ย้อนปฏิบัติการ ADAM ซื้อหุ้น บ.กีธาฯ ก่อน ก.ล.ต.ลงดาบ อดีตกก.-เสี่ยเปี๋ยง ฟอกเงินข้าวจีทูจี
"...บุคคลทั้ง 8 ราย ได้ร่วมกันกระทำผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อให้ ADAM เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (บจ. กีธา) ในปี 2557 เข้ามาเป็นบริษัทย่อยของ ADAM โดยทุจริต...กลุ่มครอบครัวจันทร์สกุลพร ซึ่งประกอบด้วยนายอภิชาติ นางสาวบงกร และนายสรวิศ ได้รับประโยชน์จากการใช้กระบวนการกลไกของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเปลี่ยนถ่ายผู้เป็นเจ้าของของ บจ. กีธา จากเจ้าของเดิม คือ กลุ่มครอบครัวจันทร์สกุลพร มาเป็น ADAM ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีประชาชนทั่วไปเป็นผู้ถือหุ้น ขณะเดียวกันกลุ่มครอบครัวจันทร์สกุลพร ก็ได้เปลี่ยนสภาพของทรัพย์สินซึ่งคือหุ้นของ บจ. กีธา เป็นหุ้น ADAM ซึ่งมีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทน โดยมีการวางแผนการอย่างเป็นขั้นตอน..."
บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท สิราลัย จำกัด) เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องและอยู่ระหว่างถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไต่สวนดำเนินคดี กรณีสงสัยว่าร่วมทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวและมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนของการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการฟอกเงิน
คือ ข้อมูลสำคัญที่ปรากฎอยู่ในคำแถลงข่าว สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กรณี ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตกรรมการบริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ADAM กับพวกรวม 8 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในการให้ ADAM เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมด ของ บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท สิราลัย จำกัด) จนเป็นเหตุให้ ADAM ได้รับความเสียหาย
โดยบุคคลที่ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษกรณีนี้ ได้แก่ (1) นายบุญเปี่ยม เอี่ยมรุ่งโรจน์ (ประธานกรรมการบริษัท ADAM ในช่วงเกิดเหตุ) (2) นายชินวัฒน์ ชินแสงอร่าม (กรรมการ ADAM ในช่วงเกิดเหตุ) (3) นายสราวุฒิ ภูมิถาวร (กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบของ ADAM ในช่วงเกิดเหตุ) และพวกอีก 5 ราย ได้แก่ (4) นายณิทธิมน หัสดินทร ณ อยุธยา (5) นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร (6) นางสาวบงกร จันทร์สกุลพร (หรือชื่อขณะเกิดเหตุ นางสาว ธันยพร) (7) นายสรวิศ จันทร์สกุลพร และ (8) นางสุดา คุณจักร
พร้อมระบุว่า บุคคลทั้ง 8 ราย ได้ร่วมกันกระทำผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อให้ ADAM เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (บจ. กีธา) ในปี 2557 เข้ามาเป็นบริษัทย่อยของ ADAM โดยทุจริต
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นเหตุให้ ADAM ได้รับความเสียหาย โดยกลุ่มครอบครัวจันทร์สกุลพร ซึ่งประกอบด้วยนายอภิชาติ นางสาวบงกร และนายสรวิศ ได้รับประโยชน์จากการใช้กระบวนการกลไกของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเปลี่ยนถ่ายผู้เป็นเจ้าของของ บจ. กีธา จากเจ้าของเดิม คือ กลุ่มครอบครัวจันทร์สกุลพร มาเป็น ADAM ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีประชาชนทั่วไปเป็นผู้ถือหุ้น ขณะเดียวกันกลุ่มครอบครัวจันทร์สกุลพร ก็ได้เปลี่ยนสภาพของทรัพย์สินซึ่งคือหุ้นของ บจ. กีธา เป็นหุ้น ADAM ซึ่งมีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทน โดยมีการวางแผนการอย่างเป็นขั้นตอน รวมถึงการใช้อำนาจของคณะกรรมการบริษัทในการลงนามในสัญญาจะซื้อหุ้น บจ. กีธา ขณะเดียวกันได้ใช้บัญชีนอมินีเข้าซื้อหุ้น ADAM เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงข้างมากในการครอบงำกิจการของบริษัท และใช้สิทธิในการเพิ่มวาระในวันที่มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น และเห็นชอบให้ซื้อหุ้นดังกล่าว ทำให้สัญญาจะซื้อหุ้นดังกล่าวมีผลผูกพันทันที (อ่านประกอบ : ก.ล.ต. ลงดาบ อดีตกก.ADAM พร้อมเสี่ยเปี๋ยง-ลูก ซื้อหุ้นบ.กีธาฯ ฟอกเงินทุจริตข้าวจีทูจี)
เพื่อให้สาธารณชนรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น สำนักข่าวอิศรา นำข้อมูลเชิงลึก บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด และการเข้าซื้อหุ้นของADAM ที่เคยตรวจสอบไว้ก่อนหน้านี้ มานำเสนออีกครั้ง
@ ที่มาของบริษัทฯ
บริษัท สิราลัย จำกัด ถูกจดทะเบียนขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2555 ทุน 2,200 ล้านบาท แจ้งประกอบกิจการให้เช่าอาคารโรงงานที่พักอาศัยรวมปลูกสร้าง ปรากฎชื่อนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร (ลูกสาว “เสี่ยเปี๋ยง” หรือ “อภิชาติ จันทร์สกุลพร” อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด และอดีตผู้ก่อตั้ง กรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ) เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ 50.0250% ซึ่งมีสำนักงานออฟฟิศตั้งอยู่เลขที่เดียวกับบริษัท สยามอินดิก้า คือ เลขที่ 48/7-8 ซอยรัชดาภิเษก 20 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลง “ทุน” จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทอย่างรวดเร็ว ช่วงจดทะเบียนตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2555 มีแค่ 1,000,000 บาท ก่อนจะปรับขึ้นเป็น 1,200,000,000 บาท เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 และเพิ่มเป็น 2,200,000,000 บาท เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2555
@ โครงสร้างผู้ถือหุ้นช่วงจัดตั้ง
ทั้งนี้ ในช่วงเริ่มต้นจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ มีผู้ถือหุ้น 4 ราย คือ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ถือหุ้นจำนวน 8,000 หุ้น นายสรวิศ จันทร์สกุลพร ถือหุ้น 1,900 หุ้น นายธนทัต จันทร์สกุลพร ถืออยู่ 99 หุ้น นางสาวสุธิดา จันทะเอ ถืออยู่1หุ้น. จากทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท แบ่งเป็น 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
โดยนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ในฐานะกรรมการบริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร แสดงการรับชำระเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นแต่ละราย เป็นเงินสด ในวันเดียวกัน คือ วันที่ 2 มีนาคม 2555 แยกเป็นนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร 200,000 บาท นายสรวิศ จันทร์สกุลพร 47,500 บาท นายธนทัต จันทร์สกุลพร 2,475 บาท และ นางสาวสุธิดา จันทะเอ 25บาท
ต่อมาวันที่ 19 มิถุนายน 2555 บริษัทฯ ได้แจ้งขอเพิ่มทุน เป็น 1,200,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 12,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ100 บาท โดยนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ในฐานะกรรมการบริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร แสดงการรับชำระเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นแต่ละราย เป็นเงินสด ในวันเดียวกัน คือ วันที่ 18 มิถุนายน 2555 แยกเป็น นายธนทัต จันทร์สกุลพร 119,900,000 บาท นายสรวิศ จันทร์สกุลพร. 479,600,000 บาท นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร 599,500,000 บาท
ส่งผลทำให้จำนวนหุ้นในมือผู้ถือหุ้นที่ 4 ราย มีการเปลี่ยนแปลง ตามบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2555 โดยนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 6,003,000 หุ้น นายสรวิศ จันทร์สกุลพร จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 4,797,900 หุ้น นายธนทัต จันทร์สกุลพร จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 1,199,099 หุ้น ขณะที่สัดส่วนหุ้นของ นางสาวสุธิดา จันทะเอ ยังเท่าเดิมคือ ถืออยู่ 1 หุ้น
@ แจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1
จากนั้น วันที่ 29 สิงหาคม 2555 บริษัทฯ ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ เหลือ 3 ราย โดยปรากฏชื่อ นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 4,800,000 หุ้น ขณะที่ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร และ นายสรวิศ จันทร์สกุลพร ถืออยู่คนละ 3,600,000 หุ้น ขณะที่ นายธนทัต จันทร์สกุลพร และนางสาวสุธิดา จันทะเอ ไม่มีรายชื่อ เป็นผู้ถือหุ้นอีก (นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข เคยถูกระบุในสำนวนการสอบสวนคดีบ้านเอื้ออาทร ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ว่าเป็นอดีตกรรมการบริษัทเพรซิเด้นท์ฯ ซึ่ง คตส. ระบุว่าส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปตรวจสอบ ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน )
จากนั้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2555 บริษัทฯ ได้แจ้งขอเพิ่มทุน เป็นครั้งที่ 2 เป็น 2,200,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 22,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โดยนางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ในฐานะกรรมการบริษัทฯ ได้ทำหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร แสดงการรับชำระเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นแต่ละราย เป็นเงินสด ในวันเดียวกัน คือ วันที่ 15 ตุลาคม 2555 แยกเป็น นายสรวิศ จันทร์สกุลพร 300,000,000 บาท นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร. 300,000,000 บาท และ นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข 400,000,000 บาท
ต่อมา ภายหลังจากที่ ป.ป.ช. ได้มีมติแจ้งข้อกล่าวหากับ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร กรรมการบริษัท สิราลัย จำกัด ในฐานะเอกชนที่สนับสนุนการกระทำความผิดในคดีทุจริตระบายข้าวโครงการรับจำนำ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2557 บริษัท สิราลัย จำกัด ได้แจ้งเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และปรากฎรายกรรมการบริษัท 2 คน คือ นายยุทธพงษ์ เสรีดีเลิศ และ นายผ่านชัย อรุณไพโรจน์
ส่วนนางสาว ธันยพร จันทร์สกุลพร ยังคงมีรายชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทอยู่
จากการตรวจสอบพบว่า นายยุทธพงษ์ เสรีดีเลิศ มีชื่อเล่าว่า "ก๋อย" เคยปรากฎชื่อเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท สแตนดาร์ด เมทอล จำกัด ผู้ค้าเหล็กและวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ย่านถนนพระราม 2 และมีความสัมพันธ์เป็นญาติห่างๆกับ “เสี่ยขุน" ชนะชัย ลีนะบรรจง เจ้าของ บมจ.อีเอ็มซี (EMC) และบมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค (CEN) ซึ่งเป็นเซียนหุ้นรายใหญ่คนหนึ่งของตลาดหุ้นไทย
ขณะที่ นายยุทธพงษ์ ถูกระบุชื่อจากสื่อมวลชนว่าเป็นเซียนหุ้นรายหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน
@ แจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.57 บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ จากผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมจำนวน 3 ราย คือ นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข จำนวน 8,800,000 หุ้น มูลค่า 880,000,000 บาท นางสาว ธันยพร จันทร์สกุลพร และนายสรวิศ จันทร์สกุลพร ถืออยู่คนละ 6,600,000 หุ้น มูลค่า 660,000,000 บาท จากจำนวนหุ้นทั้งหมด 22,000 หุ้น มูลค่า 2,200,000,000 บาท
มาเป็น บริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 21,999,998 หุ้น มูลค่า 2,199,999,800 บาท ตามด้วยนาย พีรศักดิ์ ไชยกุลงามดี และนาย ยุทธพงศ์ เสรีดีเลิศ ถืออยู่คนละ 1 หุ้น มูลค่า 100 บาท
ขณะที่ กรรมการบริษัทมีจำนวน 2 ราย คือ นายยุทธพงษ์ เสรีดีเลิศ และ นายผ่านชัย อรุณไพโรจน์
ไม่ปรากฏชื่อคนนามสกุล จันทร์สกุลพร เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแต่อย่างใด
แต่ยังคงแจ้งที่ตั้งเดิม คือ เลขที่ 48/7-8 ซอยรัชดาภิเษก 20 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่อยู่เดิมของบริษัทสยามอินดิก้า
ส่วนข้อมูล บริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 มีทุน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 990 อาคารอับดุลราฮิม เพลส ชั้น 31 ห้อง 3101 ถนนพระรามที่ 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจ เข้าเป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดชอบในห้างหุ้นส่วนจำกัด และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชน
ปรากฏรายชื่อ นายยุทธพงษ์ เสรีดีเลิศ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ (สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ได้แจ้งเลิกบริษัทไปแล้ว)
@ แจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 3
จากนั้นในช่วง 25 กันยายน 2557 บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ADAM ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เข้ามาซื้อกิจการ ของบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด จำนวนรวม 21,999,998 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ KITHA จาก บริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (T LAND) ในราคา 800 ล้านบาท และมีการระบุข้อมูลว่า KITHA เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจ และมีทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นที่ดิน
โดย ADAM ถือหุ้นใหญ่ 99.98% ส่วนนายศุภกร วรธงไชย นางสาวราตรี สายเมฆ ถืออยู่คนละ 0.01%
@ แจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 4
ต่อมาภายหลังจากเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2558 บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบริษัท สิราลัย จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด)ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในคดีระบายข้าวจีทูจี และถือว่ามีส่วนสำคัญในกระบวนการระบายข้าวแบบจีทูจี โดยตามสำนวนการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ชี้มูลความผิดนายบุญทรง กับพวก ระบุทำนองว่า ไม่มีการทำจีทูจีเกิดขึ้นจริง แต่ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบริษัท สิราลัย จำกัด เป็นผู้เข้าไปซื้อข้าวดังกล่าวในราคาถูกแบบการขายจีทูจี ก่อนจะมาเวียนขายต่อในประเทศในราคาสูงแทน
วันที่ 16 มี.ค. 2559 บอร์ดฯ ADAM ได้อนุมัติการจำหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญของบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท (บริษัทถือหุ้นในบริษัท กีธา ร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท กีธา) จำนวนรวม 21,999,998 หุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 99.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ให้กับบริษัท เอ. ที. แลนด์ แอนด์เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด ("ผู้จะซื้อ") ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท ในราคาประมาณหุ้นละ 39.45 บาท รวมเป็นมูลค่า 868 ล้านบาท
โดยรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 17 พฤษภาคม 2559 ของ บริษัท กีธาฯ นั้น บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 21,999,998 หุ้น (เกือบ100%) มูลค่า 2,199,999,800 บาท ส่วนที่เหลืออีก 2 หุ้น อยู่ในชื่อของ นางสาว ราตรี สายเมฆ และนาย ศุภกร วรธงไชย (อ่านประกอบ : ผ่าโครงสร้างผู้ถือหุ้น'กีธาฯ'5ปีเปลี่ยน4ครั้ง ไร้สัมพันธ์ลึกเครือข่าย 'เสี่ยเปี๋ยง' จริงหรือ?)
(ที่มา : รายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระในเรื่องการกู้ยืมของบจ. กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จาก Fortune Thailand Investment Fund ของ ADAM ที่แจ้งผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2559)
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด นั้น เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 30 ธันวาคม 2558 มีทุน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 598 อาคารคิว.เฮ้าส์ เพลินจิต ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจเป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ และจัดการทรัพย์สินให้บุคคลอื่น ปรากฎชื่อ นางสมใจ ศรประสิทธิ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 30 เมษายน 2559 นาง สมใจ ศรประสิทธิ์ ถือหุ้นใหญ่สุด 25,000 หุ้น (50%) เอซีอี เพรซิชั่น อินเวลเม้นทส์ ลิมิเต็ด จากจีน ถืออยู่ 24,998 หุ้น (49.9960%) นาย ธานินทร์ พรมมา และนายสมชาย นาราช ถืออยู่คนละ 1 หุ้น
สำหรับข้อมูลในส่วนของกรรมการและผู้ถือหุ้นนั้น มีดังนี้
1. นางสมใจ ศรประสิทธิ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 3 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อาชีพรับจ้าง
2. นายธานินทร์ พรมมา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 หมู่ที่ 7 ต.ป่ากุมเกาะ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย อาชีพรับจ้าง
3. นายสมชาย นาราช อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 17 ต.สำโรง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา อาชีพรับจ้าง
อย่างไรก็ดี บุคคลทั้ง 3 ราย ไม่ได้ระบุหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้ และไม่สามารถคืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลต่างๆ ในโลกออนไลน์ รวมถึงบริการ 1133 ได้
4. เอซีอี เพรซิชั่น อินเวลเม้นทส์ ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้น 2 จากการตรวจสอบพบว่า มีความเชื่อมโยงเป็นกลุ่มบริษัทเดียว กับ บริษัท อาร์ทลิช อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ บริษัท เอลัช (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งในเอกชนที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบกรณีการซื้อขายมันสำปะหลัง (มันเส้น) ในรูปแบบสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 7 สัญญา ปริมาณรวม 4,790,000 ตัน จำนวนเงินรวม 30,642,500,000 บาท ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วย เนื่องจากแจ้งที่อยู่เดียวกัน คือ ตั้งอยู่เลขที่ 957 ออฟชอร์ อินคอร์ปอเรชั่นส์ เซ็นเตอร์ ถนนทาวน์ ทอร์โทลา บริติชเวอร์จิน ไอซ์แลนด์ (อ่านประกอบ : เหลือเงินติดบัญชี6พัน! เปิดครบผู้ร่วมจัดตั้ง'เอ.ที.ฯ'หุ้นใหญ่ 'กีธาฯ' ถูกอายัดทรัพย์7พันล.)
ปัจจุบัน บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด เป็นหนึ่งในเอกชนที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และจำเลยในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคารจำนวน 51 บัญชี มูลค่าประมาณ 921 ล้านบาท และที่ดินใน กทม. ภูเก็ต พังงา อยุธยา อ่างทอง จำนวน 611 รายการ มูลค่าประมาณ 5,970 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 662 รายการ มูลค่าประมาณ 7 พันล้านบาท
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูล บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ปรากฎชื่อ นายปณภัช กิ่งมนตรี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ข้อมูลงบการเงินแจ้งไว้ล่าสุด คือ 31 ธันวาคม 2558 ระบุว่า มีรายได้รวม 132,764,261.67 บาท รวมรายจ่าย 1,124,463,511.26 บาท ขาดทุนสุทธิ 991,634,037.19 บาท
สินทรัพย์ แจ้งว่า มีสินทรัพย์รวม 7,593,494,576.91 บาท รวมหนี้สิน 9,417,736,463.80 บาท
ส่วนบริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด ไม่ได้มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลอะไร สำหรับข้อมูลงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่า ไม่มีรายได้ มีค่าใช้จ่ายในการบริหาร 38,035 บาท เท่ากับขาดทุนสุทธิ 38,035 บาท
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อไปยัง บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้เหมือนเดิม
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
เปิดหลักฐาน คนสกุล"เสี่ยเปี๋ยง"ขนเงินสด2.2พันล.ลงขันธุรกิจ ก่อนเจอคดีข้าว
เจาะลึก!หุ้นใหญ่บ.เครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"โยงทุนสิงคโปร์-"ADAM"โผล่ฮุบ 800 ล.
ฮือฮา!คนใกล้ชิด"เสี่ยเปี๋ยง"โอนหุ้นบ.เอี่ยวคดีข้าวจีทูจี เกลี้ยง 2.2 พันล.
บ.เครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"เอี่ยวคดีข้าว!ดอดเปลี่ยนชื่อใหม่-เซียนหุ้นนั่งกก.
พลิกปูม“บ.สิราลัย”โผล่สั่งจ่ายเช็คระบายข้าวจีทูจี“เก๊” กล่องดวงใจ“เสี่ยเปี๋ยง"?
เช็คชื่อเอกชน 91 ราย ในบัญชีแจ้งข้อกล่าวหา ป.ป.ช. คดีระบายข้าวจีทูจี!