10 ก.ค. ลุ้น สปสช.เคาะเก็บ 30บ.รักษาโรค ทวนเสียงทักท้วงนายกฯ
บอร์ด สปสช.พิจารณานโยบายร่วมเก็บบัตรทอง 30บ. 10 ก.ค.นี้ แนวโน้มมติเดินหน้าต่อ เพิ่มตั้งแต่ รพ.ชุมชนขึ้นไป เลื่อนจาก ส.ค.เป็น 1 ก.ย.ทั่วประเทศ หลังยิ่งลักษณ์ทักท้วงให้ทบทวนมติ
ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.) ในวันที่ 10 ก.ค. มีวาระพิจารณาแนวทางการดำเนินนโยบายร่วมเก็บค่ารักษาพยาบาล 30 บาท ตามที่คณะอนุกรรมการบริหารยุทธศาสตร์ ซึ่งมี นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธาน นำเสนอ
เบื้องต้นเสนอให้ดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศในโรงพยาบาลระดับชุมชนขึ้นไป และจะเริ่มเก็บได้ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ โดยผู้ที่จะต้องร่วมจ่าย 30 บาท ได้แก่ ผู้ที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) ซึ่งได้รับบริการรักษาพยาบาลจนสิ้นสุดและได้รับยา โดยให้ยกเว้นกับกลุ่มบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตามประกาศ สธ. และผู้ที่หน่วยบริการมีดุลยพินิจว่าไม่ต้องจ่ายค่าบริการเป็นเฉพาะราย
สำหรับสิทธิประโยชน์และคุณภาพบริการที่ประชาชนจะได้รับเพิ่มขึ้นภายหลังร่วมจ่าย 30 บาท อาทิ หน่วยบริการทุกระดับตั้งแต่โรงพยาบาลชุมชนขึ้นไปจะเพิ่มบริการในช่วงบ่ายและไม่หยุดช่วงเที่ยง เพื่อลดความแออัดของการรับบริการ สามารถเปลี่ยนหน่วยบริการได้จากปีละไม่เกิน 2 ครั้ง เป็น 4 ครั้ง รักษาฟรีกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน กรณีเจ็บป่วยรุนแรงที่มีค่าใช้จ่ายสูงจะได้รับการดูแลที่ได้มาตรฐาน ผู้สูงอายุจะได้รับบริการโดยไม่ต้องรอคิว
นอกจากนี้ประชาชนยังจะได้รับการคัดกรองเพื่อลดความเสี่ยงของโรค และเมื่อไปรับบริการที่หน่วยบริการปฐมภูมิจะได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ โดยหากมีความจำเป็นต้องรับการปรึกษาจะได้รับคำปรึกษาผ่านระบบ telemedicine ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สธ.ได้เตรียมเสนอขอปรับค่าตอบแทน เพื่อจ่ายเพิ่มเติมกรณีจัดบริการในตอนเที่ยงวันประมาณ 900 ล้านบาทต่อปี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา บอร์ด สปสช.มีมติให้ประชาชนร่วมจ่าย 30 บาท เฉพาะที่เข้ารับบริการในหน่วยบริการขนาดใหญ่หรือระดับจังหวัดและคาดว่าจะเริ่มเก็บได้วันที่ 1 ส.ค. โดยได้นำเสนอแนวทางการดำเนินการต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พิจารณาวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเห็นต่อที่ประชุมว่าปัจจุบันระบบและคุณภาพการให้บริการยังไม่พร้อม จึงให้บอร์ด สปสช.กลับไปทบทวนมติเก็บ 30 บาท โดยเสนอให้โรงพยาบาลพิจารณาเองว่าจะเก็บ 30 บาทหรือไม่ ภายหลังที่โรงพยาบาลมีการพัฒนาการให้บริการที่มีคุณภาพมากขึ้น