกี่บริษัท อย่างไรก็ตาม ไจก้าไม่ได้เป็นผู้เสนอโครงการเอง แต่จะใช้ประสบการณ์ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยมาไปสนับสนุนข้อมูลให้รัฐบาล ญี่ปุ่น และคาดหวังว่าทางญี่ปุ่นจะมีโอกาสนำเสนอข้อเสนอทั้งระบบที่ดีที่สุดให้ ประเทศไทย"
