จีสด้า ชี้ภัยแล้ง - ฝนตกน้อย พบพื้นที่ปลูกข้าวลดลงกว่าครึ่ง
จีสด้าชี้ ภัยแล้ง ฝนตกน้อย พบพื้นที่ปลูกข้าวลดลงกว่าครึ่ง เหลือ 11 ล้านไร่ จากปี 61 อยู่ที่ 23 ล้านไร่ ด้านกรมชลฯ เดินหน้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้ง
วันที่ 20 กรกฎาคม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียม ตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูกข้าว ณ ปัจจุบันของปีนี้อยู่ที่ 11 ล้านไร่ ซึ่งลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีอยู่ประมาณ 23 ล้านไร่
จีสด้า ยังพบว่า ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เนื่องจากมีฝนตกน้อยกว่าปกติในช่วงเวลาเดียวกัน และคาดการณ์ว่าในเดือนสิงหาคมนี้สภาวะฝนจะกลับมาเป็นปกติ
ขณะที่ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงการให้ความช่วยเหลือพื้นที่ที่กำลังประสบกับปัญหาภัยแล้งว่า โครงการชลประทานทั่วประเทศ ยังคงเดินหน้าช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ ในพื้นที่อำเภอไทรงาม อำเภอทรายทองวัฒนา จังหวัดกำแพงเพชร และพื้นที่อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำทำการสูบน้ำจากคลองส่งน้ำสาย 2R-MC ของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่อทองแดง ส่งเข้าท่อระบายน้ำปากคลองชักน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว และเปิดท่อระบายน้ำปากคลองวังบัว เพื่อส่งน้ำให้กับราษฎรในพื้นที่ของโครงการฯวังบัวแล้ว
ทางด้านโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน ได้ดำเนินการประสัมพันธ์ให้ราษฎรในพื้นที่โครงการบางระกำโมเดล 2562 รับทราบถึงแผนการบริหารจัดการน้ำอย่างต่อเนื่อง โดย กรมชลประทาน จะหยุดทำการส่งน้ำในวันที่ 31 กรกฎาคม นี้ และขอความร่วมมือเกษตรกรให้งดทำนาครั้งที่ 3 เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูน้ำหลาก ตามนโยบายการขับเคลื่อนโครงการ “บางระกำโมเดล 2562”
สำหรับพื้นที่ตำบลทุ่งแค้ว อำเภอหนองม่วงไข่ จังหวัดแพร่ ที่กำลังประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำเพาะปลูกข้าว อยู่ในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแม่ยม ซึ่งปัจจุบันปริมาณน้ำในแม่น้ำยมมีน้อย ทำให้ไม่สามารถส่งน้ำเข้าคลองส่งน้ำฝั่งขวาของฝายแม่ยมได้ เบื้องต้น โครงการฯ ได้ดำเนินการจัดรอบเวรการสูบน้ำจากแม่น้ำยม เพื่อส่งให้พื้นที่ขาดแคลนน้ำดังกล่าว จนกว่าจะมีฝนตกลงมาช่วยเสริมในพื้นที่ ทั้งยังต้องควบคุมระดับน้ำไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาของอำเภอสองอีกด้วย
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวด้วยว่า ถึงแม้ในระยะนี้จะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อยไม่สม่ำเสมอ จึงขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ ขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด และติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำ รวมถึงสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดด้วย