'ดอน' รับทำหน้งสือถึง'นายกฯ'ถอนฟ้องฟิลลิปมอร์ริส ชี้เป็นข้อเสนอที่ดีทำเพื่อปย.ชาติ
'ดอน ปรมัตถ์วินัย' รมว.รับทำหน้งสือถึงนายกฯ ถอนฟ้องคดีฟิลลิป มอร์ริส ปมบุหรี่นำเข้า แลก ฟิลิปปินส์ไม่ฟ้องไทยในเวที WTO จริง ชี้เป็นข้อเสนอที่ดี ทำปย.ต่อประเทศชาติ หลังเพจ CSI LA เผยเอกสารลับ ด้าน 'บิ๊กตู่' ปัดตอบ แจงยังไม่เห็นเรื่อง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟสบุ๊ค CSI LA ได้โพสต์ข้อความบนหน้าเว็บไซต์ระบุถึง เอกสารลับที่ส่งมาจากนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซึ่งขอให้รัฐบาลยุติการฟ้องร้องคดีอาญาบริษัทฟิลลิป มอร์ริส อ้างมีข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับการไม่ให้ฟิลิปปินส์ยื่นฟ้องไทยใน องค์กรการค้าโลก(WTO) และเสนอเงินสนับสนุนการยาสูบของไทย และให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจฝ่ายบริหารแก้ไขเรื่องนี้ก่อนศาลอาญามีคำพิพากษาคดี
เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2562 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า "ข้อเสนอที่เกี่ยวข้องที่ได้มีการทำมาถึงทางประเทศไทยถือว่าเป็นข้อเสนอที่ดีมาก ซึ่งการที่ผมได้ทำหนังสือไปถึงทางนายกรัฐมนตรีผ่านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นั้น ก็เพื่อต้องการที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับประเทศ และต้องการที่จะทำให้ประเทศไทยนั้นได้รับผลประโยชน์มากที่สุด ก็อยากจะให้ไปอ่านรายละเอียดในหนังสือที่ผมร่างอย่างละเอียดด้วย แล้วจะทราบข้อมูลว่ามันเป็นประโยชน์ต่อประเทศจริงๆ"
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้สั้นๆว่า "ขณะนี้ยังไม่เห็นเรื่องนี้"
อนึ่ง สำหรับเอกสารลับ ที่เพจเฟสบุ๊ค CSI LA นำมาเปิดเผยลงวันที่ 7 ม.ค. 2562 นายดอน ได้ส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ขอให้ระงับข้อพิพาทระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์กรณีสินค้าบุหรี่นำเข้า ระบุว่า
กระทรวงการต่างประเทศขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา ขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาทำให้คำสั่งไม่ฟ้อง บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล (PMI) กลับมามีผลใหม่ หรือหยุดกระบวนการดำเนินคดีในศาลไทยชั่วคราว ตามข้อเสนอของบริษัทฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล PMI
ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ยุติการฟ้องร้องคดีอาญากับบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย PMLI และทบทวนการตีความและการบังคับใช้กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ ให้สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้ WTO กรณีที่ Compliance Panel ตัดสินว่ามาตรการของไทยขัดต่อพันธกรณีภายใต้ WTO ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศให้ความเห็นว่า หากสามารถทำได้โดยเร็ว ไทยก็อาจเจรจากับฟิลิปปินส์โดยตรงเพื่อให้ยุติคดีใน WTO
โดยให้เหตุผลว่า หากไทยกับฟิลิปปินส์ ไม่สามารถเจรจาหาข้อยุติร่วมกันได้ และคำตัดสินของ WTO มีผลเป็นที่สุดแล้ว ไทยจะมีพันธกรณีที่จะต้องยกเลิกหรือแก้ไขมาตรการที่ยังขัดกับกฏเกณฑ์ภายใต้ WTO หากไม่ปฏิบัติตาม ไทยก็อาจต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือรับผลของมาตรการตอบโต้ทางการค้าจากฟิลิปปินส์ เป็นมูลค่าเท่ากับความเสียหายที่อีกฝ่ายได้รับ ซึ่งฟิลิปปินส์อาจประเมินค่าความเสียหายเท่ากับค่าปรับที่ ฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย ต้องจ่าย 68,000 ล้านบาท ซึ่งการไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของ WTO อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทยกับฟิลลิปินส์ และความเชื่อมั่นของไทยจากประชาคมโลก
เอกสารลับที่สุดยังระบุด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศขอให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจฝ่ายบริหารที่จะแก้ไขเรื่องนี้ ก่อนที่ศาลอาญาของไทยมีคำพิพากษาตัดสินให้บริษัทและผู้บริหารบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย PMTL ได้รับโทษจำคุกหรือถูกปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ก็จะไม่อยู่ในอำนาจของฝ่ายบริหารที่จะดำเนินการแก้ไขหรือบรรเทา และอาจกระทบความสำพันธ์ระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ รวมถึงสหรัฐอเมริกา ที่เป็นสัญชาติของบริษัทแม่ของ PMTL และยังมีความเป็นไปได้ที่ฟิลิปปินส์ จะฟ้องไทยใน WTO บนพื้นฐานของคำพิพากษาของศาลอาญาไทยเพิ่มเติมอีก
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณามอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร สำนักงานอัยการสูงสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาข้อเสนอของ PMI เพื่อหาทางยุติข้อพิพาทอย่างฉันมิตร โดยมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานเสนอรายงานให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
ในเอกสารระบุว่าข้อพิจารณาทั้งหมดเป็นไปตามข้อเสนอของบริษัท Philip Morris International (PMI) ที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัท ได้เข้าพบหารือกับเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 เสนอให้ฝ่ายไทยยุติการดำเนินคดีอาญาในประเทศไทย โดยในทางกลับกัน PMI จะดำเนินการเพื่อให้รัฐบาลฟิลิปปินส์ยุติกระบวนการระงับข้อพิพาทที่ไทยฟ้องไทยใน WTO
โดยทาง PMI เสนอมอบเงินสนับสนุนการยาสูบแห่งประเทศไทย เพื่อดำเนินการในเรื่องที่ฝ่ายไทยให้ความสำคัญ เช่น การซื้อใบยาสูบและการแก้ไขปัญหาการค้ายาสูบผิดกฎหมาย และพร้อมจะร่วมมือกับไทยในเรื่องกฏเกณฑ์ต่างๆ เช่น จะไม่คัดค้านและจะปฏิบัติตามนโยบายของไทยเรื่องฉลากบุหรี่แบบเรียบ
ข้อเสนอของบริษัทฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล PMI ยังแจ้งด้วยว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ แต่จะไม่ใช้วิธีกดดันระดับสูงกับไทย และได้แจ้งรัฐบาลสหรัฐแล้วว่าไม่ควรรวมเรื่องนี้ไว้ในประเด็นพิจารณาการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรแก่ไทย จึงเสนอให้ไทยพิจาณาหยุดกระบวนการดำเนินคดีในศาลไทยชั่วคราว ทั้งคดีสินค้าบุหรี่นำเข้าจากฟิลิปปินส์และคดีสินค้าบุหรี่นำเข้าจากอินโดนีเซียเพื่อให้เจราจาหาทางออกร่วมกัน โดยฝ่ายไทยไม่จำเป็นต้องถอนคดี
นอกจากนี้ยังพบว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีความพยายามในการเสนอให้ระงับข้อพิพาทนี้ไปยังนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปเมื่อวันที่ 23 กรกฏคม 2561
สำหรับข้อพิพาทกรณีสินค้าบุหรี่นำเข้า เป็นคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2549 หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินคดีกับบริษัทฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย กรณีหลบเลี่ยงภาษีบุหรี่มากกว่า 68,000 ล้านบาท เมื่อปี 2546-2550 และต่อมาอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหา บริษัทหรือ PMTL ฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย 12 ราย ในปี 2559 ขณะที่ฟิลลิป มอร์ริส มีความพยายามที่จะให้ไทยถอนฟ้องในคดีนี้ และไปสนับสนุนประเทศฟิลิปปินส์ให้ฟ้องบังคับคดีกับไทยต่อ WTO กล่าวหาว่าการดำเนินคดีอาญาของไทยขัดต่อหลัก WTO (ดูภาพประกอบ)
(ข้อมูลจาก:เว็บไซต์ https://web.facebook.com/CSILA90210/posts/2227657103978669?__tn__=K-R)
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/