สรรพากร เตือนนิติบุคคล 30 พ.ค.สิ้นสุดแจ้งข้อมูลหักรายจ่ายจ้างงานผู้สูงอายุได้ 2 เท่า

นักวิชาการทีดีอาร์ไอ เผยข้อมูลมาตรการลดหย่อยภาษีนิติบุคคลสำหรับองค์กรที่จ้างงานผู้สูงวัย พบ ปี 2560 มีนิติบุคคลที่ใช้สิทธิเพียง 454  จากกว่า  3 แสนองค์กร แนะคนใช้น้อย ต้องปรับแรงจูงใจให้ดึงดูดภาคเอกชน

วันที่ 27 พฤษภาคม นายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกรมสรรพากร กล่าวว่า ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้จะสิ้นสุดกำหนดเวลาการบันทึกข้อมูลบนระบการแจ้งการใช้สิทธิหักรายจ่าย 2 เท่าจากการจ้างงานผู้สูงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปเข้าทำงาน สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ดังนั้น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวจะต้องทำการบันทึกแจ้งข้อมูลลูกจ้างผู้สูงอายุใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขการจ้างผู้สูงอายุ

ทั้งนี้หากไม่แจ้งข้อมูลภายในกำหนดเวลาดังกล่าว บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะไม่สามารถใช้สิทธิประโยชน์สำหรับหักรายจ่ายค่าจ้างงานผู้สูงอายุได้ 2 เท่า ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ.2560 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 290 ) เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขฯ สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างงานผู้สูงอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ซึ่งกำหนดให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องแจ้งข้อมูลของผู้สูงอายุ ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีต่ออธิบดีกรมสรรพากรภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี โดยต้องแจ้งผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นางสาวณิชา พิทยาพงศกร นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้ให้ข้อมูลไว้ในงานสัมมนาประจำปี TDRI Annual Public Conference 2019 “สังคมอายุยืน: แข่งขันได้ และอยู่ดี มีสุข ได้อย่างไร?” ถึงมาตรการลดหย่อนภาษีนิติบุคคลสำหรับองค์กรที่จ้างงานผู้สูงวัย พบว่า ปี 2560 มีนิติบุคคลที่ใช้สิทธินี้ เพียง 454 องค์กร ทั้งๆ ที่ประเทศไทยมีนิติบุคคลกว่า  3 แสนองค์กร ซึ่งการที่รัฐบาลมีมาตรการแบบนี้ออกมาแล้วมีคนใช้น้อย จำเป็นต้องปรับแรงจูงใจการจ้างงานผู้สูงอายุให้ดึงดูดใจภาคเอกชน ศึกษาเพิ่มเติม การมีมาตรการลดหย่อนภาษีแล้ว แต่องค์กรใช้ประโยชน์น้อยต้องพิจารณาการออกกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงการคิดวิธีการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อช่วยจ้างงานผู้สูงอายุ

ขอบคุณภาพประกอบจาก ทีดีอาร์ไอ

p>