จะโยนกัญชาทิ้ง...ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3 ทศวรรษ
"...สุดท้ายเรายังเห็นได้ว่า มีทั้งหมอ หน่วยงานสาสุข นักการเมือง กลุ่มคนติดยาทั้งบนดินและใต้ดิน รวมถึงสาวกลัทธิเขียว ยังโฆษณาประชาสัมพันธ์เรื่องนี้กันอย่างบ้าคลั่ง แถมมีการตีตราบรรจุว่าการลดปวดนี้เป็นสรรพคุณที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง จะเอามาใช้ทางการแพทย์..."
"จะโยนกัญชาทิ้ง...ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 3 ทศวรรษ"
วลีข้างต้นคือการคาดเดาของผมจากข้อมูลวิชาการบางอย่างที่กำลังชี้ให้เห็นแนวโน้มเรื่องนี้
หากดูผลสำรวจเหตุผลในการใช้กัญชาในการรักษาการเจ็บป่วยไม่สบาย ส่วนใหญ่แล้วประชาชนในประเทศที่มีการอนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์และ/หรือเสรีกัญชา มักจะอ้างว่าใช้เพื่อลดอาการปวด จะปวดหัวปวดหลังปวดบ้าปวดบออะไรก็แล้วแต่
หลักฐานการวิจัยที่มีการกล่าวอ้างถึงนั้นมีจำกัดมาก และไม่ได้มาตรฐานที่ดีพอที่แพทย์จะฟันธงบอกได้ว่า กัญชานั้นรักษาอาการปวดได้จริง เพราะมักเป็นวิจัยที่ไม่ได้มีการสุ่มและมีกลุ่มควบคุมเป็นยามาตรฐาน แต่มักเป็นวิจัยเอาสารสกัดกัญชาไปเทียบกับยาหลอก
แปลง่ายๆ ว่า ต่อให้ผลวิจัยออกมาบอกว่า กัญชาหรือสารสกัดจากกัญชานั้นสามารถลดปวดได้ดีกว่ายาหลอก นั่นก็มิได้บอกว่าดีกว่ายาแก้ปวดมาตรฐาน
กระแสความเชื่อว่ากัญชานั้นดีอย่างโน้นอย่างนี้ ทั้งสร้างรายได้ ปลอดภัย และมีสรรพคุณนั้นถูกจุดติดและลามไปจนหาทางแก้ไขควบคุมได้ยาก ไม่ใช่แค่แก้ปวด แต่แก้โรคาพยาธิร้อยแปดพันเก้า
คราวนี้ลองหันมาดูว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วเค้าเรียนรู้อะไรบ้างจากสิ่งที่เขาหลงผิดทำมากว่าสองทศวรรษ
เอาเรื่องกัญชากับอาการปวดละกัน เพราะใช้กันมากสุด
1. Cochrane systematic review ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลการทบทวนงานวิจัยอย่างเป็นระบบ ที่ได้รับการเชื่อถือมากที่สุดในโลก ทำการทบทวนเรื่องกัญชากับสรรพคุณลดอาการปวดจากระบบประสาท (neuropathic pain) เสร็จสิ้นและเผยแพร่มาในปีค.ศ.2018 สรุปชัดเจนว่า "There is a lack of good evidence that any cannabis-derived product works for any chronic neuropathic pain."
แต่สุดท้ายเรายังเห็นได้ว่า มีทั้งหมอ หน่วยงานสาสุข นักการเมือง กลุ่มคนติดยาทั้งบนดินและใต้ดิน รวมถึงสาวกลัทธิเขียว ยังโฆษณาประชาสัมพันธ์เรื่องนี้กันอย่างบ้าคลั่ง แถมมีการตีตราบรรจุว่าการลดปวดนี้เป็นสรรพคุณที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง จะเอามาใช้ทางการแพทย์
2. Tuttle และคณะ เค้าทำการศึกษาติดตามพบว่า งานวิจัยที่ศึกษาสรรพคุณกัญชาเพื่อลดปวดจากระบบประสาทนั้น สรรพคุณที่กล่าวอ้างว่าดีกว่ายาหลอกนั้นลดลงเรื่อยๆ
กล่าวคือ ในปีค.ศ.1990 กัญชาดูจะได้รับการประเมินโดยคนไข้ว่าลดปวดได้ดีกว่ายาหลอกราวร้อยละ 16.5 หรือลดคะแนนการปวดได้ 1 แต้มดีกว่ายาหลอก แต่ในปีค.ศ.2013 กลับพบว่าลดปวดได้ดีกว่ายาหลอกเหลือเพียงร้อยละ 8.9 เท่านั้น
สิ่งที่ชี้ให้เห็นคือ สรรพคุณที่กล่าวอ้างว่าลดปวดได้ โดยเทียบกับยาหลอกนั้น ไม่เพียงพอที่จะคนที่มีสติสัมปะชัญญะที่ดีจะนำมารีบร้อนบุ่มบ่ามใช้รักษาคนไข้ เพราะประโยชน์ที่เกิดนั้นอาจมีน้อยหรือไม่มีจริง แต่โทษนั้นมีแน่ๆ ทั้งในเรื่องสารเคมีที่นำเข้าสู่ร่างกายโดยไม่จำเป็น ตลอดจนความเสี่ยงจากการมีปฏิกิริยากับยามาตรฐานหรือยาอื่นๆ แถมรู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นสารเสพติดและมีผลต่อระบบจิตประสาท รวมทั้งการเสียเงินทองซื้อของที่ไม่ดีจริงไม่ว่าจะเป็นการควักกระเป๋าจ่ายเองหรือจะผลักดันให้กองทุนสุขภาพจ่ายให้ก็ตาม
ทอง...ยังไงก็เป็นทอง แต่ของปลอม...ยังไงก็เป็นของปลอม เพียงแต่ใช้เวลาในการพิสูจน์หรือเรียนรู้
ที่เล่ามานั้น ชี้ให้เห็นว่า แค่เรื่องการลดอาการปวด เค้าใช้เวลาสังเกตการณ์ถึง 23 ปี จนเห็นแนวโน้มว่า เฮ้ย...มันอาจเป็นของหลอกเด็ก
แต่พอหันมาดูปรากฏการณ์ในบ้านเมืองที่อวดอ้างตีตรากันร้อยแปดพันเก้า ประชาชนหลงเชื่อยังไม่หนักหนาเท่ากับการที่ทั้งวิชาการ การเมือง และฝ่ายบริหารจะไปหลงเชื่อคำคน จนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ออกนโยบายวิ่งหน้าตั้งเข้าสู่กับดักที่เห็นอยู่แล้วว่ามันเป็นเหว
สองทศวรรษคงไม่เพียงพอที่จะกู้คืน
อาจต้องเผื่อไว้ให้สามทศวรรษ เพื่อให้กระจ่าง และหาทางลดผลกระทบทางลบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคม รวมถึงลูกหลาน
ประชาชนที่รู้เท่าทันในเรื่องนี้ ควรเตรียมรับมือ ดูแลลูกหลานให้ดี เพราะพวกเขาต้องใช้ชีวิตในสังคมอุดมกัญชาครับ
ด้วยความปรารถนาดีต่อทุกคน
สวัสดีวันอาทิตย์ครับ...
อ้างอิง
1. Mücke M, Phillips T, Radbruch L, Petzke F, Häuser WMücke M, Phillips T, Radbruch L, Petzke F, Häuser W.Cannabis-based medicines for chronic neuropathic pain in adults. Cochrane Database of Systematic Reviews 2018, Issue 3. Art. No.: CD012182.DOI: 10.1002/14651858.CD012182.pub2.
2. Tuttle A. H., Tohyama S., Ramsay T., Kimmelman J., Schweinhardt P., Bennett G. J., et al. . (2015). Increasing placebo responses over time in U.S. clinical trials of neuropathic pain. Pain 156, 2616–2626. 10.1097/j.pain.0000000000000333
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากไทยรัฐ