อย่าหลงประเด็นกรณีการโอนหุ้น'ธนาธร'
"...แต่ที่เป็นประเด็นให้มีการตรวจสอบเนื่องจาก เอกสารที่แม่คุณธนาธรยื่นต่อนายทะเบียนเองระบุว่าหุ้นที่แม่รับโอนมาจากลูก ลงทะเบียนวันที่ 21 มี.ค. 2562 หลังศาลฎีกามีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการสมัครสส.ของลูกพรรคอนาคตใหม่คนหนึ่ง จากสาเหตุการถือครองหุ้นสื่อเช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 ผู้คนจึงสงสัยว่า คุณธนาธรโอนหุ้นเมื่อไรกันแน่..."
ประเด็นการถือครองหุ้นสื่อของธนาธร กำลังถูกเบี่ยงเบนประเด็น ทั้งในทางวิชาการและทางการเมือง
คุณปิยะบุตร เลขาพรรคอนาคตใหม่ ด๊อกเตอร์จากฝรั่งเศส ใช้สถานะอาจารย์พยายามอธิบายว่า การโอนหุ้นสมบูรณ์ตามกฎหมายเมื่อทำสัญญาโอนถูกต้องตามป.พ.พ.มาตรา1129 สถานะการเป็นผู้ถือหุ้นต้องถือวันทำสัญญาโอนหุ้น ไม่ใช่วันไปจดทะเบียนกับทางราชการ
ข้อกฎหมายถูกต้องครับ
แต่ประเด็นที่กำลังตรวจสอบกันวันนี้คือ มีการทำสัญญาโอนหุ้นวันที่ 8 ม.ค. 2562 ตามที่ทั้งคุณธนาธรและคุณปิยะบุตรอ้าง จริงหรือไม่ หรือเป็นการทำเอกสารย้อนหลัง ซึ่งจะกลายเป็นการทำเอกสารเท็จ
เหตุที่ต้องมีการตรวจสอบเพราะมีการจดแจ้งการโอนหุ้นต่อนายทะเบียน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยยื่นเอกสารบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บอจ.5 ต่อนายทะเบียน ระบุว่า ลงทะเบียนโอนหุ้นเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2562 ซึ่งห่างจากวันที่อ้างว่าทำสัญญาโอนหุ้นถึงเกือบ 2 เดือนครึ่ง
การดูกฎหมาย ต้องดูให้ครบ อย่าดูแต่มาตรา 1129 ต้องดูมาตรา 1141 ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า สมุดทะเบียนหุ้นถูกต้อง “เป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องในข้อกระทงความที่กฎหมายบังคับ”
ถ้าคุณธนาธร นำบอจ.5 ที่มีรายการการโอนหุ้นไปแจ้งต่อนายทะเบียน วันที่ 9 หรือวันที่ 10 ม.ค. 2562 อันเป็นปกวิสัยที่ควรทำ ก็จะไม่มีใครตั้งข้อสงสัยเรื่องการโอนหุ้นของคุณธนาธร
แต่ที่เป็นประเด็นให้มีการตรวจสอบเนื่องจาก เอกสารที่แม่คุณธนาธรยื่นต่อนายทะเบียนเองระบุว่าหุ้นที่แม่รับโอนมาจากลูก ลงทะเบียนวันที่ 21 มี.ค. 2562 หลังศาลฎีกามีคำสั่งเพิกถอนสิทธิการสมัครสส.ของลูกพรรคอนาคตใหม่คนหนึ่ง จากสาเหตุการถือครองหุ้นสื่อเช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 ผู้คนจึงสงสัยว่า คุณธนาธรโอนหุ้นเมื่อไรกันแน่
คุณธนาธรจึงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า มีการโอนหุ้นกันจริงเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2562 ไม่ใช่ 21 มี.ค. 2562 เพราะขัดกับเอกสารที่แม่คุณธนาธรยื่นต่อทางราชการ ถ้าคุณธนาธรพิสูจน์ได้ คุณธนาธรก็ไม่ผิด
แต่หลักฐานที่คุณธนาธรนำมาชี้แจง กลับไม่น่าเชื่อถือและทำให้มีข้อสงสัยมากขึ้น ยิ่งเปิดเผยเอกสารมากขึ้น ข้อสงสัยก็มากขึ้น ยิ่งอ้างตัวบุคคลมากขึ้น ยิ่งเป็นพิรุธมากขึ้น การอ้างว่าทำต่อหน้าทนายโนตารี ก็ไม่มีเหตุผล ไม่มีใครเขาทำกัน เพราะไม่ใช่เอกสารที่จะต้องนำไปใช้ในต่างประเทศ ยิ่งอ้างว่าโอนหุ้นกลับไปกลับมาให้กับหลาน 2 คน ยิ่งไม่มีเหตุผลน่าเชื่อถือ
เรื่องนี้ง่ายมากครับ น้องฟ้าทั้งหลายโดยเฉพาะน้องฟ้าสายกฎหมาย ไปบอกคุณพ่อว่า ให้พิสูจน์ให้ได้ว่า โอนหุ้นวันที่ 8 ม.ค. 2562 จริง แค่นี้ก็รอดแล้ว
น้องฟ้าช่วยไปบอกพ่อด้วยว่า อย่าเบี่ยงเบนประเด็น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตย ไม่ต้องอ้างวาทกรรมถูกแตะตัดขา หรือถูกกลั่นแกล้ง
สำนักข่าวอิศรา เขาทำตามหน้าที่ของสื่อ กกต.ถ้าไม่ตรวจสอบก็ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
วันนี้ ประเด็นโอนหุ้นเมื่อไร คุณธนาธรจะขาดคุณสมบัติหรือไม่ กลายเป็นเรื่องเล็กไปแล้ว ยังไม่ร้ายแรงเท่ากับ มีการทำเอกสารย้อนหลังอันจะกลายเป็นการทำเอกสารเท็จ หรือไม่
เพราะการไม่ได้โอนหุ้นก่อนสมัครสส. ลูกติดคุกคนเดียว แต่ถ้าเป็นการทำเอกสารเท็จยื่นต่อนายทะเบียน ลูกจะพาแม่เข้าคุกไปอีกคน