ต้องร้องขออย่างไรรัฐบาลไทยจึงจะรักประชาชนอย่างนี้บ้าง...
"...กระทรวงเกษตรฯ ของเวียดนาม ประกาศแบน ‘พาราควอต’ ไปแล้วตั้งแต่ปี 2560 เพราะรู้กันดีว่าสารพิษนี้ไม่ต่างกับ‘ฝนเหลือง’ (Agent Orange) ที่กองทัพอเมริกาใช้เป็นอาวุธทำให้ผู้คนเจ็บป่วยล้มตายจำนวนมากในช่วงสงครามเวียดนาม..."
เวียดนามสั่งห้ามนำเข้ายาฆ่าหญ้าทุกยี่ห้อที่มีส่วนผสมสารพิษ ‘ไกรโฟเสต’ ทันที เพียงแค่ 6 วันหลังมีข่าวศาลสหรัฐตัดสินว่า ยาฆ่าหญ้าราวด์อัพของมอนซานโต้ทำให้ผู้ใช้เป็นมะเร็ง พร้อมสั่งปรับผู้ผลิตเป็นเงินกว่า 2,585 ล้านบาท เมื่อ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา
กระทรวงเกษตรฯ ของเวียดนาม ประกาศแบน ‘พาราควอต’ ไปแล้วตั้งแต่ปี 2560 เพราะรู้กันดีว่าสารพิษนี้ไม่ต่างอะไรกับ‘ฝนเหลือง’ (Agent Orange) ที่กองทัพอเมริกาใช้เป็นอาวุธทำให้ผู้คนเจ็บป่วยล้มตายจำนวนมากในช่วงสงครามเวียดนาม
วันนี้รัฐบาลไทย ยังปล่อยให้มีการจำหน่ายสารพิษ ‘พาราควอต - ไกรโฟเสต’ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันอันตรายต่อชีวิตผู้คนขนาดไหน โดยรายงานของบีบีซี ภาคภาษาไทย ระบุว่าในปี 2560 ไทยได้นำเข้าสารพาราควอต ปริมาณถึง 44,501 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,816 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของวัตถุอันตรายที่นำเข้ามาในประเทศไทย ส่วนอันดับ 2 คือ สารไกลโฟเซต ซึ่งไทยนำเข้า 59,852 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,283 ล้านบาท ขณะที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่ามีการเร่งนำเข้าสารพิษทั้งสองชนิดมากักตุนจำนวนมหาศาลในช่วงสามสี่ปีนี้
บ้านเราทั้งกระทรวงสาธารณสุขและบุคลากรในวงการแพทย์ต่างชี้ว่ามันอันตรายต้องเลิกขาย แต่กระทรวงเกษตรฯ และ กระทรวงอุตสาหกรรม กลับใช้สารพัดวิธีช่วยเหลือให้นายทุนขายกันต่อไป แถมยังตัดภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มให้ด้วย
อย่ามัวแต่สอนให้ชาวบ้านล้างผักผลไม้ หรือเลือกร้านอาหารสะอาดอยู่เลย ถ้ารักและห่วงใยประชาชนขอให้รัฐบาลสั่ง ‘ห้ามนำเข้า - ห้ามจำหน่าย’ สารพิษทันทีดีกว่าครับ
ดร. มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ
29/3/62
..
อ้างอิง
http://www.globaltimes.cn/content/1143625.shtml
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก sustainablepulse.com