ก.ล.ต. ลงดาบ อดีตกก.ADAM พร้อมเสี่ยเปี๋ยง-ลูก ซื้อหุ้นบ.กีธาฯ ฟอกเงินทุจริตข้าวจีทูจี
ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตกรรมการ ADAM -พวก 8 ราย รวมเสี่ยเปี๋ยง-ลูกด้วย ต่อดีเอสไอ กรณีกระทำทุจริตต่อหน้าที่เข้าซื้อหุ้นบ.กีธาฯ ทั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตโครงการระบายข้าวจีทูจี เข้าข่ายความผิดฟอกเงิน ส่งเรื่องดีเอสไอดำเนินการตามกม.ต่อไป
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2561 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เผยแพร่ข่าวกรณี ก.ล.ต. กล่าวโทษอดีตกรรมการบริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ADAM กับพวกรวม 8 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีกระทำทุจริตต่อหน้าที่ในการให้ ADAM เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมด ของ บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (ชื่อเดิม บริษัท สิราลัย จำกัด) จนเป็นเหตุให้ ADAM ได้รับความเสียหาย
สำหรับบุคคลที่ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษกรณีนี้ ได้แก่ (1) นายบุญเปี่ยม เอี่ยมรุ่งโรจน์ (ประธานกรรมการบริษัท ADAM ในช่วงเกิดเหตุ) (2) นายชินวัฒน์ ชินแสงอร่าม (กรรมการ ADAM ในช่วงเกิดเหตุ) (3) นายสราวุฒิ ภูมิถาวร (กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบของ ADAM ในช่วงเกิดเหตุ) และพวกอีก 5 ราย ได้แก่ (4) นายณิทธิมน หัสดินทร ณ อยุธยา (5) นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร (6) นางสาวบงกร จันทร์สกุลพร (หรือชื่อขณะเกิดเหตุ นางสาว ธันยพร) (7) นายสรวิศ จันทร์สกุลพร และ (8) นางสุดา คุณจักร ซึ่งได้ร่วมกันกระทำผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำเพื่อให้ ADAM เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด (บจ. กีธา) ในปี 2557 เข้ามาเป็นบริษัทย่อยของ ADAM โดยทุจริต
ทั้งที่ทราบว่าในระหว่างนั้น บจ. กีธา เป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องและอยู่ระหว่างถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไต่สวนดำเนินคดี กรณีสงสัยว่าร่วมทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวและมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนของการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการฟอกเงิน
ก.ล.ต. ยังระบุด้วยว่า ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นเหตุให้ ADAM ได้รับความเสียหาย โดยกลุ่มครอบครัวจันทร์สกุลพร ซึ่งประกอบด้วยนายอภิชาติ นางสาวบงกร และนายสรวิศ ได้รับประโยชน์จากการใช้กระบวนการกลไกของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเปลี่ยนถ่ายผู้เป็นเจ้าของของ บจ. กีธา จากเจ้าของเดิม คือ กลุ่มครอบครัวจันทร์สกุลพร มาเป็น ADAM ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีประชาชนทั่วไปเป็นผู้ถือหุ้น ขณะเดียวกันกลุ่มครอบครัวจันทร์สกุลพร ก็ได้เปลี่ยนสภาพของทรัพย์สินซึ่งคือหุ้นของ บจ. กีธา เป็นหุ้น ADAM ซึ่งมีสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทน โดยมีการวางแผนการอย่างเป็นขั้นตอน รวมถึงการใช้อำนาจของคณะกรรมการบริษัทในการลงนามในสัญญาจะซื้อหุ้น บจ. กีธา ขณะเดียวกันได้ใช้บัญชีนอมินีเข้าซื้อหุ้น ADAM เพื่อให้ได้มาซึ่งเสียงข้างมากในการครอบงำกิจการของบริษัท และใช้สิทธิในการเพิ่มวาระในวันที่มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น และเห็นชอบให้ซื้อหุ้นดังกล่าว ทำให้สัญญาจะซื้อหุ้นดังกล่าวมีผลผูกพันทันที
การกระทำของอดีตกรรมการ ADAM และพวกรวม 8 ราย ข้างต้นเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งบุคคลราย (1) (2) และ (3) เข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 307 และ มาตรา 311 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีบุคคล ตาม (4) (5) (6) (7) และ (8) ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำผิด เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 307 และมาตรา 311 ประกอบมาตรา 315 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ แล้วแต่กรณี นอกจากนี้ บุคคลตาม (6) และ (7) ได้ร่วมกันควบคุมและหรือใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของบุคคลอื่นโดยเป็นผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง รวมถึงเข้าซื้อและถือครองหลักทรัพย์ ADAM ที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงเกินร้อยละ 5 และรวมกันถึงร้อยละ 25 ขึ้นไปของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ โดยไม่ได้รายงานและทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ตามที่กฎหมายกำหนด ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 8 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยการถูกกล่าวโทษข้างต้นมีผลให้ผู้ถูกกล่าวโทษเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตามประกาศ ก.ล.ต. จึงไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี
อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และการสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรมตามลำดับ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด มีชื่อเดิมว่า บริษัท สิราลัย จำกัด เป็นบริษัทของคนใกล้ชิดและนามสกุลเดียวกับ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" นักธุรกิจขายค้าชื่อดังผู้ก่อตั้งบริษัทสยามอินดิก้า จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทฯ ปรากฎชื่อเป็นจำเลยคดีทุจริตระบายข้าวโครงการรับจำนำ แบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการหลบหนี
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ภายหลังจากที่ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ถูก ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาคดีข้าวดังกล่าว บริษัท สิราลัย จำกัด ได้แจ้งเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เป็น "บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด" และปรากฏรายชื่อ นายยุทธพงษ์ เสรีดีเลิศ และ นายผ่านชัย อรุณไพโรจน์ เข้ามาร่วมเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
พร้อมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหารและผู้ถือหุ้น จำนวน22,000 หุ้น มูลค่า 2,200,000,000 บาท จากผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมจำนวน 3 ราย คือ นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข จำนวน 8,800,000 หุ้น มูลค่า 880,000,000 บาท นางสาว ธันยพร จันทร์สกุลพร และนายสรวิศ จันทร์สกุลพร ถืออยู่คนละ 6,600,000 หุ้น มูลค่า 660,000,000 บาท
มาเป็นบริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 21,999,998 หุ้น มูลค่า 2,199,999,800 บาท ตามด้วยนาย พีรศักดิ์ ไชยกุลงามดี และนาย ยุทธพงศ์ เสรีดีเลิศ ถืออยู่คนละ 1 หุ้น มูลค่า 100 บาท
ก่อนที่บริษัทอาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จะเข้ามาซื้อกิจการต่อจาก บริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในราคา 800 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในการทำธุรกิจของบริษัท สิราลัย จำกัด ถูกจับตามองอย่างมาก เกี่ยวกับที่มาของเงินเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 2.2 พันล้านบาท ว่า นำมาจากไหนกันแน่ เนื่องจากการเพิ่มทุนของบริษัทสิราลัย เกิดขึ้นหลังจากที่ บริษัท “GSSG IMP AND EXPORT CORP” จากเมืองกวางเจา ประเทศจีน เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ และมีการตรวจพบว่า ตัวแทนบริษัทที่เข้ามาดำเนินการ คือ “รัฐนิธ โสติกุล” (“ปาล์ม” ) และ นายนิมล รักดี มีความเกี่ยวโยงกับ บริษัทสยามอินดิก้า ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2555 ก่อนที่จะมีการนำข้าวไปเร่ขายต่อให้กับโรงสี ตามข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน
ขณะที่แหล่งเงินทุนเกือบทั้งหมด ที่นำมาใช้ในการเพิ่มทุนล้วนแล้ว ถูกระบุว่าเป็นเงินสด มาจากคนใกล้ชิดและมีนามสกุลเดียวกับ นายอภิชาติ แทบทั้งสิ้น
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
เปิดหลักฐาน คนสกุล"เสี่ยเปี๋ยง"ขนเงินสด2.2พันล.ลงขันธุรกิจ ก่อนเจอคดีข้าว
เจาะลึก!หุ้นใหญ่บ.เครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"โยงทุนสิงคโปร์-"ADAM"โผล่ฮุบ 800 ล.
ฮือฮา!คนใกล้ชิด"เสี่ยเปี๋ยง"โอนหุ้นบ.เอี่ยวคดีข้าวจีทูจี เกลี้ยง 2.2 พันล.
บ.เครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"เอี่ยวคดีข้าว!ดอดเปลี่ยนชื่อใหม่-เซียนหุ้นนั่งกก.
พลิกปูม“บ.สิราลัย”โผล่สั่งจ่ายเช็คระบายข้าวจีทูจี“เก๊” กล่องดวงใจ“เสี่ยเปี๋ยง"?
เช็คชื่อเอกชน 91 ราย ในบัญชีแจ้งข้อกล่าวหา ป.ป.ช. คดีระบายข้าวจีทูจี!