กกต.ยันมีอำนาจพิจารณาคุณสมบัติ 'ธนาธร' -ก่อน 9 พ.ค.ได้สูตรหาส.ส.บัญชีรายชื่อแน่
กกต.สั่งศึกษาวิธีนับคะแนน หลังศาล รธน.ตีกลับสูตรคำนวณหาส.ส.บัญชีรายชื่อ ชี้แนวทาง กรธ. เป็นทางเลือกหนึ่ง คาดเสร็จทันตาม กรอบระยะเวลา 9 พ.ค. ประกาศผลทั้ง 2 ระบบ ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 แน่ ใครเห็นไม่ถูกต้องไปร้องศาลได้ ส่วนปมวินิจฉัยคุณสมบัติ 'ธนาธร'ถือหุ้นสื่อ ยันมีอำนาจพิจารณาได้ รอเจ้าตัวมาชี้แจง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2562 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.เปิดแถลงข่าวถึงกรณี ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่รับคำร้องของกกต.เรื่องการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า กกต.จะต้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในการคำนวณ จำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ภายหลังการประกาศผลเลือกตั้งส.ส.แล้ว โดยจะคำนึงถึงวิธีการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128 ที่สำนักงานกกต.เสนอให้กกต.พิจารณาหรือวิธีการคำนวณอื่นๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้ได้จำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแบบครบถ้วน ตามที่กฎหมายกำหนด โดยที่ประชุม กกต. ได้มอบหมายให้สำนักงาน กกต. ไปศึกษาวิธีคำนวณที่มีนักวิชาการ พรรคการเมืองเสนอ ว่าเป็นวิธีการที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญจริงหรือไม่ ซึ่งบุคคลที่เสนอได้ส่งวิธีคำนวณให้ กกต. แล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เสนอก็ล้วนแต่อ้างว่าของตนถูกต้องตามมาตรา 128 ของพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส.แต่คิดคำนวณออกมาได้ต่างกัน
“ในส่วนของสำนักงาน กกต. การคำนวณตามแบบของ กรธ. ถือเป็นทางเลือกหนึ่งของ กกต. เพราะวิธีการนี้ได้เสนอมาตลอด 2 ปี ไม่เคยมีการโต้แย้ง รวมทั้งได้มีการเผยแพร่ให้พรรคการเมืองได้รับทราบสูตรอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่มีผลคะแนนการเลือกตั้งออกมา แต่เมื่อมีการเลือกตั้งออกมาแล้วและมีการเอาผลคะแนนไปคิดตามวิธีการดังกล่าว กลับถูกท้วงว่าถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่และมีการนำเสนอวิธีการคำนวณของตัวเอง โดยบอกว่าสิ่งนี้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่ง กกต. ให้ไปดูแล้วนำมาเสนอกกต. ด้วย” นายแสวงระบุ
นายแสวง กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรอบเวลาเรื่องนี้คงต้องดำเนินการโดยเร็ว เพราะถึงอย่างไรวันที่ 9 พ.ค.นี้ กกต. ต้องประกาศส.ส.ทั้งสองระบบไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ส่วนกรณีที่หลังจาก กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งแล้ว มีผู้ที่เห็นว่าการคำนวณจัดสรร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ถูกต้องก็มีสิทธิไปร้องต่อศาลได้
สำหรับกรณีการสอบสวนเรื่องคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กรณีการถือครองหุ้นบริษัท วี-ลัคมีเดีย จำกัด ในประเด็นว่า กกต. มีอำนาจตรวจสอบคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของนายธนาธร หลังวันเลือกตั้งได้หรือไม่ นั้น
นายแสวง กล่าวว่า กกต.สามารถตรวจสอบคุณสมบัติได้ในช่วงเวลานี้ เพราะมีเอกสารรับรองหรืออ้างอิงทุกรายการ
"ส่วนลักษณะต้องห้าม กกต. จะตรวจสอบได้เพียงจากข้อมูลของหน่วยรัฐ ซึ่งมี 23 หน่วยงาน แต่ถ้าเป็นข้อมูลอยู่ในความครอบครองของเอกชน กกต.ไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงต้องให้ผู้สมัครรับรองตัวเอง หากภายหลังปรากฏว่าเป็นผู้มีลักษณะต้องห้าม เป็นเหตุฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง กกต. มีอำนาจดำเนินการไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเลือกตั้ง หรือวันประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งกรณีนายธนาธร เป็นกรณีที่มีผู้ร้องว่าอาจมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายและพรรคการเมือง จึงต้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้สิ้นกระแสความ โดยจะต้องรอให้นายธนาธรเข้าชี้แจงด้วย"
เมื่อถามต่อถึงประเด็นว่า กกต.จะใช้อำนาจทางกฎหมายในช่องทางใด หรือจะรอให้ผ่านวันที่ 9 พ.ค.ไปก่อนแล้วจะร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายแสวงกล่าวย้ำว่า "การทำหน้าที่ของ กกต.นั้นเป็นแค่การรวบรวมข้อเท็จจริงจากทุกๆฝ่ายแล้วดำเนินการเท่านั้น ส่วนจะไปใช้กฎหมายช่องทางใด ก็เป็นเรื่องหลังจากกระบวนการรวบรวมข้อเท็จจริงผ่านไปแล้วค่อยว่ากันอีกที"
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/