คอ.นธ.ชงรัฐลุย 7 ยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ ตั้งทีม ศอ.บต.บริหารพื้นที่แทนผู้ว่าฯ
คอ.นธ.ชุดที่มี "อุกฤษ มงคลนาวิน" เป็นประธาน เสนอรัฐบาลดัน 7 ยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ ให้ตั้ง "คณะผู้บริหารพื้นที่" มีเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นหัวหน้า รับผิดชอบงานแทนผู้ว่าฯและส่วนราชการทั้งหมด แก้ปัญหาความไร้เอกภาพ พร้อมตรากฎหมายปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษเหมือน กทม.-เมืองพัทยา ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้วทำโครงการคืนอาวุธสงคราม ใครยังครอบครองมีโทษถึงประหาร
คณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ. ที่มี นายอุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน ได้จัดสัมมนาเพื่อแถลงผลการดำเนินงานในรอบ 6 เดือน ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ เมื่อวันพุธที่ 11 ก.ค.2555 โดยเนื้อหาหลักของการสัมมนาคือการนำเสนอยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายอุกฤษ ปาฐกถาพิเศษในเรื่องนี้ โดยระบุตอนหนึ่งว่า ภายหลังจากที่ คอ.นธ.ได้ศึกษาสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่ง และแม้จะมีการดำเนินการในภาคส่วนต่างๆ เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ปัญหายังคงดำรงอยู่ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนซับซ้อนและเชื่อมโยงกันทั้งในระดับบุคคล โครงสร้าง และระดับวัฒนธรรม
ทั้งนี้ คอ.นธ.จึงขอเสนอให้รัฐบาลดำเนินการตามแนวทาง 7 ยุทธศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาภาคใต้ ดังนี้
1.ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง รัฐบาลต้องปรับปรุงหรือบูรณาการหน่วยงานที่รับผิดชอบให้เป็นเอกภาพ ต่อเนื่องในการบริหารจัดการทางการเมืองการปกครองในจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใน 3 ปี ก่อนที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2555-2557 (จัดทำโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ) ด้วยการสรรหาและแต่งตั้ง "คณะผู้บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้" ขึ้นมาคณะหนึ่ง เพื่อรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และรับผิดชอบการปฏิบัติหน้าที่และบริหารราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าฯ และราชการส่วนอื่น
"คณะผู้บริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้" จะประกอบไปด้วยเลขาธิการ ศอ.บต.เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหาร มีกรรมการอื่นๆ ซึ่งเปรียบเสมือนทีมงานของ ศอ.บต.ในการปฏิบัติงาน ส่วนวิธีการได้มาซึ่งคณะบริหารนั้น จะมาจากคณะกรรมการสรรหาจำนวน 7 คน ทำหน้าที่สรรหาผู้บริหารจากบัญชีคณะบุคคลที่สมัครหรือเสนอบัญชีรายชื่อเข้ามาเป็นทีม
แนะ"ปกครองพิเศษ"จัดการท้องถิ่นตนเอง
2.ยุทธศาสตร์ด้านการปกครองและการบริหารราชการ รัฐบาลควรพิจารณาปรับปรุงควบคู่กับยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง โดยต้องมีหลักการบริหารจัดการท้องถิ่นของตัวเองอย่างแท้จริงในรูปแบบการปกครองเช่นเดียวกันกับ "กรุงเทพมหานคร" หรือ "เมืองพัทยา" ที่เป็นการปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เพื่อให้การบริหารราชการในแต่ละจังหวัดเหมาะสม คล่องตัว เหมาะกับวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของสังคม
3.ยุทธศาสตร์ด้านการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ต้องมีคณะทำงานชุดพิเศษขึ้นมาทำหน้าที่แสวงข้อเท็จจริงที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม และคลี่คลายคดีความที่เกี่ยวกับความไม่สงบ พร้อมๆ กับการพิจารณายกเลิกกฎหมายความมั่นคงที่ไม่เป็นธรรมที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ อาทิ การยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)
ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ตรวจรถ-ยาเสพติด
4.ยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยแบ่งออกเป็น
(1) การให้กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ออกกฎกระทรวงแก้ไขเพิ่มเติมให้รถยนต์และยานพาหนะทุกชนิดติดตั้งเทคโนโลยี RFID (เทคโนโลยีที่ใช้ระบุอัตลักษณ์ของสิ่งต่างๆ โดยอาศัยคลื่นวิทยุ คล้ายบาร์โค้ด) เพื่อแสดงอัตลักษณ์รถยนต์ บอกข้อมูลเกี่ยวกับเลขทะเบียนรถ
(2) นำเทคโนโลยี RFID มาใช้กับจุดตรวจหรือจุดสกัดยานพาหนะ ร่วมกับระบบ CCTV (กล้องโทรทัศน์วงจรปิด) และการตรวจยาเสพติด
(3) การเพิ่มแสงสว่างตามแนวคิด "แสงสว่างส่องทาง แสงสว่างส่องใจ" โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลัก
5.ยุทธศาสตร์การแก้ปัญหาเรื่องอาวุธสงคราม ให้มีรายละเอียดการกำหนดประเภทอาวุธสงครามโดยทำบัญชีไว้ พร้อมกำหนดเวลาผู้ครอบครองให้นำมามอบให้ราชการ หากนำมามอบตามกำหนดก็ไม่มีความผิด แต่หากเลยเวลาต้องจ่ายค่าชดเชยตามความเป็นธรรม หากเกินกำหนดและมีอาวุธสงครามในครอบครองก็ให้มีโทษหนัก นอกจากนี้หากมีอาวุธสงครามในครอบครอง ไม่นำมาคืนและนำไปก่ออาชญากรรมก็ให้มีโทษประหารชีวิต
6.ยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา รัฐบาลต้องพัฒนาการศึกษาโดยเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกลุ่มบุคคลที่มีความแตกต่างให้เห็นการยอมรับและคุณค่ากันและกัน
7. ยุทธศาสตร์ด้านการบริการสาธารณสุข จัดให้มีบริการสาธารณสุขให้เพียงพอกับปัญหาสถานการณ์ความรุนแรง โดยการเพิ่มแพทย์และหน่วยพยาบาลพร้อมวางมาตรการในการคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สิน
นายอุกฤษ กล่าวด้วยว่า จะนำข้อเสนอทั้งหมดนี้ส่งถึงรัฐบาลภายใน 2 สัปดาห์ โดย คอ.นธ.จะประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีเพื่อหาแนวทางขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ :
1 อรรถภูมิ อองกุลนะ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเนชั่น เอื้อเฟื้อข่าวงานสัมมนา คอ.นธ.
2 ภาพประกอบจาก www.bangkokbiznews.com