คกก.สิทธิฯ เดินหน้าสร้าง “อาสาสมัครพิทักษ์สิทธิชุมชน” ทั่ว ปท. นำร่องภาคใต้
เครือข่าย ปชช.ภาคใต้ แลกเปลี่ยนบทเรียนการต่อสู้ ชี้รัฐต้นตอละเมิดสิทธิ เรียกร้องศาลแยกคดีชุมชน-ทรัพยากรจากคดีทั่วไป คกก.สิทธิฯ สร้างอาสาสมัครพิทักษ์สิทธิชุมชน นำร่องภาคใต้
วันที่ 16 ก.ค.55 ที่โรงแรมไดอิชิหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อนุกรรมการด้านสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกับกลุ่มเครือข่ายประชาชนภาคใต้ จัดสัมมนาอาสาสมัครพิทักษ์สิทธิชุมชน เพื่อแลกเปลี่ยนกระบวนการต่อสู้พิทักษ์สิทธิชุมชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด เครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา เครือข่ายคัดค้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก-หินกรูด เครือข่ายคัดค้านท่อส่งก๊าซ-โรงแยกก๊าซและอุตสาหกรรมต่อเนื่องไทย-มาเลย์ เครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล เครือข่ายรักษ์ละแม เครือข่ายคัดค้านการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี-พุมดวง เข้าร่วม
มีการระดมข้อเสนอ ได้แก่ ให้เปิดโอกาสประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบในทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่น เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนระดับนโยบายมีข้อเสนอให้แยกการพิจารณาคดีอย่างชัดเจนระหว่างคดีทั่วไปกับคดีสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชนที่ลุกขึ้นมาปกป้องสิ่งแวดล้อมพิทักษ์สิทธิชุมชน ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น
น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ กล่าวว่าปัจจุบันมีความรุนแรงเกิดขึ้นกับประชาชน โดยมีสาเหตุมาจากรัฐละเมิดสิทธิด้านต่างๆ ทั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ยอมรับเสรีภาพพลเมือง ละเมิดสิทธิทางการเมือง ละเมิดสิทธิคนงาน ละเมิดสิทธิชุมชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของการพัฒนา หากเคารพรัฐธรรมนูญซึ่งบรรจุเรื่องสิทธิชุมชน ก็ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณาทั้งคดีอาญา คดีแพ่ง
น.พ.นิรันดร์ ยังกล่าวว่า ปัญหาการละเมิดสิทธิต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วประทศ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนไม่สามารถดำเนินการได้ทั่วถึงและรวดเร็วทันกับสถานการณ์ความความเดือดร้อนในพื้นที่ จึงต้องมีการสร้างอาสาสมัครในพื้นที่ภูมิภาคต่างๆ ให้เข้าไปมีบทบาทหน้าที่ช่วยรับเรื่องร้องเรียน ค้นหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อนส่งเรื่องต่อ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาและติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทำหน้าที่ให้ข้อมูลให้คำปรึกษากับประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ได้มีการอาสาสมัครในพื้นที่ภาคใต้ ในขณะเดียวกันในภูมิภาคต่างๆ ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง อยู่ระหว่างการสร้างกระบวนการอาสาสมัครเช่นเดียวกันเพื่อให้มีอาสาสมัครพิทักษ์สิทธิชุมชนทั่วประเทศต่อไป