ความเหมือนที่แตกต่าง ระหว่าง ‘ดอน ปรมัตถ์วินัย’กับ’ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’
"...ประเด็นนี้เป็นประเด็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป เพราะข้อเท็จจริงต่างกัน จะนำข้อเท็จจริงในคดีของนายดอนมาสรุปเป็นบรรทัดฐานนำไปใช้กับคดีของนายธนาธรไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่ข้อกฎหมายที่จะถือเป็นบรรทัดฐานได้..."
ประเด็นการถือหุ้นของคู่สมรสของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศที่จะมีผลให้ต้องหลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรี กับการถือหุ้นสื่อของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ที่จะมีผลให้หลุดจากการเป็น ส.ส.มีประเด็นที่เหมือนกัน คือ มีการโอนหุ้นเมื่อไรกันแน่ เป็นการทำเอกสารย้อนหลังหรือไม่
แม้จะเป็นประเด็นเดียวกัน แต่มีความแตกต่างกัน
ประเด็นนี้เป็นประเด็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป เพราะข้อเท็จจริงต่างกัน จะนำข้อเท็จจริงในคดีของนายดอนมาสรุปเป็นบรรทัดฐานนำไปใช้กับคดีของนายธนาธรไม่ได้ เนื่องจากไม่ใช่ข้อกฎหมายที่จะถือเป็นบรรทัดฐานได้
กรณีของนายดอน เป็นเรื่องที่แม่โอนหุ้นให้ลูก ไม่มีการจ่ายเช็ค จึงไม่มีคำถามว่า นำเช็คไปเรียกเก็บเงินหรือไม่ อย่างไร
ไม่มีคำถามว่า บริษัทขาดทุนอย่างมาก ทำไมยังใจร้ายโก่งราคาขายให้แม่ตัวเองในราคาพาร์
ภรรยานายดอนโอนให้ลูกโดยตรง ไม่ต้องโอนผ่านหลานกลับไปกลับมา จึงไม่มีประเด็นว่า หลานจ่ายเงินค่าหุ้นให้แม่หรือไม่ เพราะขนาดลูกยังไม่ยอมให้แม่ฟรีๆ แม่จะให้หลานฟรีๆ ได้อย่างไร
บริษัทของภรรยานายดอน ไม่มีประเด็นว่าจะเลิกกิจการจนต้องโอนหุ้นให้หลานเพื่อให้ฝึกหัดวิทยายุทธในการทวงหนี้ แต่หลานกลับบอกว่า เข้ามาถือหุ้นเพื่อจะดำเนินกิจการต่อ แต่เห็นว่าไม่คุ้มจึงโอนหุ้นกลับคืนให้แม่
การทำสัญญาโอนหุ้นของภรรยานายดอน ไม่ต้องทำต่อหน้าทนายโนตารี เพราะไม่ได้นำสัญญาไปใช้ต่างประเทศ จึงไม่มีใครเขาทำกัน
วันทำสัญญา ภรรยานายดอนไม่ต้องตาลีตาเหลือกบึ่งเร็วจี๋รถจนได้ใบสั่ง 3 ใบ จากอำเภอสตึก บุรีรัมย์ เพื่อกลับบ้านลงชื่อในสัญญาโอนหุ้นให้ทันในวันลงในสัญญา
นายดอน ต่อสู้คดีตามครรลองด้วยความสงบ นำพยานหลักฐานชี้แจงต่อศาลว่า ได้โอนหุ้นไปตามวันที่ลงในสัญญาจริง โดยไม่ดราม่าอ้างประชาธิปไตย ไม่โวยวายว่าถูกกลั่นแกล้ง ไม่ต้องเรียกฝรั่งต่างชาติเข้าแถวมาให้กำลังใจ
คดีของนายดอน ศาลรัฐธรรมนูญเชื่อว่า โอนหุ้นกันจริงตามวันที่ทำสัญญา โดยคะแนนเสียง 6:3 เท่ากับมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่านไม่เห็นด้วย แต่เมื่อผ่านกระบวนการพิจารณาแล้วเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ผิด ทุกคนก็ต้องยอมรับ
น้องฟ้าช่วยไปบอกพ่อธนาธรด้วยว่า ให้ต่อสู้คดีตามระบบ หยุดดราม่า พิสูจน์ให้ได้ว่าโอนหุ้นจริงในวันที่ 8 มกราคม 2562 การกลับบ้านวันที่ 8 มกราคม ไม่ว่าเวลาใด ไม่ใช่ประเด็นชี้ขาดว่า มีการโอนหุ้นในวันนั้น
ถ้ากลับมาไม่ทัน ข้ออ้างเรื่องทำสัญญาโอนหุ้นวันที่ 8 มกราคม ก็เป็นเท็จ แต่ถ้ากลับมาทัน อาจจะทำสัญญากันจริงหรือไม่จริงก็ได้ ต้องพิสูจน์กันต่อไป
น้องฟ้าทั้งหลายอย่าหลงไหลเคลิบเคลิ้มไปตามวาทะกรรมที่พ่อก่อขึ้นจนลืมประเด็นสำคัญ