เหลือเงินติดบัญชี6พัน! เปิดครบผู้ร่วมจัดตั้ง'เอ.ที.ฯ'หุ้นใหญ่ 'กีธาฯ' ถูกอายัดทรัพย์7พันล.
เปิดละเอียดหยิบข้อมูล บ.เอ.ที.แลนด์ฯ หุ้นใหญ่ บ.กีธาฯ รวมพลคนตจว. 'กก.-พยาน-ผู้ถือหุ้น' ร่วมตั้งบริษัท เผยยังชำระทุนจดทะเบียนไม่ครบ 5 ล้าน - ผู้ร่วมก่อการ เหลือเงินติดบัญชีแค่ 6 พัน!
หลายคนอาจจะทราบข้อมูลกันไปแล้วว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ บริษัท สิราลัย จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด) ซึ่งถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติให้ยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อดีตพ่อค้าข้าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และจำเลยในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคารจำนวน 51 บัญชี มูลค่าประมาณ 921 ล้านบาท และที่ดินใน กทม. ภูเก็ต พังงา อยุธยา อ่างทอง จำนวน 611 รายการ มูลค่าประมาณ 5,970 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 662 รายการ มูลค่าประมาณ 7 พันล้านบาท
คือ บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด โดยเริ่มเข้ามาถือหุ้นในบริษัท กีธาฯ เป็นทางการ เมื่อ 17 พฤษภาคม 2559 โดยถือหุ้นใหญ่สุด 21,999,998 หุ้น (เกือบ100%) มูลค่า 2,199,999,800 บาท ส่วนที่เหลืออีก 2 หุ้น อยู่ในชื่อของ นางสาว ราตรี สายเมฆ และนาย ศุภกร วรธงไชย
(อ่านประกอบ :ผ่าโครงสร้างผู้ถือหุ้น'กีธาฯ'5ปีเปลี่ยน4ครั้ง ไร้สัมพันธ์ลึกเครือข่าย 'เสี่ยเปี๋ยง' จริงหรือ?)
เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับ บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจดทะเบียนตั้งบริษัทแห่งนี้ มากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเอกสารการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจ พบข้อมูลและข้อสังเกตที่สำคัญ ดังต่อไปนี้
@ ข้อมูลเบื้องต้น
บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อ 30 ธันวาคม 2558 มีทุน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 598 อาคารคิว.เฮ้าส์ เพลินจิต ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจเป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ และจัดการทรัพย์สินให้บุคคลอื่น
@ ผู้เกี่ยวข้อง
จากการตรวจสอบหนังสือบริคณห์สนธิ บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด ลงวันที่ 21 ธ.ค.2558 ระบุชื่อผู้ก่อการตั้งบริษัท ไว้ จำนวน 3 ราย คือ
1. นางสมใจ ศรประสิทธิ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 3 ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อาชีพรับจ้าง เข้าซื้อหุ้นไว้จำนวน 50 หุ้น มูลเป็นค่า 50,000 บาท (ระบุราคาหุ้นไว้หุ้นละ 100 บาท/1 หุ้น)
2. นายธานินทร์ พรมมา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 หมู่ที่ 7 ต.ป่ากุมเกาะ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย อาชีพรับจ้าง เข้าซื้อหุ้นไว้ 1 หุ้น มูลค่า 100 บาท
3. นายสมชาย นาราช อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ที่ 17 ต.สำโรง อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา อาชีพรับจ้าง เข้าซื้อหุ้นไว้ 1 หุ้น มูลค่า 100 บาท
อย่างไรก็ตาม ผู้ก่อการตั้งบริษัทฯ ทั้ง 3 ราย ไม่ได้ระบุหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้ และไม่สามารถคืบค้นข้อมูลจากฐานข้อมูลต่างๆ ในโลกออนไลน์ รวมถึงบริการ 1133 ได้
จากการตรวจสอบพบว่า ในการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ มีการใช้พยานลงลายมือชื่อรับรอง จำนวน 2 ราย คือ
1. นางสาววรรณรัตน์ วรสาย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142/1 หมู่ที่ 6 ตำบลนาทุ่ง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร
2. นางสาวมณฑิรา คำแหง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161/1 หมู่ที่ 1 ตำบลแขวงโคกไทย อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี
โดยพยานทั้ง 2 ราย ระบุหมายเลขโทรศัพท์ติตต่อไว้คนละเบอร์ คือ 02-167-3039 และ 02-275-8888 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นเบอร์โทรศัพท์ของบริษัท กีธาฯ ทั้ง 2 เบอร์
สำหรับบุคคลที่เป็นผู้จองชื่อนิติบุคคลกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2558 คือ นางสมใจ ศรประสิทธิ์ แจ้งข้อมูลติดต่อไว้ 2 ช่องทาง คือ หมายเลข 089-516-20-XX และ อีเมล์ [email protected]
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ของ นางสมใจ ดังกล่าว ปรากฎว่า มีหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่งรับสาย พร้อมปฏิเสธว่า หมายเลขโทรศัพท์เบอร์นี้ ไม่ใช่ของ "นางสมใจ ศรประสิทธิ์"
ส่วนอีเมล์ [email protected] นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ชื่อ Ratree.s ตรงกับ ชื่อของ นางสาว ราตรี สายเมฆ หนึ่งในผู้ถือหุ้น บริษัท สิราลัย จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด) ในปัจจุบัน (รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 17 พฤษภาคม 2559 ของ บริษัท กีธาฯ บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 21,999,998 หุ้น (เกือบ100%) มูลค่า 2,199,999,800 บาท ส่วนที่เหลืออีก 2 หุ้น อยู่ในชื่อของ นางสาว ราตรี สายเมฆ และนาย ศุภกร วรธงไชย)
สำหรับผู้รับมอบอำนาจจาก นางสมใจ ศรประสิทธิ์ ในการไปติดต่อกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อขอจัดตั้งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2558 คือ นางสาวจารุวรรณ แดงศิริ แจ้งอยู่บ้านเลขที่ 99/320 ถนนลำลูกกา คลอง 4 ต.ลาดสวย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปสอบถามข้อมูลจาก นางสาวจารุวรรณ ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้ในหนังสือมอบอำนาจ แต่ นางสาวจารุวรรณ ปฎิเสธว่า ไม่ทราบรายละเอียดของบริษัทมากนัก เพราะได้รับว่าจ้างจากลูกค้าคนหนึ่ง ให้ไปยื่นเรื่องกับกรมพัฒนาธุรกิจให้เท่านั้น และจำไม่ได้ว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง
@ แหล่งเงิน
ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ แม้ว่าจะมีการแจ้งวงเงินทุนจดทะเบียนไว้ที่ 5 ล้านบาท แต่ในช่วงเริ่มต้นผู้ถือหุ้นบริษัท มีการตกลงชำระทุนจดทะเบียน แค่ 1,250,000 บาท คิดเป็นราคาหุ้นละ 25 บาท
ขณะที่ในการประชุมจัดตั้งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2558 ได้ปรากฎชื่อ บริษัท เอซีอี เพรซิชั่น อินเวสเม้นทส์ ลิมิเต็ด เข้ามาร่วมถือหุ้นเพิ่มอีก 1 ราย ระบุจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ 24,988 หุ้น กลายเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทฯ อันดับ 2 ต่อจาก นางสมใจ ศรประสิทธิ์ ที่ถือหุ้นอยู่จำนวน 25,000 หุ้น ส่วนนายธานินทร์ พรมมา และ นายสมชาย นาราช ถือไว้อยู่คนละ 1 หุ้น
โดยบริษัทฯ ได้มีการจัดทำใบสำคัญรับชำระเงินค่าหุ้นและเงินลงหุ้น จากผู้ถือหุ้น ทั้ง 4 ราย ซึ่งจ่ายพร้อมกัน ณ วันที่ 21 ธ.ค.2558 แยกเป็น ของ นางสมใจ เป็นเงินสด 625,000 บาท บริษัท เอซีอี เพรซิชั่น อินเวสเม้นทส์ ลิมิเต็ด เป็นเงินสด 624,950 บาท ส่วนนายธานินทร์ พรมมา และ นายสมชาย นาราช ชำระเป็นเงินสดคนละ 25 บาท
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้น 3 ราย คือ นางสมใจ นายธานินทร์ และ นายสมชาย ยังแนบหนังสือรับรองยอดเงินฝาก จากธนาคารที่ตนเองเปิดบัญชีไว้ มาใช้ประกอบเป็นหลักฐานด้วย
โดยในส่วนของ นางสมใจ มีเงินเหลืออยู่จำนวน 626,000 บาท ( 29 ธ.ค.2558) นายธานินทร์ มียอดเงินคงเหลือ 38,911.30 บาท (28 ธ.ค.2558) นายสมชาย นาราช มียอดเงินคงเหลือ 6,141.22 บาท (24 ธ.ค.2558)
ส่วน บริษัท เอซีอี เพรซิชั่น อินเวสเม้นทส์ ลิมิเต็ด ไม่ได้มีการแนบหนังสือรับรองยอดเงินฝากจากธนาคารมาประกอบด้วยแต่อย่างใด
ขณะที่ ข้อมูลเกี่ยวกับ เอซีอี เพรซิชั่น อินเวลเม้นทส์ ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้น 2 สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า มีความเชื่อมโยงเป็นกลุ่มบริษัทเดียว กับ บริษัท อาร์ทลิช อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ บริษัท เอลัช (ประเทศไทย) จำกัด ที่ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งในเอกชนที่อยู่ในข่ายถูกตรวจสอบกรณีการซื้อขายมันสำปะหลัง (มันเส้น) ในรูปแบบสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จำนวน 7 สัญญา ปริมาณรวม 4,790,000 ตัน จำนวนเงินรวม 30,642,500,000 บาท ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วย เนื่องจากแจ้งที่อยู่เดียวกัน คือ ตั้งอยู่เลขที่ 957 ออฟชอร์ อินคอร์ปอเรชั่นส์ เซ็นเตอร์ ถนนทาวน์ ทอร์โทลา บริติชเวอร์จิน ไอซ์แลนด์
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้รับทราบทั้งหมด ชี้ให้เห็นข้อสังเกตสำคัญหลายประเด็น โดยเฉพาะสถานะที่แท้จริง ของกลุ่มบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดตั้งบริษัทฯ แห่งนี้ อาทิ
1. ที่อยู่ของบุคคลต่าง ส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อที่ชัดเจน
2. สถานะทางการเงินของผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะยอดเงินคงเหลือในบัญชีที่นำมาแสดงต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่มีจำนวนน้อย แต่กลับปรากฎชื่อเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทที่เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบริษัท กีธาฯ ที่มีทุนจดทะเบียนกว่า 2.2 พันล้าน และเป็นเจ้าของโครงการคอนโดและที่ดิน 14 รายการ รวมมูลค่ากว่า 6.9 พันล้านบาท
3. พยานในการจดทะเบียนจัดตั้ง รวมถึง นางสาว ราตรี สายเมฆ เจ้าของอีเมล ที่นางสมใจ นำไปใช้ติดต่อกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ล้วนมีความเชื่อมโยงกับบริษัทสิราลัย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.ย.2559 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ 02-2541021-1
ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์รายหนึ่ง ว่า เป็นเบอร์โทรศัพท์ของ อาคารคิวเฮ้าส์ เพลินจิต
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึง บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด แต่เจ้าหน้าที่ปฎิเสธไม่เคยได้ยินชื่อ บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด มาก่อน
ก่อนจะแจ้งให้ ให้ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง 'inc' ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ที่เข้ามาเช่าพื้นที่บริเวณ ชั้น 6 ของอาคารคิวเฮ้าส์ เพลินจิต และเปิดให้เอกชนรายใด เข้ามาเช่าพื้นที่เป็นสำนักงานบริษัท เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ของ inc ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า มีบริษัทชื่อ บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด มาเช่าพื้นที่ชั้น 6 เพื่อเปิดเป็นสำนักงานบริษัทจริง
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ ของ บริษัท เอ.ที. แลนด์ แอนด์ เดเวล็อปเม้นท์ จำกัด
เจ้าหน้าที่ inc ได้ให้เบอร์โทรศัพท์บุคคลคนหนึ่งมา ชื่อว่า 'ราตรี' โดยระบุว่าเป็นผู้มาติดต่อขอเช่าสถานที่ตั้งสำนักงาน เมื่อผู้สื่อข่าวติดต่อไป ผู้หญิงที่ชื่อ ราตรี รับทราบ แต่ระบุว่า "ติดประชุมอยู่ ไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว"
ส่วนผู้หญิงที่ชื่อ ราตรี คนนี้ จะเป็นคนเดียวกับ นางสาว ราตรี สายเมฆ หนึ่งในผู้ถือหุ้นบริษัท กีธาฯ คนปัจจุบัน และถูก นางสมใจ นำอีเมล์ไปใช้ติดต่อกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือไม่
เป็นปริศนา ที่ต้องค้นหาความจริงกันต่อไป
อ่านประกอบ :
ได้มาจากการทุจริต! ปปง.อายัดทรัพย์ ‘เสี่ยเปี๋ยง-พวก’ 7 พันล.พันคดีข้าวจีทูจี
เปิดตัวหุ้นใหญ่ 'บ.สิราลัย' ก่อนโดนปปง.อายัดทรัพย์7พันล.-ไร้เงาคนใกล้ชิดเสี่ยเปี๋ยง-บ.จีนโผล่?
เปิดตัว บ.จีนหุ้นใหญ่ 'สิราลัย'เครือข่ายเสี่ยเปี๋ยง! ใช้ที่อยู่เดียวบ.มันเส้นจีทูจี-'บริติชเวอร์จิน'
'อีเมล์' ระบุชัดที่แท้ 'คนสิราลัย' เจ้าของใหม่ บ.กีธา ก่อนปปง.อายัดทรัพย์ 7 พันล.?
ไม่เกี่ยวข้อง'เสี่ยเปี๋ยง'-ธุรกิจข้าว! บ.กีธาฯ แจงลูกค้าถูกปปง.อายัดทรัพย์ 7พันล.
เผยโฉม คอนโด5แห่งที่ดิน9แปลง 6.9พันล.! ทรัพย์สิน บ.กีธาฯ ก่อนโดน ปปง.อายัดทรัพย์