ป.ป.ช. จ่อชี้มูล 2 ตัวเต็งรมต.! ‘บิ๊ก’ สั่งชะลอเรื่องอ้างเตรียมยื่นขอความเป็นธรรม
เผยความคืบหน้าตั้งครม. ประยุทธ์ 1 ส่อวุ่น! เหตุรายชื่อนักการเมือง 'ตัวเต็ง' พรรคร่วมส่งชิงเก้าอี้ รมต. อย่างน้อย 2 ราย เอี่ยวคดีกล่าวหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโครงการเช่าระบบคอมพิวเตอร์-จัดจ้างรถซ่อมบำรุงถนน จ่อสรุปผลไต่สวนเป็นทางการแล้ว แต่ ‘บิ๊ก’ป.ป.ช. สั่งชะลอเรื่องอ้างมีคนติดต่อเตรียมยื่นขอความเป็นธรรม หวั่นเอื้อปย.
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังอยู่ระหว่างพิจารณารายชื่อบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ตามรายชื่อที่พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาลนำเสนอมาให้พิจารณา อย่างไรก็ตาม ในรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองนำเสนอมาแล้ว มีอย่างน้อย 2 รายชื่อ ที่อาจจะมีปัญหาในเรื่องความเหมาะสม เนื่องจากอยู่ระหว่างถูกไต่สวนในคดีกล่าวหาเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
โดยรายแรก ถูกกล่าวหาในคดีการเช่าระบบคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานเกี่ยวกับทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชน วงเงินหลายพันล้านบาท ในกระทรวงแห่งหนึ่ง ส่วนรายที่สองถูกกล่าวหาในคดีการจัดจ้างรถซ่อมบำรุงถนน ที่มีข้อพิพากกับเอกชน ซึ่งศาลปกครองมีคำพิพากษาให้เอกชนเป็นฝ่ายเอกชนชนะไปแล้ว
ทั้งนี้ ในขั้นตอนการไต่สวนทั้ง 2 คดีนั้น ป.ป.ช. รับเรื่องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนมานานแล้ว และใกล้ที่จะมีการสรุปผลการไต่สวนเป็นทางการในเร็วๆ นี้ โดยคดีการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ คณะอนุไต่สวนได้สรุปความเห็นเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว และเห็นว่ามีนักการเมือง และข้าราชการระดับสูงร่วมกันกระทำความผิด ส่วนคดีการจัดจ้างรถซ่อมบำรุงถนน เหลือสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องอีก 1-2 ปาก ก็จะมีสามารถสรุปสำนวนการไต่สวนเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาลงมติได้เช่นกัน
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับคดีการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น มีข่าวว่าล่าสุด ผู้ถูกกล่าวหาบางราย เตรียมที่จะยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีการประสานงานภายในไปยังผู้บริหารระดับสูงของ ป.ป.ช. รายหนึ่ง เพื่อขอให้ชะลอการพิจารณาผลสรุปการไต่สวนคดีไว้ก่อนแล้ว ซึ่งอาจทำให้การนำเสนอผลการไต่สวนคดีนี้ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องถูกเลื่อนออกไปได้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายใน ป.ป.ช.ว่า การดำเนินการดังกล่าว จะเป็นการเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหาบางรายให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่ เนื่องจากตามกฎหมาย ป.ป.ช. กำหนดไว้ชัดเจนว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับสำนวนการไต่สวนแล้ว จะต้องนำเรื่องเสนอต่อที่ประชุมไม่ช้ากว่าสามสิบวัน
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 52 ระบุว่า ในการพิจารณารายงานการไต่สวนเบื้องต้นหรือสํานวนการไต่สวน ให้คณะกรรมการป.ป.ช. มีอํานาจไต่สวนเพิ่มเติมหรือสั่งให้มีการไต่สวนเพิ่มเติมได้ตามที่เห็นสมควร
ในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบด้วยกับรายงานการไต่สวนเบื้องต้นหรือสํานวนการไต่สวนรวมทั้งที่ไต่สวนเพิ่มเติมแล้ว ให้ถือว่ารายงานหรือสํานวนดังกล่าว เป็นสํานวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาเพื่อมีมติว่ากรณีมีมูลตามที่กล่าวหาหรือไม่ภายในหกสิบวัน นับแต่วันที่มีการประชุมตามมาตรา 75 วรรคสอง
ขณะที่ มาตรา 75 วรรคสองระบุว่า ให้มีการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาสํานวนการไต่สวนเพื่อมีมติโดยเร็ว ซึ่งต้องนําเสนอต่อที่ประชุมไม่ช้ากว่าสามสิบวันนับแต่วันที่ประธานกรรมการได้รับสํานวนการไต่สวนเว้นแต่จะได้มีการนัดหมายให้มีการประชุมทุกวันอยู่แล้วและมีเรื่องอื่นค้างพิจารณาอยู่
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/