ไฟไหม้บนเรือขนส่งสินค้า แหลมฉบัง กรมควบคุมมลพิษเข้าพื้นที่ตรวจเจอ สาร VOCs
เกิดเหตุไฟไหม้ บริเวณหัวเรือ KMTC LINE ที่จอด ณ ท่าเทียบเรือ บริษัทไทยแหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด สัญชาติ เกาหลี เบื้องต้นเกิดอาการผื่นคัน 18 คน ได้รับผลกระทบจากการหายใจ 2 คน มีบาดเจ็บเล็กน้อย กรมควบคุมมลพิษ ตรวจเจอประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย เกินมาตรฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2562 เวลาประมาณ 07.00 น. เกิดเหตุไฟไหม้ บริเวณหัวเรือ KMTC LINE ที่จอด ณ ท่าเทียบเรือ บริษัทไทยแหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด ที่เป็นสัญชาติ สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) โดยเบื้องต้นมีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว จำนวน 20 คน เกิดอาการผื่นคัน จำนวน 18 คน และ ผู้ได้รับผลกระทบจากการหายใจ จำนวน 2 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยนั้น
เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าว สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ที่เกิดเหตุ กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบต่อไป แต่ในเบื้องต้น คาดการณ์ว่า น่าจะเป็นตู้สินค้าทั่วไป เนื่องจากการตรวจสอบระบบคอมพิวเตอร์แล้วไม่มีการแจ้งเป็นการขนตู้สินค้าอันตราย ทั้งนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ได้ร้องขอให้เทศบาลนครแหลมฉบัง แจ้งอพยพประชาชนที่อยู่บริเวณใต้ลม อพยพออกจากพื้นที่ที่ได้ผลกระทบ เรียบร้อยแล้ว
เช่นเดียวกับเฟชบุค กรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ที่เกิดเหตุ น่าจะเป็นตู้สินค้าทั่วไปประเภทตุ๊กตา ของเด็กเล่น ประเภทพลาสติก เมื่อโดนไฟไม้ก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นกลุ่มควัน
จากนั้นเวลา 15.00 น. กรมควบคุมมลพิษ พร้อมสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 13 และสำนักงานทรัพยากรกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง และปภ.ชลบุรี รายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเนอร์ ท่าเรือแหลมฉบัง พบว่า ขณะตรวจสอบควบคุมเพลิงได้แล้วแต่ยังมีเขม่าควันค่อนข้างมาก เนื่องจากมีตู้คอนเทนเนอร์หลายร้อยใบที่ถูกเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงฉีดน้ำเลี้ยงอยู่ และจากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในเบื้องต้น พบว่า มีค่าสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Total VOCs) อยู่ในช่วง1.2-2.4 ppm ค่าสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) อยู่ในช่วง 0.92-1.96 ppm ซึ่งมีค่าเกินกว่าค่าขีดจำกัดการรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจแบบเฉียบพลัน ระดับที่ 1 กำหนดค่า 0.9 ppm ซึ่งเกินค่ามาตรฐานเล็กน้อย ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ผิวหนังอักเสบ และระคายเคืองตา
ทั้งนี้ เนื่องจากเกิดกลุ่มควันจำนวนมาก อำเภอศรีราชาได้สั่งการให้อพยพประชาชนที่อยู่ใต้ลมไปยังจุดที่ปลอดภัย และ คพ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณชุมชนที่ได้รับผลกระทบด้วยแล้ว หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
สำหรับสาร VOCs ย่อมาจาก Volatile Organic Compounds คือ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ส่วนใหญ่มักใช้เป็นสารประกอบและสารตัวทำละลายในงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ส่วนสารฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) เป็นก๊าซไม่มีสี จัดเป็นพิษที่ปนเปื้อนในอากาศที่เป็นปัญหาสุขภาพของมนุษย์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยทั่วไปสารชนิดนี้นิยมใช้ในอุตสาหกรรมสี กาว และสารเคลือบเฟอร์นิเจอร์ไม้ ไม้อัด และไม้แปรรูปอื่น ๆ หรือเกิดจากการเผาไหม้
ขณะที่นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Sonthi Kotchawat ถึงเหตุการณ์ตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ A2 ท่าเรือแหลมฉบังระเบิดปล่อยสารเคมีฟุ้งกระจายว่า คือ สารอันตราย ผลกระทบต่อสุขภาพจากการะเบิดที่ท่าเรือ จากกรณีที่ตู้คอนเนอร์บรรทุกสารเคมีในเรือ KMTC Honkong จอดที่ท่าA2 ของท่าเทียบเรือแหลมฉบังเกิดระเบิดและไฟไหม้มีสารอันตรายที่สำคัญคือ CAS No.1866-Resin solution ,3077 ,3078 - Cerium, turning or gritty powder ซึ่งข้อมูลจากเอกสารความปลอดภัยกล่าวถึงดังนี้
1.Resin solution เป็นสาร polyester Resin และอื่นๆส่วนมากจะเป็นองค์ประกอบของสารสไตรีนมีคุณสมบัติระเบิดและติดไฟได้ มีจุดวาบไฟที่ 33 องศา ต้องเก็บให้ห่างจากความร้อน การเกิดประกายไฟ พื้นที่ที่ร้อน ควรเก็บในตู้คอนเทนเนอร์โดยUse explosion-proof electrical/ventilating/lighting equipment มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยคือ มีผลต่อตา จะเกิดการระคายเคือง ทำให้เห็นภาพซ้อน รวมทั้งเกิดตาบวมแดงและหากได้รับปริมาณมากจะทำลายระบการมองเห็น,หากหายใจเช้าไปเกิดการระคายเคืองต่อระบบการหายใจ ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ง่วงซึม และอ่อนเพลียหากรับเข้าไปมากจะทำลายระบบประสาทส่วนกลาง,ผิวหนัง เกิดอาการแสบ คันอย่างรุนแรง เป็นต้น หากได้รับเข้าไปต้องใช้น้ำสะอาดล้างตาและร่างกายต่อเนื่องอย่างน้อย 15 นาที และส่งให้แพทย์ตรวจต่อไป การดับไฟต้องใช้ Foam. Dry chemical powder. Carbon dioxide (CO2)ห้ามใช้น้ำฉีดเข้าไป
2.สาร Cerium เป็นของแข็งประเภทโลหะลักษณะเป็นผงใช้เป็นผงทรายขัดกระจกหรือใช้ทำเป็นโลหะผสมสีมีสีเทาดำเป็นของแข็งที่สามารถลุกติดไฟได้เองและหากทำปฎิกริยากับน้ำอาจระเบิดได้ จึงต้องเก็บห่างจากความร้อน ห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่ที่เก็บ ต้องเก็บในพื้นที่ที่แห้งและปิดสนิท ห้ามเกิดการ Spark ของประกายไฟ เป็นต้น มีผลกระทบต่อสุขภาพคือเกิดการระคายเคืองต่อตา ระบบทางเดินหายใจ และผิวหนัง อย่างรุนแรงต้องล้างด้วยน้ำต่อเนื่อง 15 นาที และไปพบแพทย์ทันที มิฉะนั้นจะมีผลกระทบเรื้อรังและเป็นพิษต่อสัตว์อย่างรุนแรงเช่นกัน ,การดับไฟต้องใช้ Foam. Dry chemical powder. Carbon dioxide (CO2) ห้ามใช้น้ำฉีดเข้าไป
3.ชุมชนบ้านนาและใกล้เคียงควรระมัดระวังการสัมผัสของไอระเหยจากสารเคมีดังกล่าวอพยพออกมาอย่างน้อย 5 กิโลเมตร ท้ายลม
ด้านนายธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า ดูจะง่ายไปที่รายงานของทางการบอกว่า ตู้คอนเทนเนอร์ที่เกิดเหตุ น่าจะเป็นตู้สินค้าทั่วไปประเภทตุ๊กตา ของเด็กเล่น ประเภทพลาสติก เมื่อโดนไฟไม้ก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นกลุ่มควัน