รอโทษคุก3ปี4 ด.คุมความประพฤติ! อดีตนายกฯบ้านเกาะ รื้อไม้ห้องเรียนเด็กไปเก็บไว้บ้านพัก

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 01 กรกฎาคม 2562 เวลา 10:18 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าว | Isranews | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

แพร่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ สั่งรอการลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ไว้ 2 ปี คุมความประพฤติ 1 ปี ปรับเงิน 1 หมื่น 'ประทีป หอมเพียร' อดีตนายกเทศมนตรีบ้านเกาะ อุตรดิตถ์คดีนําไม้ที่รื้อถอนจากพื้นห้องเรียนอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปเก็บไว้ที่บ้านพักตนเอง

pickdkdkdkdk16

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แก้คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบภาค 6 ให้ลงโทษปรับเงิน 1 หมื่นบาท ส่วนโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และคุมความประพฤติไว้ 1 ปี แก่นายประทีป หอมเพียร เมื่อครั้งดํารงตําแหน่งนายกเทศมนตรีตําบลบ้านเกาะ จังหวัดอุตรดิตถ์ จากคดีนําไม้ที่รื้อถอนจากพื้นห้องเรียนอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไปเก็บไว้ที่บ้านพักของตนเป็นเหตุให้ไม่ได้รับเงินค่าจําหน่ายพัสดุที่รื้อถอน

ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2556 ว่า นายประทีป หอมเพียร มีความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 และมาตรา 157

โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2561 ว่า จําเลยมีความผิดทางอาญาตามมาตรา 147 และมาตรา 157 การกระทําของจําเลยเป็นความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม มาตรา 147 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดตาม มาตรา 90 จําคุก 5 ปี คําให้การของจําเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาลถือเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 คงจําคุก 3 ปี 4 เดือน กับให้จําเลยคืนไม้พื้นที่เอาไป หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน 21,280 บาท

ต่อมา ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ส.ค.2561 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ปรับบท มาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ลงโทษปรับจําเลยอีกสถานหนึ่งเป็นเงิน 15,000 บาท ลดโทษตาม มาตรา 78 ให้หนึ่งในสาม คงปรับ 10,000 บาท โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และคุมประพฤติของจําเลยไว้ 1 ปี ตามมาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตาม มาตรา 29, 30 ยกคําขอให้จําเลยคืนหรือใช้ราคาไม้พื้นเนื้อแข็งแก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น

ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2562 มีมติเห็นชอบตาม ความเห็นของอัยการสูงสุดที่ จะไม่ฎีกาคําพิพากษาใน ส่วนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา แก้เป็นว่า ไม่ปรับบท ม. 157 แห่ง ป.อาญา ลงโทษจําเลยอีกสถานหนึ่ง เป็นเงิน 15,000 บาท ลดโทษตาม ป.อาญา ม. 78 ให้หนึ่งในสาม คงปรับ 10,000 บาท โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี คุมประพฤติจําเลยไว้ 1 ปี

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/