ศาลปค.ไม่รับคำฟ้อง คดีเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฟ้อง กกต.ปมไม่รับเรื่องพล.อ.ประยุทธ์
ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องกรณีกกต. มีมติว่าการที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดช่องทางสื่อสารกับสาธารณชนไม่อาจถือได้ว่าเข้าข่ายการเป็นเจ้าของกิจการสื่อมวลชน อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามรฐัธรรมนูญ
วันที่ 5 มิถุนายน ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดในคดีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฟ้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้เพิกถอนมติของ กกต.ที่วินิจฉัยข้อร้องเรียนของผู้ฟ้องคดีว่า การที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดช่องทางสื่อสารกับสาธารณชนในรูปแบบเฟชบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ รวมถึงเว็บไซต์ส่วนตัว ไม่อาจถือว่าเข้าข่ายการเป็นเจ้าของกิจการสื่อมวลชนใดๆ อันจะมีผลเป็นการเข้าลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ จึงไม่รับกรณีตามหนังสือของผู้ฟ้องคดีไว้พิจารณา ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา ผู้ฟ้องคดีจึงยื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
โดยศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่า ศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ในการวินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวด้วยเหตุขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตามมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 และมาตรา 210 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ผู้ถูกฟ้องคดีจึงมีอำนาจที่จะพิจารณาวินิจฉัยว่า กรณีใดที่จะต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยหรือไม่ การที่ผู้ถูกฟ้องคดีมีมติไม่รับกรณีตามหนังสือของผู้ฟ้องคดี จึงเป็นการใช้อำนาจของผู้ถูกฟ้องคดี อันเป็นกระบวนการและขั้นตอนที่บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะในรัฐธรรมนูญข้อพิพาทนี้ จึงไม่ใช่คดีปกครองที่อยู่ในอำนาจพิพากษาของศาลปกครอง