โปรดเกล้าฯ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ เป็นนายกฯ ลั่นจะสร้างประเทศให้มั่นคง-มั่งคั่ง-ยั่งยืน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 สมัยที่ 2 หลังที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวตหนุน 500 เสียง ขอบคุณ ส.ส.-ส.ว.-พรรคที่สนับสนุนร่วม รบ. จะบริหารประเทศซื่อสัตย์สุจริต ป้องกันทุจริตคอร์รัปชั่น ทำเพื่อชาติ-ประชาชนเต็มที่ เพื่อสร้างให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนตลอดไป
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 11 มิ.ย. 2562 ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้าทำพิธีรับพระบรมราชโองการโปรเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี (คนที่ 29 สมัยที่ 2) ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองต่าง ๆ มาร่วมพิธีด้วย
โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการโหวตเลือกจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 29 สมัยที่ 2 เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2562 ด้วยคะแนน 500 เสียง (เป็นเสียง ส.ว. 249 เสียง และเสียง ส.ส. 251 เสียง) ต่อ 244 เสียง (นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่)
นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อ่านพระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2562 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของทั้ง 2 สภา จึงแต่งตั้งให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 9 มิ.ย. 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร
(พล.อ.ประยุทธ์ ขณะรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี)
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวภายหลังพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า ด้วยวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นเกียรติยศ และสิริมงคลแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้ ตนและครอบครัวสำนึกพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น เทิดไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม จะปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธาน ตามพระปฐมบรมราชโองการ จะทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ จะมุ่งทันรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย และทุกช่วงวัย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้พร้อมขับเคลื่อนประเทศไปทุกด้าน ทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมือง การต่างประเทศ กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม ป้องกันการทุจริตและคอร์รัปชั่น ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับชีวิตประชาชนที่มีรายได้น้อย รวมถึงเกษตรกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพอิสระ จะใช้จ่ายงบประมาณอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ตาม พ.ร.บ.การเงินการคลังฯ ให้เอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก สร้างสังคมให้มีความรัก สามัคคี ปรองดองสมานฉันท์ เกื้อกูลกันทุกโอกาส และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมปกป้องรักษาเกียรติภูมิสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
“ขอขอบคุณ ส.ส. ส.ว. ในการทำหน้าที่ที่ผ่านมา ขอบคุณพรรคการเมืองที่มาร่วมรัฐบาลสนับสนุนผมให้มีโอกาสทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกวาระ สัญญาจะทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มที่ อย่างที่คาดหวังตั้งใจ ขอบคุณประชาชนชาวไทย ตำรวจ ทหาร ข้าราชการ ทุกภาคส่วน ภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคม ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะร่วมกันเป็นพลังเกื้อกูล สนับสนุนร่วมแรงรัฐบาล นำพาประเทศไทยให้สงบร่มเย็น มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตลอดไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
วันเดียวกัน ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้ลงมติ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เห็นชอบด้วยในการแต่งตั้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
จึงแต่งตั้งให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2562 เป็นปีที่ 4 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ชวน หลีกภัย
ประธานสภาผู้แทนราษฎร
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก BBC Thai