‘วิษณุ’ เผย กทม.พร้อมอำนวยความสะดวก ปชช. เข้าเฝ้าช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
'วิษณุ' ชี้พระราชพิธีบรมราชภิเษกเป็นการสืบทอดมรดก ศิลปวัฒนธรรม ความรู้สึกดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เชิญชวนคนไทยสวมเสื้อเหลือง-ติดเข็มตราสัญลักษณ์ เผย กทม. เตรียมอำนวยความสะดวก น้ำ อาหาร -ปชช.เข้าเฝ้าใกล้ชิด 5-6 พ.ค.
วันที่ 20 เม.ย. 2562 ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ความรู้ที่ปวงชนชาวไทยควรทราบ ณ ห้องประชาธิปก สถาบันพระปกเกล้า จัดโดยสมาคมสถาบันพระปกเกล้า และสถาบันพระปกเกล้า
ดร.วิษณุ กล่าวบางตอนเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า เดิมทีนั้นจะไม่มีการถ่ายทอดสด เนื่องจากสถานที่ประกอบพระราชพิธีคับแคบ จึงไม่มีพื้นที่สำหรับติดตั้งกล้อง สุดท้าย คิดออกว่า จะใช้วิธีติดตั้งกล้องไว้ แล้วบังคับจากภายนอก โดยไม่ต้องมีช่างกล้อง อย่างไรก็ตาม หากประชาชนปรารถนาจะมีส่วนร่วม สามารถส่งใจไปได้ ด้วยการชมโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ซึ่งดีกว่าเข้าไปในพื้นที่ เพราะจะมีการบรรยายประกอบพระราชพิธี
“วันนี้ซ้อมกันอุตลุต สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาประชุม พระองค์บอกว่า อะไรที่ไม่ควรพูดก็ไม่ต้องไปพูด อะไรที่พระสวด หรือพราหมณ์กำลังพูด บางทีพิธีกรฟังไม่รู้เรื่องก็ชิงบรรยายของตัวเอง จึงรับสั่งว่า คนทั้งประเทศอยากฟังว่าพราหมณ์พูดอะไร พระสวดอะไร เพราะฉะนั้นเงียบเสีย ไม่ต้องบรรยายอะไร ถ้าเป็นไปไม่ต้องบรรยายอะไร ในงานจะบรรยายตัวเองไปตลอดอยู่แล้ว
บอกแต่เพียงว่ากำลังทำอะไร ยิ่งตอนพราหมณ์กราบบังคมทูล คนจะเงี่ยหูฟังจะเริ่มขอเดชะตอนไหน และพระปฐมบรมราชโองการมีว่าอย่างไร ซึ่งไม่ต้องอธิบายมาก หรือหากอธิบายก็ต้องอธิบายให้ถูก พระองค์ยังรับสั่งว่า ถ้าไม่แน่ใจ ให้พูดไปตามนั้น ไม่ต้องดัดแปลง ทั้งนี้ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บรมราชาภิเษก ไม่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เพราะยังไม่มีโทรทัศน์ แต่เป็นภาพยนตร์ขาวดำ ไม่มีสี ซึ่งหนนี้จะเห็นเสมือนจริงทั้งหมด”
วิธีส่งใจอีกรูปแบบหนึ่ง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเชิญชวนให้ประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลือง พร้อมประดับเข็มตราสัญลักษณ์ วปร. ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเลือกแบบและดัดแปลงด้วยพระองค์เอง ซึ่งในวันที่ 25, 30 เม.ย. 2562 และ 2 พ.ค. 2562 จะเริ่มวางจำหน่ายที่บิ๊กซี และไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งการประดับเข็มตราสัญลักษณ์เท่ากับส่งใจไปแล้ว
ดร.วิษณุ กล่าวอีกว่า สำหรับใครจะเดินทางไปเข้าเฝ้าในวันที่ 5 พ.ค. 2562 ซึ่งเป็นวันเสด็จเลียบพระนคร สามารถเข้าเฝ้าได้สองฝั่ง หน้าวัดพระแก้ว ริมท้องสนามหลวง ถนนราชดำเนิน วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร และกทม.จะตั้งโต๊ะหมู่บูชาเป็นระยะ ซึ่งเป็นดอกไม้ ธูปเทียน แต่ไม่ตั้งและไม่ให้ใครตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ เพราะบัดนี้พระองค์จริงจะเสด็จผ่านมา และยังจัดเตรียมน้ำ อาหาร สุขา ไว้พร้อม และน้ำจะบรรจุในภาชนะที่สามารถเก็บเป็นที่ระลึกงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้ตลอดชีวิตแจกจ่ายให้แก่ประชาชน
“รัชกาลที่ 9 เมื่อเสร็จพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ไม่ได้มีเลียบพระนครทันที แต่มีหลังจากนั้น 20 ปี ทางสถลมารค หลังจากนั้นอีก 10 ปี ทางชลมารค แต่ในครั้งนี้จะเห็นทุกอย่างในเวลาเดียวกัน เว้นแต่ชลมารค ต้องเว้นออกไปหลายเดือน เนื่องจากต้องรอฤดูกฐิน”
รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ประชาชนยังสามารถเข้าเฝ้าได้ในวันที่ 6 พ.ค. 2562 ในการเสด็จออก ณ สีหบัญชร แต่อาจต้องพกบัตรประจำตัวประชาชนไปด้วย เผื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม คาดว่าสามารถอำนวยความสะดวกได้ โดยเฉพาะการถ่ายทอดสด การบรรยาย ขณะที่สุขา อาหาร น้ำ ออกร้านรอบท้องสนามหลวง และอีกรอบหนึ่งคือจับจองพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาชมขบวนพยุหยาตราชลมารค
“พระราชพิธีบรมราชาภิเษก นานทีปีหนจึงจะมี ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อ 69 ปีที่แล้ว วันที่ 5 พ.ค. 2493 ครั้งนี้จะมีครั้งเดียวในรัชกาล และเป็นการแสดงของการสืบทอดศิลปวัฒนธรรมทั้งหมดมารวมด้วยกัน เรามีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นการจัดขึ้นในวัง แต่ออกมานอกวังมีเลียบพระนคร เสด็จออก ณ สีหบัญชร ในต่างจังหวัดสามารถมีส่วนร่วมได้ จะเห็นได้ว่า ถ้าไม่มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หลายอย่างไม่มีโอกาสนำมาซ่อมแซม ไม่ว่าจะเป็น เรือพระราชพิธี ถ้าไม่มีพิธี จะไม่ซ่อม ครั้งนี้ซ่อม 52 ลำ ซ่อมเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ซ่อมพระที่นั่งทุกองค์ เพื่อเตรียมรับและสืบอายุต่อไปได้ เป็นการสืบทอดมรดก ศิลปวัฒนธรรม สืบทอดประเพณี สืบทอดความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” ดร.วิษณุ กล่าว
อ่านประกอบ:กทม.จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ เชิญคนโทน้ำเก็บรักษา กระทรวงมหาดไทย
รวมภาพพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ ณ พระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/