ศาลฎีกาไต่สวน 10 มิ.ย.นี้! 'วัฒนา'แจง 3 ข้อคดีบ้านเอื้ออาทร ไม่มีหลักฐานเรียกรับผล ปย.
'วัฒนา' โพสต์ ศาลฎีกาฯ ไต่สวนคดีบ้านเอื้ออาทร 10 มิ.ย. 62 -ปลาย ก.ย. แจง 3 ข้อ ปมทีโออาร์ มี คกก.รับผิดชอบ การเคหะฯไม่เสียหาย คุ้มทุน ไร้หลักฐานเรียกรับผล ปย. แถมบอกวันนัดเสร็จสรรพ เชิญสื่อ ประชาชน ร่วมสังเกตการณ์
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2562 นายวัฒนา เมืองสุข โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว (facebook) ในชื่อ Watana Muanngsook ระบุเกี่ยวกับคดีบ้านเอื้ออาทร ว่า คดีบ้านเอื้ออาทรกำลังเข้าสู่กระบวนการไต่สวน โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดไต่สวนพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 10 มิ.ย. 2562 ตั้งแต่เวลา 9:30-16:00 น. โดยเชิญสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมสังเกตการณ์และรับฟังการไต่สวน ทั้งระบุว่า คดีดังกล่าวไม่มีอะไรสลับซับซ้อน
รายละเอียดข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่า
"คดีบ้านเอื้ออาทรจะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาล โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดไต่สวนพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 10 มิถุนายน 2562 ตั้งแต่เวลา 9.30-16.00 นาฬิกา
เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจข้อเท็จจริงของคดีผมขอสรุปสาระสำคัญเพื่อทราบ ดังนี้
จากการรัฐประหารเมื่อปี พ.ศ. 2549 คณะรัฐประหารได้แต่งตั้ง คตส. ให้ดำเนินคดีกับ ครม. ของรัฐบาลทักษิณโดยคดีบ้านเอื้ออาทรเป็นหนึ่งในคดีที่ถูกตรวจสอบและดำเนินคดี ส่วนผมถูก คตส. กล่าวหาและดำเนินคดีทั้งคดีอาญาและคดีปกครองรวม 5 คดี โดย 4 คดีแรกศาลได้พิพากษายกฟ้องคดีเสร็จเด็ดขาดแล้ว เหลืออีกหนึ่งคดีคือคดีบ้านเอื้ออาทรที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนของศาล
คดีนี้ คตส. และ ป.ป.ช. กล่าวหาผมว่า (1) ผมใช้อำนาจหน้าที่ รมว.พม. แทรกแซงการปฏิบัติงานของคณะกรรมการและผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ให้ออกทีโออาร์การจัดทำโครงการบ้านเอื้ออาทรตามแนวทางที่ผมต้องการเพื่อจะใช้เป็นเครื่องมือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ (2) ผลของการออกทีโออาร์ดังกล่าวเป็นเหตุให้ กคช. ต้องรับซื้อโครงการแพงขึ้น และ (3) ผมรู้เห็นเป็นใจให้มีการเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการในโครงการบ้านเอื้ออาทร
ผมได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อหาโดยมีข้อเท็จจริงที่ให้การต่อศาลโดยสรุป ดังนี้
1. การปรับปรุงทีโออาร์มิได้เกิดขึ้นตามอำเภอใจของผมและมิได้มีการแทรกแซงใดๆ เพื่อสร้างช่องทางให้มีการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ แต่ได้ดำเนินการโดยคณะกรรมการตามอำนาจหน้าที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าของโครงการตามข้อเสนอแนะของ ครม. และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
2. ผลของการปรับปรุงเป็นประโยชน์ต่อดำเนินงานของ กคช. ทำให้ทำงานได้รวดเร็ว สามารถควบคุมต้นทุนได้ตลอดโครงการ ลดการขาดทุน ประชาชนได้ประโยชน์ ไม่ได้ทำให้ กคช. ต้องซื้อโครงการแพงขึ้นตามข้อกล่าวหาและทีโออาร์ยังคงถูกใช้จนถึงปัจจุบัน
3. ทีโออาร์ดังกล่าวออกมาเพื่อตัดช่องทางการใช้ดุลพินิจจนไม่มีช่องทางใดที่จะก่อให้เกิดระบบอุปถัมภ์เพื่อนำไปสู่การเรียกรับผลประโยชน์ได้ ผลการไต่สวนของ ป.ป.ช. จึงไม่ปรากฏว่ามีผู้หนึ่งผู้ใดกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการและ กคช. ไม่ได้รับความเสียหายมีแต่ได้รับประโยชน์ ไม่มีหลักฐานหรือเส้นทางการทุจริตเกิดขึ้นในโครงการและไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมถึงผมเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ตามข้อกล่าวหา นั่นคือเหตุผลที่คดีนี้จึงใช้เวลาในการไต่สวนถึง 12 ปี โดย ป.ป.ช. ที่มาตามรัฐธรรมนูญปกติไม่สามารถหาย้อยุติเพื่อดำเนินคดีกับผมได้ ต้องรอ ป.ป.ช. ชุดที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช. มาลงมติจึงทำให้คดีมาถึงศาลได้เพราะการรัฐประหารอีกครั้ง
ศาลจึงเป็นช่องทางเดียวที่ผมจะใช้พิสูจน์ความบริสุทธิ์เพื่อคืนความชอบธรรมให้กับตัวเอง โดยศาลได้กำหนดวันนัดไต่สวนไว้ ดังนี้ วันที่ 10 มิถุนายน วันที่ 8, 12, 15 และ 19 กรกฎาคม วันที่ 5, 16, 19 และ 26 สิงหาคม และ วันที่ 4, 14, 20 และ 27 กันยายน ตามลำดับ ตั้งแต่เวลา 9.30-16.00 นาฬิกาทุกวันนัด
จึงขอเรียนเชิญสื่อมวลชนและประชาชนที่สนใจเข้าร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยานรับฟังการไต่สวนร่วมกันกับผมตามวันและเวลาดังกล่าว ขอเรียนย้ำว่าคดีนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อนให้ต้องตีความ แค่รับฟังที่พยานให้การก็บอกได้ว่าจริงหรือเท็จ มารับรู้ร่วมกันครับ
วัฒนา เมืองสุข
7 มิถุนายน 2562"
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายวัฒนา เมืองสุข เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร และอดีตรัฐมนตรีหลายสมัย กับพวก กรณีถูกกล่าวหาว่า ทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการที่บริษัท พาสทีญ่า ไทย จำกัด ดำเนินการ โดยมีมูลความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 148 ฐานผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิตและมาตรา 149 ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต
ก่อนหน้า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 คณะกรรมการธุรกรรมในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่ง อายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว คดีนายวัฒนา เมืองสุข มีพฤติการณ์ทุจริตเรียกรับสินบนโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ปปง.อายัดเป็นที่ดิน 13 แปลง ในพื้นที่เขตลาดพร้าวและเขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ในชื่อนางสุดา คุณจักร รวมราคาประเมิน 51,532,950 บาท
อ่านประกอบ :
ฉบับเต็ม! คำสั่งอายัดที่ดิน 13 แปลง ในชื่อหญิงสาว คดี‘วัฒนา’สินบนบ้านเอื้ออาทร
ปปง.อายัดทรัพย์คดีสินบนบ้านเอื้ออาทร‘วัฒนา เมืองสุข’พวก ที่ดิน 13 แปลง 51.5 ล.
ป.ป.ช.ฟันเงียบ‘วัฒนา’คดีบ้านเอื้ออาทร-อัยการยังไม่ฟ้องสำนวนไม่สมบูรณ์ตั้ง กก.ร่วม