‘วิมานเมืองโศก’ นวนิยายสะท้อนบทบาทความเป็นแม่ ของนักเขียนใจกล้า ‘รัศมี ลาวัลย์’
"...นอกจากความขัดแย้งในเรื่องที่ทำให้ผู้อ่านคอยลุ้น และเอาใจช่วยตัวละครเอก รัศมี ลาวัลย์ ได้สอดแทรกแง่คิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ของสามีภรรยาได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่การไว้เนื้อเชื่อใจ ให้เกียรติกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง นี่อาจจะเป็นแก่นของเรื่องที่เขาต้องการนำเสนอให้ผู้อ่านได้ตระหนักและคิดตาม ว่าการไว้เนื้อเชื่อใจ และให้เกียรติกันนั้น ใช้ไม่ได้กับทุกคน โดยผู้เขียนใช้วลีและประโยคที่ว่า “คนเคยกินขี้ ยังไงก็ต้องกินขี้” ซึ่งเป็นคำพูดพื้นๆ ตามประสาชาวบ้าน แต่คอยย้ำให้ผู้อ่านคิดตามอยู่เสมอ..."
จากความฝัน สู่การลงมือทำ เป็นที่มาของ ‘รัศมี ลาวัลย์’ นามปากกานักเขียนนวนิยายหน้าใหม่ ที่ถ่ายทอดพลังความรักของผู้เป็นแม่ไว้ใน “วิมานเมืองโศก” นวนิยายเล่มล่าสุด ได้อย่างลึกซึ้งกินใจ สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน
“วิมานเมืองโศก” นวนิยายเล่มล่าสุดของ รัศมี ลาวัลย์ นามปากกาของ “ณัฐดนัย ใหม่ซ้อน” ผู้ชายหน้าคมที่บ่งบอกถึงถิ่นฐานบ้านเกิดได้ดีว่าเป็นคนปักษ์ใต้ แต่ถึงกระนั้นนิสัยใจคอกลับตรงกันข้าม เขานิ่มนวล และอ่อนช้อย ชวนให้คนที่อยู่ใกล้รู้สึกเป็นมิตร ด้วยเหตุนี้กระมัง จึงทำให้เขาถ่ายทอดพลังอานุภาพความรักของผู้เป็นแม่ที่พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกเพียบพร้อม ผ่านตัวอักษรได้อย่างกินใจ
ฉันรู้จักชายผู้นี้ในบทบาทหน้าที่สื่อมวลชน งานหลักของเขาคือนำเสนอเนื้อหาข่าวสาร เผยแพร่ให้สาธารณะชนได้รับทราบ แต่สิ่งที่ดูจะขัดแย้งกันคือ เขาเคยเล่าให้ฉันฟังว่า จริงๆ แล้วไม่ได้อยากเดินทางสายนักข่าวเท่าไหร่นัก เพราะความฝันหลักของเขาคือ “นักเขียน” แต่ถึงกระนั้นเขากลับทำหน้าที่สื่อมวลชนได้ดี โดยมีอาชีพนักข่าวเป็นงานหลัก เขียนนวนิยายเป็นงานรอง อย่างไรก็ตาม ประวัติการทำงานเกือบ 10 ปี ของเขาล้วนแต่เป็นประสบการณ์ด้านงานเขียน เริ่มตั้งแต่คอลัมน์นิสต์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ กองบรรณาธิการนิตยสาร จึงเรียกได้ว่าเขาไม่ได้เป็นนักเขียนหน้าใหม่ในวงการเขียนเสียทีเดียว
ทว่า ปัจจุบันเป็นยุคที่ใครหลายคนเอ่ยเสียงเดียวกันว่า “สื่อสิ่งพิมพ์กำลังจะตาย” แต่ รัศมี ลาวัลย์ กลับกล้าที่จะเดินสวนกระแส ตีพิมพ์หนังสือนวนิยายได้ถึง 2 เล่ม นั่นคือ มรสุมเกียรติยศ และเล่มล่าสุด “วิมานเมืองโศก” ภายใต้ชายคาสำนักพิมพ์ปาล์มสุข เป็นสำนักพิมพ์ที่เขาเปิดขึ้น เพื่อจะผลิตหนังสือนวนิยายของเขาเอง ถือได้ว่าเป็นคนที่กล้าคิด กล้าลงมือทำไม่น้อย แต่ถึงกระนั้นผลตอบรับจากงานเขียนของเขากลับดีเกินคาดหมาย มีนักอ่านหลายคนเป็นแฟนคลับ และรอติดตามผลงาน
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้ก้าวสวนกระแสเลยทีเดียว เพราะยังเปิดช่องทางให้ผู้อ่านยุคดิจิทัลได้ติดตามผลงานอย่างหลากหลาย ทั้งช่องทาง แฟนเพจเฟซบุ๊ก สำนักพิมพ์ปาล์มสุข รวมทั้งในเว็บไซต์อีบุ๊กด้วย ซึ่งก็สามารถโหลดอ่านได้ไม่ยาก
นวนิยายเรื่อง “วิมานเมืองโศก” อยู่ในการควบคุมดูแลของบรรณาธิการ จรินทร์ เถื่อนแสง โดยผลงานการออกแบบปกเป็นของ โจ้ สุริยาทิศ ซึ่งรูปแบบปกออกแบบได้น่าสนใจ สร้างแรงดึงดูดให้กับผู้อ่านไม่น้อย เพราะชื่อเรื่องของนวนิยายวิมานเมืองโศก ไม่ได้สอดคล้องกับภาพวาดบนปกเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่ออ่านเนื้อหาด้านในจึงได้รู้ว่า “ขบวนรถไฟ เป็นจุดเริ่มต้นของ ‘อัมพร’ ตัวละครหลักในเรื่อง เดินทางกลับมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับสามีอีกครั้ง เพื่อหวังให้ลูกมีพ่อ จะได้ไม่มีปมด้อยเหมือนหล่อน” นี่อาจจะเป็นการเชื่อมโยงเรื่องผ่านการออกแบบปกหนังสือ เพื่อสะท้อนถึงเรื่องราวต่างๆ ให้ผู้อ่านครุ่นคิดและเกิดความสนใจ
ตั้งแต่บทแรก รัศมี ลาวัลย์ บรรยายปมของตัวละครหลักให้ผู้อ่านรับรู้ชะตากรรมของตัวละครได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมหล่อนจึงตัดสินใจเดินทางกลับมาที่อำเภอท่าชนะ และการกลับมาครั้งนี้หล่อนจะต้องประสบพบเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง ลีลาการเขียนผ่านตัวอักษรแต่ละบรรทัดนั้น แหลมคม กินใจผู้อ่านอย่างฉันไม่น้อย นั่นจึงทำให้ฉันอ่านแบบรวดเดียวจบในวันเดียว
“วิมานเมืองโศก” ถือเป็นนวนิยายสะท้อนบทบาทของความเป็นแม่ผ่านตัวละครอย่าง “อัมพร” ได้อย่างลงตัว โดยหล่อนยอมที่จะกลับมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสามีอีกครั้ง เพื่อหวังให้ลูกมีพ่อ จะได้ไม่มีปมด้อยเหมือนหล่อนที่พ่อไปทาง แม่ไปทาง ทว่า สิ่งที่วาดหวังไว้ กลับไม่เป็นดั่งใจคิด ฉะนั้นมั่นใจเหลือเกินว่า หากใครได้สัมผัสรสอักษรในนวนิยายเล่มนี้แล้ว จะทำให้นึกถึงพระคุณของแม่เหนือสิ่งอื่นใด
เนื้อหาในเรื่องแต่ละบทละตอนนั้นดำเนินไปอย่างน่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ โดยรัศมี ลาวัลย์ สร้างความขัดแย้งของตัวละครขึ้นได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งตัวละครหลัก “อัมพร” มีความขัดแย้งกันกับ “ละไม” พี่สาวของสามี เป็นเรื่องที่ในชีวิตจริงผู้อ่านหลายคนประสบพบเจอ ทำให้ผู้อ่านอย่างฉันอินกับบทบาทของตัวละครไม่น้อย แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีความไม่สมเหตุสมผลของตัวละคร “ละไม” ที่ผู้เขียนสร้างตัวตนให้หล่อนเป็นคนรักครอบครัว โดยเฉพาะหน้าตาของครอบครัวแล้ว หล่อนจะไม่ยอมให้คนนอกมาดูถูก หรือตำหนินินทา
แต่สุดท้ายแล้ว หล่อนกลับไปกลั่นแกล้งน้องสะใภ้ด้วยวิธีที่ร้ายกาจอย่างไม่คาดคิด ทั้งต่อหน้าผู้คนมากมาย ทำให้น้องสะใภ้ ตัวละครเอกอย่าง “อัมพร” ต้องเผชิญกับผลกระทบที่พี่สาวของสามีกลั่นแกล้งไว้อยู่นาน ซึ่งวิเคราะห์อีกมุมหนึ่ง ผู้เขียนอาจต้องการแสดงให้เห็นถึงจิตใจของมนุษย์ที่ไม่หยั่งแท้ แม้ละไมหล่อนจะรักครอบครัว แต่เมื่อต้องประสบกับการถูกดูหมิ่นนินทา โดยเฉพาะมาจากปากของน้องสะใภ้แล้ว ผู้มีศักดิ์สูงกว่าอย่างหล่อน จึงกล้าทำทุกอย่าง เพื่อให้น้องสะใภ้เข็ดหลาบ
นอกจากความขัดแย้งในเรื่องที่ทำให้ผู้อ่านคอยลุ้น และเอาใจช่วยตัวละครเอก รัศมี ลาวัลย์ ได้สอดแทรกแง่คิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ของสามีภรรยาได้อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่การไว้เนื้อเชื่อใจ ให้เกียรติกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง นี่อาจจะเป็นแก่นของเรื่องที่เขาต้องการนำเสนอให้ผู้อ่านได้ตระหนักและคิดตาม ว่าการไว้เนื้อเชื่อใจ และให้เกียรติกันนั้น ใช้ไม่ได้กับทุกคน โดยผู้เขียนใช้วลีและประโยคที่ว่า “คนเคยกินขี้ ยังไงก็ต้องกินขี้” ซึ่งเป็นคำพูดพื้นๆ ตามประสาชาวบ้าน แต่คอยย้ำให้ผู้อ่านคิดตามอยู่เสมอ
สิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นคือการบรรยายฉากและบรรยากาศต่างๆ ภายในเรื่อง ผู้เขียนเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้อ่านอย่างฉันคล้อยตามและเกิดจินตนาการ มีอารมณ์ร่วมไปกับลีลาภาษาที่บ่งบอกถึงการดำรงชีวิตของพี่น้องชาวภาคใต้ ภูมิอากาศ การเดินทาง รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในอำเภอท่าชนะได้เป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้เขียนเป็นคนในพื้นที่เองด้วย จึงทำให้ฉากต่างๆ ที่ผู้เขียนบรรยายในแต่ละบรรทัดกลมกลืน และดูสมจริงไม่มีที่ติ
ท้ายที่สุด ไม่มีอะไรจะติหรือวิจารณ์ไปมากกว่านี้ เพราะหลังจากดื่มด่ำกับลีลาภาษาของผู้เขียนที่ออกรสในแต่ละช่วงตอนได้อย่างลึกซึ้งกินใจแล้วนั้น ยังทำให้เพลิดเพลินกับวลีและประโยคต่างๆ ที่ผู้เขียนได้สอดแทรกไว้ในเรื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจของผู้เขียน แม้ในปัจจุบันปลายทางการเป็นนักเขียนของเขานั้นจะยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่เชื่อว่าความใฝ่ฝันที่มี จะทำให้นักรักอ่านหลายคนหลงรักงานเขียนนวนิยายของเขาไม่รู้ลืม
ทั้งนี้ เชื่อเหลือเกินว่า การนำนวนิยาย “วิมานเมืองโศก” มาเล่าสู่กันฟัง จะเป็นแรงผลักดันและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน ให้กล้าที่จะริเริ่มทำเหมือนกับ รัศมี ลาวัลย์ ซึ่งเชื่อว่าความตั้งใจที่ลงมือทำในสิ่งที่รักแล้ว ผลตอบแทนสุดท้ายย่อมสวยงามเสมอ เหมือนกับนวนิยายเล่มล่าสุดของนักเขียนใจกล้า ผู้ชื่อว่า “รัศมี ลาวัลย์” .
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/