คำต่อคำ! แกนนำ พปชร. - ปชป. ในวัน (หยั่งเชิง) ส่งเทียบเชิญร่วมตั้งรบ.ครั้งแรก
“...ขอให้พวกเรารอดู เมื่อถึงเวลาที่มีรัฐบาล ในเวลานี้ เราต้องรอการลงคะแนนในส่วนของนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาล ก็ขอให้ขั้นตอนในกระบวนการสภานิติบัญญัติเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะเห็นความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ในวันนี้ก็หวังว่าทางพรรคพลังประชารัฐจะได้เสียงสนับสนุนจากพรรคร่วม..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 พ.ค.2562 ที่พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และตัวแทนกลุ่มสามมิตร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางด้วยรถตู้ 2 คัน เพื่อส่งเทียบเชิญพรรคประชาธิปั
ทั้งนี้ ภายหลังการเจรจาหารือ นายอุตตม ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า "ในวันนี้พรรคพลังประชารัฐจะถือโอกาสส่งหนังสือมาเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศเดินหน้าไปข้างหน้าได้ โดยในเรื่องของนโยบายนั้นแต่ละพรรคก็มีนโยบาย ดังนั้นจะมีต้องการมาพูดคุยเพื่อให้มีความสอดรับกัน"
เมื่อถามต่อว่า การเทียบเชิญในวันนี้นั้นมีเป้าหมายว่าจะต้องให้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอุตตมกล่าวว่า "ทางพรรคร่วมคงเข้าใจกันดีว่าถ้าจะมาร่วมกันนั้นเราจะสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างไร"
เมื่อถามถึงความไม่เป็นเอกภาพของพรรคพลังประชารัฐว่าจะมีปัญหาหรือไม่ เพราะเห็นจากการประชุมในรัฐสภาที่ผ่านมา ที่ยังมีความขัดแย้งในประเด็นโหวตเลือกประธานรัฐสภา นายอุตตมกล่าวว่า "เราไม่ได้มีปัญหารุนแรงอะไร ต้องยอมรับว่าเราไม่ได้เลือกตั้งกันมา 5 ปี พวกเราก็ต้องใช้เวลาหารือกัน แต่ขอยืนยันว่าเราเป็นทิศทางเดียวกันและพร้อมเดินหน้าไปด้วยกัน"
เมื่อถามถึงประเด็นความอยู่รอด ถ้าหากเป็นรัฐบาลปริ่มน้ำ นายอุตตมกล่าวว่า "ก็ต้องไปหารือกัน แต่พรรคพลังประชารัฐพร้อมจะขับเคลื่อนไปในสิ่งที่ถูกต้อง"
“ขอให้พวกเรารอดู เมื่อถึงเวลาที่มีรัฐบาล ในเวลานี้ เราต้องรอการลงคะแนนในส่วนของนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาล ก็ขอให้ขั้นตอนในกระบวนการสภานิติบัญญัติเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงจะเห็นความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ ในวันนี้ก็หวังว่าทางพรรคพลังประชารัฐจะได้เสียงสนับสนุนจากพรรคร่วม”นายอุตตมกล่าว
เมื่อถามย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐติดใจหรือไม่ที่พรรคประชาธิปัตย์นั้นมีท่าทีไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงหาเสียงหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า "อย่าใช้คำว่าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมันก็มีความเห็นจากหลายๆส่วน เอาเป็นว่ามันผ่านพ้นไปแล้ว วันนี้เราอย่าไปติดใจอะไร อย่าไปสร้างเงื่อนไขอะไร ทั้งนี้ ขอย้ำว่าพรรคพลังประชารัฐนั้นสามารถตั้งรัฐบาลได้ แม้จะมาจาก 20 พรรคก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากพรรคร่วมด้วยเช่นกัน"
ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ว่า วันนี้
เมื่อถามอีกว่าได้ข้อสรุปแล้
ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบคำถามสื่อมวลชนถึงความชัดเจนของพรรคประชาธิปัตย์ในการเข้าร่วมรั
"ส่วนการที่พรรคพลังประชารัฐเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะหลังจากได้รับการเทียบเชิญ พรรคจะมีเปิดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)ในวันที่ 28 พ.ค. เวลา 17.00น .โดยประมาณ และต่อด้วยการนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมระหว่างสส.และกก.บห. เพื่อตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลกับเขาหรือไม่ ส่วนที่มีข่าวว่าจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆให้ปชป.นั้น ยืนยันว่าตอนนี้ไม่มีอะไร และต้องรอให้กระบวนการของพรรคตัดสินใจจะร่วมหรือไม่ร่วมเสร็จสิ้นเสียก่อน จึงค่อยไปพูดถึงเรื่องตำแหน่ง"
เมื่อถามถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป. ประกาศจุดยืนในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่จะไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า "ต้องพูดคุยกันโดยนำเหตุผลต่างๆประกอบกัน ซึ่งรวมถึงเหตุผลของนายอภิสิทธิ์ด้วย และต้องมองถึงการทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้เช่นกัน ส่วนกรณีการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล จะครอบคลุมถึงทิศทางการเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ผมคิดว่าต้องนำมาพูดคุยในที่ประชุม เพราะ ปชป. เป็นพรรคที่มีความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น จึงต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกคน"
เมื่อถามว่ามีกระแสโจมตีพรรคว่าจะไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ แต่หากสุดท้ายไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้พรรคสูญเสียศรัทธาหรือไม่ นายเฉลิมชัย ชี้แจงว่า "ขอให้กก.บห.ตัดสินใจก่อนดีกว่า และไม่ว่าพรรคตัดสินใจอย่างไรเรามีเหตุผลทั้งสิ้น และยอมรับว่าจะมีผลต่ออนาคตทางการเมืองของพรรค"
เมื่อถามย้ำว่าหากร่วมรัฐบาลจริงจะอธิบายกับผู้ที่ลงคะแนน จำนวน 3.9 ล้านเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาอย่างไร นายเฉลิมชัย ชี้แจงว่า "ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ผมมั่นใจว่าเรามีเหตุผลให้กับทุกคน"
เมื่อถามว่าจากการประชุมสภาผู้แทนราษฏรในการเลือกประธานและรองประธานสภาฯ เสียงของสองขั้วการเมืองก้ำกึ่งกันมาก สามารถพลิกไปได้ง่ายและอาจทำให้รัฐบาลล่ม ดังนั้น พรรคจะตัดสินใจอย่างไรกับปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาล นายเฉลิมชัย กล่าวว่า "เราต้องพูดคุยในทุกมิติและต้องมองด้วยว่าในอดีตมีรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำยังสามารถอยู่ต่อไปได้ เพราะอยู่ที่การทำงานและการประสานงานมากกว่า ทั้งนี้ พรรคของยืนยันว่าไม่มีการเรื่องต่อรองตำแหน่งทางการเมือง"
เมื่อถามว่าโควต้ารัฐมนตรีของพรรคได้รับเป็น 6 หรือ 7 ตำแหน่ง เลขาธิการปชป. กล่าวว่า "ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ขอย้ำว่าการจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลต้องมีเหตุผลที่นำไปตอบคำถามได้ เพราะอย่างน้อยที่สุดในการหาเสียงเรามีนโยบายหลายอีกที่เป็นการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรอย่างแท้จริง ถ้าไม่ร่วมก็คือไม่ร่วม แต่ถ้าไปร่วมรัฐบาลคิดว่านโยบายของพรรคต้องถูกนำไปปฏิบัติได้ด้วย"
นายเฉลิมชัย กล่าวทิ้งท้ายถึงกรณีโอกาสของพรรคที่จะไม่ไปร่วมรัฐบาล ว่า "มีแน่นอน เพราะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของที่ประชุมร่วมระหว่างสส.และกก.บห. ผมเป็นเพียงส่วนหนึ่งและเป็นแค่คนหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจดังกล่าว แต่ถ้ามติออกมาเป็นอย่างไรต้องเป็นแบบนั้น วันนี้พรรคพลังประชารัฐแค่มาทาบทาม จึงขอให้มีการพูดคุยกันก่อน อย่างไรก็ตาม ของแบบนี้ปิดกันไม่ได้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ต้องแถลงอยู่แล้ว"
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/