ป.ป.ช.คอนเฟิร์ม!ตีตกคดี‘ปู’ลงมติ พ.ร.ก. น้ำ 3.5 แสนล.-เหลือสอบปมกู้เงินหลังพ้นกำหนด
ป.ป.ช. คอนเฟิร์ม! ตีตกข้อกล่าวหา ‘ยิ่งลักษณ์’ ปมลงมติ พ.ร.ก.กู้เงินบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ยกคำวินิจฉัยศาล รธน.ชี้เป็นเรื่องด่วน ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ยังเหลือปมกู้เงินหลังพ้นระยะเวลากำหนด-ออกแบบก่อสร้าง ตั้งอนุฯสอบแล้ว อยู่ระหว่างไต่สวน
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตีตกข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี กับพวก กรณีลงมติเห็นชอบ พ.ร.ก.กู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ วงเงิน 3.5 แสนล้านบาทโดยมิชอบ โดยเห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไปนั้น (อ่านประกอบ : ‘ยิ่งลักษณ์’รอดอีกคดี! ป.ป.ช.ตีตกปมลงมติ พ.ร.ก.กู้ 3.5 แสนล.จัดการน้ำ เหตุไม่มีมูล)
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2562 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงถึงกรณีนี้ว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเรียนว่า เรื่องกล่าวหาดังกล่าวเป็นกรณีกล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา ร่วมกันลงมติและเห็นชอบในการออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 169
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 50/2559 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2559 ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยอาศัยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ 5-7/2555 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2555 ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าการตรา พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 เป็นกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ และป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคหนึ่ง และการตราพระราชกำหนดดังกล่าว เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจจะหลีกเลี่ยงได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญมีติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่า การตราพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง
คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ไม่ปรากฏว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี กับพวก ได้ร่วมกันตราและเห็นชอบพระราชกำหนดดังกล่าวโดยไม่สุจริต หรือใช้ดุลพินิจบิดเบือนหลักการของรัฐธรรมนูญ เรื่องกล่าวหาดังกล่าวไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี กับพวกผู้ถูกกล่าวหา ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหาข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
นายวรวิทย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นเรื่องกล่าวหาการกู้เงินเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ประเด็น การดำเนินโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 57 วรรคสอง มาตรา 67 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103/7 และพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และประเด็นการกำหนดรายละเอียดขอบเขตของงาน (TOR) ในโครงการดังกล่าว มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางรายคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริงปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง
@ก่อนหน้านี้ ป.ป.ช. ตีตกแล้ว 4 คดี
ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติตีตกข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปแล้วอย่างน้อย 4 คดี ได้แก่ 1.คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้ให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้ตัวเองและรัฐมนตรี 2.คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ บริหารจัดการน้ำผิดพลาดจนเกิดน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 3.คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ป.ป.ช. ในการเปิดเผยราคากลางในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ 4.คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ คุมม็อบ กปปส.
@เหลือถูกไต่สวนอีก 8 คดี
ยังเหลือคดีที่อยู่ระหว่างการไต่สวนอีก 7 คดี ได้แก่ 1.คดีถูกกล่าวหาร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย หัวหน้ากลุ่มวังน้ำยม กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ร่วมกับข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มเอกชนเครือสยามอินดิก้า (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้งข้อหา 71 รายพันคดีข้าวจีทูจีล็อต 2-‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เยาวภา’ด้วย)
2.คดีโยกย้ายข้าราชการโดยมิชอบ (กรณีนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ) 3.คดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง 4.คดีละเว้นไม่ลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา กรณี รมว.มหาดไทย (นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ) กับพวกปราศรัยรุนแรง-แบ่งแยกประเทศ 5.คดีปล่อยให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน ‘มวยมาเก๊า’ ผ่านช่อง 11 6.คดีร่ำรวยผิดปกติ กรณีครอบครองนาฬิกาเรือนละ 2.5 ล้านบาท 7.คดีร่ำรวยผิดปกติกรณีเกี่ยวข้องในโครงการรับจำนำข้าว และ 8.กรณี พ.ร.ก.กู้เงินบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยกู้เงินหลังพ้นระะยเวลากำหนด รวมถึงการออกแบบการก่อสร้าง ที่อาจขัดรัฐธรรมนูญ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้งข้อหา 71 รายพันคดีข้าวจีทูจีล็อต 2-‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เยาวภา’ด้วย
ขยายผลจาก‘บุญทรง’!มติทางการ ป.ป.ช. ไต่สวน‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เจ๊แดง’ คดีข้าว-มันจีทูจี
‘ปู-11 รมต.’รอด! ป.ป.ช.ตีตกใช้ พ.ร.บ.มั่นคงคุมม็อบ กปปส.ป้องขวาง พ.ร.บ.นิรโทษฯ
พี่น้องชินวัตรรอดอีกคดี! ป.ป.ช.ตีตกกล่าวหา‘ปู’พีอาร์ตัวเอง-‘แม้ว’แปรรูป กฟผ.
สถานะ 11 คดี‘ยิ่งลักษณ์’ในชั้น ป.ป.ช. วิบากกรรมหลังสู้คดีข้าว-ชดใช้ 3.5 หมื่นล.
ป.ป.ช.ลุยสอบ“ยิ่งลักษณ์”ซื้อนาฬิกาเรือนละ 2.5 ล.ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สิน
"ยิ่งลักษณ์"อ้างขายนาฬิกาก่อนรับตำแหน่งนายกฯ เหตุไม่แจ้งทรัพย์สิน