เวทีพฤษภา 35 ชี้ ‘ประยุทธ์’ นั่งนายกฯ เปิดโอกาสตรวจสอบย้อนหลัง 5 ปี
เวทีรำลึก 27 ปี พฤษภาประชาธรรม ถกการเมืองใหม่ตามเจตนารมณ์วีรชน ‘ดร.อนุสรณ์’ หนุนร่วมปิดสวิตซ์ ส.ว. เลือกนายกฯ สืบทอดอำนาจ คสช. ให้ทำตามเสียง ปชช. ด้าน ‘จตุพร’ ชี้เป็นผลดี ‘ประยุทธ์’ อยู่ต่อ เปิดโอกาสตรวจสอบย้อนหลัง 5 ปี
วันที่ 17 พ.ค. 2562 มูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จัดงานรำลึก 27 ปี พฤษภาประชาธรรม พร้อมเสวนาสาธารณะ เรื่อง การเมืองใหม่กับการสืบสานเจตนารมณ์พฤษภาประชาธรรม ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ
ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า ประชาธิปไตยไทยถอยหลัง แต่ในวิกฤตยังมีโอกาสทำให้ขบวนการประชาธิปไตยและประชาชนเข้มแข็งมากขึ้น ทั้งนี้ เจตนารมณ์ของวีรชนพฤษา ปี 2535 หนึ่งในนั้น คือ คัดค้านการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และวันนี้สถานการณ์กลับมาสู่จุดคล้ายคลึงกัน แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด โดยเวลานี้มีการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขณะที่ปี 2535 สืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)
ความแตกต่างการทำรัฐประหารทั้งสองยุค คือ คณะรัฐประหารยุคหลังวางแผนมาอย่างดี เพื่อให้การสืบทอดอำนาจถูกยอมรับมากขึ้น ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เห็นได้ชัด ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ผู้นำคณะรัฐประหาร ออกแบบรัฐธรรมนูญทำให้พรรคการเมืองหรือกลไกทางการเมืองเกื้อหนุนต่อการสืบทอดอำนาจอย่างเต็มที่ และทำให้ฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอลงอย่างชัดเจน
นอกจากคัดค้านการสืบทอดอำนาจแล้ว คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวต่อว่า วีรชนพฤษภา ปี 2535 ยังมีเจตนารมณ์เรียกร้องให้ผู้นำประเทศมาจากการเลือกตั้ง ผู้บริหารประเทศ และรัฐสภามาจากประชาชน แต่เวลานี้ฝ่ายหนึ่งระบุมาจากการเลือกตั้งแล้ว แต่เป็นการเลือกตั้งที่มีข้อสงสัยว่า เสรีและเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา มีการดำเนินการต่างๆ นำไปสู่การบิดเบือนผลการเลือกตั้ง ถือเป็นสิ่งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตและรับทราบว่าเกิดปัญหาเช่นนี้
“มองในแง่ดี พรรคฝั่งประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้ง มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) มากอย่างชัดเจน ฉะนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ คาดหวังว่า ผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนจะยึดหลักการประชาธิปไตย ทำตามเจตนารมณ์ของประชาชน ปิดสวิตซ์สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ถ้า ส.ว.จะลงคะแนนเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องทำตามเสียงของสภาผู้แทนราษฎรหรืองดออกเสียง” ผศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าว
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ ปี 2540 เป็นผลพวงหลังจากเหตุการณ์พฤษภา ปี 2535 เป็นเวลา 5 ปี หัวข้อที่มีกรพูดกันมาก คือ การปฏิรูปการเมือง ต้องการสร้างนักการเมืองน้ำดี เพราะฉะนั้นจากปี 2535 เป็นต้นมา ประชาธิปไตยมีภูมิต้านทานเพียง 14 ปี เท่านั้น แต่หลังจากนั้นลุ่ม ๆ ดอน ๆ สั้นบ้างยาวบ้าง จนกระทั่งประเทศถึงปัจจุบันนี้
“หากมองในฐานะภาคประชาชน วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสของไทย ถ้ากระบวนการประชาธิปไตยรู้จักอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เชื่อว่า ไม่นานจะได้หวาน” ประธาน นปช. กล่าว และว่า วันนี้ตัวเลขดัชนีทางการเมืองสองฝ่ายออกมาเหมือนถูกล็อค เลือกอย่างไรก็ได้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อให้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคชาติพัฒนา มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคอนาคตใหม่ ยังไม่ได้ 376 เสียง เพราะพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ล็อคไว้หมดแล้ว
นายจตุพร กล่าวต่อว่า ในทางปฏิบัติทางการเมืองที่น่าสนใจ ขนาด ส.ส. ห่างกัน 50 เสียง สภาผู้แทนราษฎรยังล่ม ครั้งนี้ห่างกัน 3-4 เสียง ไม่รู้ว่าจะล่มกันวันไหน เพราฉะนั้นสภาผู้แทนราษฎรแทบไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ แต่กลับมีความพยายามจะ ‘โกงความตาย’ กันเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นนี่จึงเป็นบทเรียนที่สำคัญของประเทศไทย คนไทยเดิมอาจไม่เคยเห็นพิษสงรัฐธรรมนูญปี 2560 อย่างจริงจัง แต่สุดท้ายก็เห็นแล้ว
“ขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ถ้าไม่เป็นต่อ คนไทยจะเสียโอกาสมากที่สุด นี่จึงเป็นโอกาสของคนไทย เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะทำหน้าที่ตรวจสอบการทำหน้าที่ผ่านมา 5 ปีย้อนหลัง และเรื่องราวอื่น ๆ ที่ไม่เคยตรวจสอบได้มาก่อน” ประธาน นปช. ระบุ .
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/