แพร่ พ.ร.บ.ข่าวกรองฯใหม่ ล้วงข้อมูลทุกอย่างไม่ผิด กม.-ตั้ง ศป.ข.เฝ้าระวังข่าว 24 ชม.
ราชกิจจานุเบกษาแพร่ พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ ฉบับใหม่ 2562 เพิ่ม ม.6 ให้อำนาจได้มาซึ่งข้อมูลด้วยวิธีการใด ๆ ก็ได้ แต่ต้องบันทึกทุกขั้นตอน ดูผลกระทบบุคคล หากทำโดยสุจริต-เพื่อผลประโยชน์แก่ความมั่นคงให้ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย ตั้ง ศป.ข. ประเมินสถานการณ์ข่าว 24 ชั่วโมง เฝ้าระวังภัยคุกคามทั้งสถานการณ์ปกติ-ช่วงพระราชพิธีสำคัญ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2562 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ พ.ศ. 2562 โดยเป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยข่าวกรองแห่งชาติ และให้ยกเลิก พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ ฉบับเดิม พ.ศ. 2528 ระบุหมายเหตุว่า เนื่องจาก พ.ร.บ.ฉบับเดิม ใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว เนื้อหาและหลักเกณฑ์บางส่วนไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ภัยคุกคามความมั่นคงและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มของภัยคุกคามรูปแบบใหม่ด้วยวิธีการที่หลากหลายซับซ้อนขยายตัวมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างสภาวะแวดล้อมให้เอื้อต่อการปฏิบัติการข่าวกรองของชาติ เพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และทำให้ภารกิจของรัฐด้านกิจการข่าวกรองมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สามารถรับรองสถานการณ์ภัยคุกคามความมั่นคงทุกรูปแบบได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที เพื่อรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งรัฐ จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ.ฉบับนี้
สาระสำคัญของ พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ พ.ศ. 2562 อยู่ในมาตรา 6 ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ไม่มีในฉบับเดิม ระบุว่า เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ สำนักข่าวกรองแห่งชาติอาจสั่งให้หน่วยงานของรัฐหรือบุคคลใดส่งข้อมูลหรือเอกสารที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติภายในระยะเวลาที่ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติกำหนด หากหน่วยงานของรัฐหรือบุคคลดังกล่าวไม่ส่งข้อมูลหรือเอกสารภายในกำหนดเวลาโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติรายงานต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการที่เห็นสมควรต่อไป
ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องได้มาซึ่งข้อมูลหรือเอกสารอันเกี่ยวกับการข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง การข่าวกรองทางการสื่อสาร หรือการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน สำนักข่าวกรองแห่งชาติ อาจดำเนินการด้วยวิธีการใด ๆ รวมทั้งอาจใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เครื่องโทรคมนาคม หรือเทคโนโลยีอื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือเอกสารดังกล่าวได้ ทั้งนี้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบที่ผู้อำนวยการกำหนดโดยความเห็นชอบของนายกรัฐมนตรี โดยระเบียบดังกล่าวอย่างน้อยต้องกำหนดให้มีการบันทึกรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เหตุผล ความจำเป็น วิธีการ บุคคลที่ได้รับผลกระทบ หรืออาจได้รับผลกระทบ และระยะเวลาในการดำเนินการ รวมทั้งวิธีการป้องกัน แก้ไข และเยียวยาผลกระทบต่อบุคคลภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง
การดำเนินการตามมาตรานี้ หากได้กระทำตามหน้าที่และอำนาจโดยสุจริตตามสมควรแก่เหตุแล้ว และเป็นไปเพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงหรือการป้องกันภัยสาธารณะ ให้ถือว่าเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย
นอกจากนี้ในมาตรา 12 ให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติจัดให้มีศูนย์ประสานข่าวกรองแห่งชาติ (ศป.ข.) เป็นหน่วยงานภายใน ทำหน้าที่ประสานกิจการข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง และการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนร่วมกับหน่วยข่าวกรองอื่นภายในประเทศ โดยให้ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ แต่งตั้งรองผู้อำนวยการคนหนึ่งเป็นผู้อำนวยการ ศป.ข.
หน้าที่สำคัญของ ศป.ข. คือ ติดตาม ประเมิน และวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันทั้งภายในประเทศและต่างประเทศตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งรายงานข่าวประจำวัน ข่าวด่วน ข่าวเฉพาะกรณี และรายงานการแจ้งเตือนล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงต่อนายกรัฐมนตรี สภาความมั่นคงแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ตลอดจนกระจายข่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงเฝ้าระวังภัยคุกคาม ความมั่นคงปลอดภัย ทั้งในภาวะปกติ และช่วงมีสถานการณ์ ช่วงเทศกาลที่สำคัญ พระราชพิธี และการประชุมหรืองานพิธีการที่สำคัญของรัฐ เพื่อสนับสนุนการป้องกัน หรือแก้ไขสถานการณ์ที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินรุนแรงเกิดขึ้น และปฏิบัติต่อเนื่องจนสิ้นสุดสถานการณ์นั้น
อ่านรายละเอียด พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ฉบับเต็ม : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/A/050/T_0022.PDF
อ่านรายละเอียด พ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ ฉบับเดิม พ.ศ. 2528 ฉบับเต็ม : https://www.nia.go.th/FILEROOM/CABFRM01/DRAWER01/GENERAL/DATA0017/00017367.PDF
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/