ชาวบ้านบางสะพานโวย ร.ร.เล็กถูกยุบไม่เคลียร์ สงสัยเปิดทางยึดที่สร้างนิคมอุตส.

ชาวบางสะพานบุก สพฐ.ค้านยุบโรงเรียนบ้านดอนสูง สงสัยเปิดทางนายทุนฮุบที่สร้างนิคมอุตส. “ชินภัทร” สั่งสอบข้อเท็จจริง ระบุหาก ร.ร.-ชุมชนร่วมบริหารจัดการและมีคุณภาพการศึกษา ให้เปิดใหม่

วันที่ 4 ก.ค. ผู้ปกครองและครูโรงเรียนบ้านดอนสูง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านการยุบและควบรวมโรงเรียน ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยนายพงษ์ศักดิ์ บุตรรักษ์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านดอนสูง เปิดเผยว่าการยุบโรงเรียนดังกล่าวไม่มีการแจ้งข้อมูลให้ผู้ปกครองและชาวบ้านรับรู้ล่วงหน้ารวมทั้งเหตุผลในการยุบโรงเรียน และมีข้อสงสัยว่าเป็นการเปิดทางให้นายทุนมาใช้ที่ดินบริเวณโรงเรียนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่าขอให้ สพฐ.ชี้แจงเหตุผลการย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนและครู ซึ่งส่งผลให้การเรียนการสอนตกต่ำลง ครูไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน  ทั้งนี้โรงเรียนได้รับบริจาคที่ดินและได้รับความร่วมมือของชุมชนในการร่วมสร้างอาคารเรียน รวมถึงที่ผ่านมามีนักเรียนจำนวนมากและส่วนใหญ่ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี แต่กลับได้รับผลกระทบจากนโยบายยุบรวมโรงเรียนเล็กของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ได้มีการนำนักเรียนส่วนหนึ่งไปเรียนกับโรงเรียนอื่นบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากเป็นโรงเรียนไกลบ้าน ทำให้เด็กเดินทางลำบาก  ดังนั้นการยุบโรงเรียนบ้านดอนสูง โดย ศธ.และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป) ประจวบคีรีขันธ์ เขต1 เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้เด็กผู้ปกครองและครูในพื้นที่ จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอเพิ่มอัตรากำลังครูและผู้อำนวยการโรงเรียน ต่อนายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) 

“เขตพื้นที่ฯได้แจ้งมายังคณะกรรมการโรงเรียนว่ามีนักเรียนในโรงเรียน 43 คน ทั้งที่ความเป็นจริงมี 53 คน ซึ่งทำให้คณะกรรมการโรงเรียนและกลุ่มผู้ปกครองแปลกใจ ซึ่งพวกเราไม่แน่ใจว่าการกระทำดังกล่าวต้องการให้โรงเรียนถูกปิดลงเพื่อเปิดทางให้กลุ่มนายทุนมาใช้ที่ดินหรือไม่ เราจึงต้องการให้ส่วนกลางจาก ศธ.มาดูแลปัญหานี้ด้วยตนเอง” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

ด้าน นายชินภัทร กล่าวว่า สพฐ.จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปศึกษาข้อเท็จจริงภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งแนวทางที่จะให้โรงเรียนดังกล่าวดำเนินการต่อไปได้ ก็ต่อเมื่อโรงเรียนและชุมชนมีแผนบริหารจัดการโรงเรียนที่ดี สพฐ.ก็จะจัดอัตรากำลังครูส่งไปให้ ขณะเดียวกันก็จะดูคุณภาพการจัดการเรียนการสอนปัจจุบัน หากมีครูต่างชาติและชุมชนช่วยกันสนับสนุนตามที่แจ้งมาก็จะให้โรงเรียนได้เปิดสอนต่อไป .