เครือข่าย ปชช.สตูล จี้ สผ.เลิกอีไอเอท่าเรือปากบารา ร้อง กมธ.สอบถอนอุทยานฯเภตรา
เครือข่าย ปชช.สตูล เตรียมยื่น 5 พันรายชื่อ สผ.เลิกอีไอเอท่าเรือปากบารา ชี้ข้อมูลบิดเบือนกระทบชุมชนรุนแรงตามมาตรา 67 วรรคสอง ขอทำอีเอชไอเอแทน ยื่น กมธ.ทรัพยฯ สอบถอนอุทยานฯเภตรา
นายวิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี คณะทำงานเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า วันที่ 15-17 ก.ค.55 ตัวแทนชาวบ้าน ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล และเครือข่ายฯ จะเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการจัดทำรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โดยชุมชน กับสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เพื่อคานกับรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ท่าเรือน้ำลึกปากบารา ของกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม
และจะเดินทางไปยื่นหนังสือกับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในฐานะผู้อนุมัติอีไอเอท่าเรือน้ำลึกปากบารา พร้อมยื่นรายชื่อชาวบ้าน 5 พันคนให้ยกเลิกอีไอเอฉบับดังกล่าว เนื่องจากข้อมูลหลายประการบิดเบือนข้อเท็จจริงขาดความชอบธรรม อาทิ ระบุว่าทะเลอ่าวปากบาราเสื่อมโทรม มีสัตว์หน้าดินน้อย ทั้งที่นักวิชาการด้านทะลยืนยันว่ามีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำ สัตว์หน้าดินและปะการัง มีการค้นพบปูทหารปากบารา
นายวิโชคศักดิ์ กล่าวว่า เครือข่ายชาวบ้านขอให้มีการเริ่มกระบวนการทำอีเอชไอเอ เพราะเข้าข่ายเงื่อนไขโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ตามมาตรา 67 วรรคสอง รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 เนื่องจากมีความยาวหน้าท่าเกิน 300 เมตร ต้องมีการขุดลอกร่องน้ำมากกว่า 100,000 ตรม.ขึ้นไป มีการขนส่งสินค้าอันตราย ฯลฯ
นายวิโชคศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อปี 2554 เครือข่ายฯได้ยื่นหนังสือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อให้ สผ.พิจารณายกเลิกไอท่าเรือน้ำลึกปากบารา และให้จัดทำอีเอชไอเอแทน แต่ไม่ได้รับความสนใจ จึงมายื่นหนังสืออีกครั้งกับรัฐบาลใหม่
“ต่อจากนั้นเครือข่ายชาวบ้านจะเดินทางไปยื่นหนังสือให้คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ตรวจสอบกระบวนการขอเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา 4,734 กว่าไร่ เพื่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ว่าอยู่ไหนกระบวนการไหนแล้ว” นายวิโชคศักดิ์ ระบุ