'สุดา คุณจักร' โดนอายัดที่ดิน 13 แปลง คดี‘วัฒนา’สินบนบ้านเอื้ออาทร คือ น้องเสี่ยเปี๋ยง
"...ทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ปปง. อายัดเป็นที่ดิน 13 แปลง ในพื้นที่เขตลาดพร้าวและเขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ในชื่อนางสุดา คุณจักร รวมราคาประเมิน 51,532,950 บาท ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยตรวจสอบพบว่า นางสุดา คุณจักร เป็นน้องสาวของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” อดีตนักธุรกิจค้าข้าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้ง บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หนึ่งในจำเลยคดีระบายข่าวจีทูจี ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่ใน คดีบ้านเอื้ออาทร นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร และ บริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ของนายอภิชาติ ปรากฏชื่อเป็นหนึ่งในจำเลยด้วย..."
"มิตรหลายท่านถามไถ่มาด้วยความห่วงใยกับข่าวการอายัดทรัพย์คดีบ้านเอื้ออาทรซึ่งหลายท่านเข้าใจว่าเป็นผม ขอเรียนให้ทราบว่าทรัพย์ที่ถูกอายัดตามข่าวคือที่ดิน 5 แปลง ซึ่งไม่ใช่ของผม ส่วนเจ้าของทรัพย์เป็นใครผมก็ไม่รู้จัก"
คือคำชี้แจงของ นายวัฒนา เมืองสุข ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางแค พรรคเพื่อไทย จำเลยคดีทุจริตบ้านเอื้ออาทร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Watana Muangsook เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 คณะกรรมการธุรกรรมในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่ง อายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว คดีนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีพฤติการณ์ทุจริตเรียกรับสินบนโครงการบ้านเอื้ออาทร โดยทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ปปง.อายัดเป็นที่ดิน 13 แปลง ในพื้นที่เขตลาดพร้าวและเขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ในชื่อนางสุดา คุณจักร รวมราคาประเมิน 51,532,950 บาท (อ่านประกอบ:ปปง.อายัดทรัพย์คดีสินบนบ้านเอื้ออาทร‘วัฒนา เมืองสุข’พวก ที่ดิน 13 แปลง 51.5 ล., ฉบับเต็ม! คำสั่งอายัดที่ดิน 13 แปลง ในชื่อหญิงสาว คดี‘วัฒนา’สินบนบ้านเอื้ออาทร)
คำถามที่น่าสนใจสำหรับกรณีคือ นางสุดา คุณจักร เป็นใครมาจากไหน?
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยตรวจสอบพบว่า นางสุดา คุณจักร เป็นน้องสาวของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” อดีตนักธุรกิจค้าข้าวชื่อดัง ผู้ก่อตั้ง บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หนึ่งในจำเลยคดีระบายข่าวจีทูจี ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี (อ่านประกอบ : ชะตากรรม "เสี่ยเปี๋ยง" คนสนิท "แม้ว" หลังเจอโทษคุก 6 ปี คดียักยอกข้าว!)
ขณะที่ใน คดีบ้านเอื้ออาทร นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร และ บริษัท เพรซิเด้นท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ของนายอภิชาติ ปรากฏชื่อเป็นหนึ่งในจำเลยด้วย
สำหรับข้อมูลของ นายอภิชาติ หรือ เสี่ยเปี๋ยง และบริษัทเพรสซิเดนท์ฯ เกี่ยวกับคดีบ้านเอื้ออาทร นั้น ในสำนวนการสอบสวนคดีบ้านเอื้ออาทร ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ช่วงหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย. ที่ คสต. ส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนต่อ แจ้งข้อกล่าวหา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเรียกรับเงินผู้ประกอบการเอกชนในโครงการบ้านเอื้ออาทร
โดยรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ 7 รายประกอบไปด้วย 1.นายวัฒนา เมืองสุข 2.นายพรพรหม วงศ์วิทัศน์ 3.นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ส.ส.กทม. 4.นายอภิชาติ จันสกุลพร กรรมการผู้จัดการบริษัทเพรสซิเดนท์ฯ 5.น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง 6.น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว และ 7.บริษัท เพรซิเดนท์ฯ
นอกจากนี้ คตส. ยังได้แยกสำนวนการสวนสอบคดีนี้ในกรณีการฟอกเงิน ส่งเรื่องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปตรวจสอบ ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หลังตรวจพบหลักฐานการกระทำผิดฐานฟอกเงิน ปกปิดอำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน ตามมาตรา 3 และ 5 (2)
โดยปรากฏรายชื่อ บริษัทเพรซิเด้นท์ฯ นายอภิชาติ พร้อมด้วยพนักงานบริษัทเพรซิเด้นท์ฯ อาทิ นายสุจิต สวนโสกเชือก น.ส.รุ่งเรือง ขุนปัญญา น.ส.กรองทอง วงศ์แก้ว ร่วมอยู่ด้วย
ขณะที่ บริษัทเพรซิเดนท์ฯ ตกเป็นหนี้ธนาคาร 8 แห่งเป็นเงินกว่า 12,000 ล้านบาท และมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานฉ้อโกงทรัพย์
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2554 ที่ผ่านมา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จากลงประกาศเรื่อง คำพิพากษาให้ล้มละลาย และกำหนดนัดไต่สวนลูกหนี้โดยเปิดเผย ตามคดีหมายเลขแดงที่ ล. 18747/2552 ระบุว่า ศาลล้มละลายกลาง ได้พิพากษาเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2553 ให้บริษัทเพรซิเดนท์ฯ และ นายอภิชาติ ลูกหนี้ ล้มละลาย
จากการที่ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลาง ขอให้ลูกหนี้ล้มละลายและศาลมีคำสั่งลงวันที่ 8 ตุลาคม 2552 ให้พิทักษ์ทรัพย์ของ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ลูกหนี้ไว้เด็ดขาด ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พุทธศักราช 2483
ขณะที่ข้อมูลในส่วนทรัพย์สินของ นางสุดา คุณจักร นั้น สำนักข่าวอิศรา เคยตรวจสอบพบว่า ในช่วงปี 2556 ที่การระบายข้าวจีทูจี ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เริ่มถูกตรวจสอบพบปัญหาการทุจริต นางสุดา คุณจักร เคยปรากฏชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัทสยามอินดิก้า ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนตัวให้ บริษัท คาล เอเซีย เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด ตั้งอยู่ย่านคลองเตย ทำธุรกิจนำเข้าเครื่องมือและสว่านไฟฟ้า จากต่างประเทศแทน เข้ามาถือหุ้นแทน
ซึ่งภายหลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ของบริษัทสยามอินดิก้าฯ ดังกล่าว นางสุดา คุณจักร ได้ปรากฏรายชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท เอ็มไพร์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2557 แจ้งทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท สำนักงานตั้งอยู่อาคารเลขที่ 48/7-8 ( ชั้น 1,4,5) ซอยรัชดาภิเษก 20 (ซอยรุ่งเรือง) ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจเป็นผู้ถือหุ้นและลงทุนในนิติบุคคลอื่น และประกอบธุรกิจการพัฒนาและจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งให้บริการเป็นที่ปรึกษาและบริหารโครงการ
และจากการตรวจสอบยังพบด้วยว่า นางสุดา คุณจักร และ นายสมยศ คุณจักร ผู้อำนวยการยศการคลินิก ปรากฏชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเอกชนอีก 4 แห่งประกอบไปด้วย
บริษัท เอ็มไพร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 ทุนปัจจุบัน 75 ล้านบาท สำนักงานที่ตั้งอยู่เลขที่ 48/7-8 (ชั้น 1,4,5) ซอยรัชดาภิเษก 20 (รุ่งเรือง) ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ ให้เช่าและบริการเรือขนส่งสินค้าและอสังหาริมทรัพย์
ปรากฏชื่อนางสุดา คุณจักร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจและผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 724,000 หุ้น มูลค่า 72,400,000 บาท นายสมยศ คุณจักร ถือหุ้นอยู่ จำนวน 25,000 หุ้น
บริษัท ยศการ เฮาส์ แอนด์ เฮลท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2548 ทุน 5 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 61 ถนนราชดำริห์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ (ห้องพัก) นาย สมยศ คุณจักร ถือหุ้นใหญ่ 25,000 หุ้น มูลค่า 2,500,000 บาท นางสุดา คุณจักร ถืออยู่ 24,600 หุ้น มูลค่า 2,460,000 บาท นางสาวสุนีย์ จันทร์สกุลพร ถืออยู่ 400 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
บริษัท ภูเก็ต เวิลด์คลาส เมดิคอล สปา จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2555 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 59 ถนนราชดำริห์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจการสปา
นางสุดา คุณจักร ถือหุ้นใหญ่สุด 5,000 หุ้น มูลค่า 500,000 บาท นายสมยศ คุณจักร ถืออยู่ 4,998 หุ้น มูลค่า 499,800 บาท นางสาวสุธิดา จันทะเอ และ นายสุหัสน์ คุณจักร ถืออยู่คนละ 1 หุ้นมูลค่า 100 บาท
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าที่อยู่ของ บริษัท เอ็มไพร์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และ บริษัท เอ็มไพร์ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นที่อยู่เดิมของบริษัทสยามอินดิก้า และเป็นที่ตั้งบริษัทในเครือข่ายของ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” ในช่วงที่ผ่านมา (อ่านประกอบ : เปิดธุรกิจใหม่"สุดา คุณจักร"หลังทิ้งหุ้นสยามอินฯ655ล.ก่อนสามีโดนคดีข้าวจีทูจี, บริษัทนำเข้าสว่าน ย่านคลองเตย โผล่ถือหุ้นใหญ่"สยามอินดิก้า" 655 ล.)
ขณะที่ในคำสั่งอายัดทรัพย์ นายวัฒนา ของปปง. ครั้งนี้ ระบุว่า ได้รับรายงานจากบุคคลไม่ประสงค์ออกนามตามหนังสือร้องเรียนว่า นายวัฒนา เมืองสุข ขณะดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีพฤติการณ์ทุจริตเรียกรับเงินในโครงการบ้านเอื้ออาทร อันเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกรณี มีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดต่อตําแหน่งหน้าที่ราชการ
โดยได้รับแจ้งว่า นายวัฒนา ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และบังคับบัญชาการเคหะแห่งชาติ โดยมีนางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ เป็นผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ จะหาบริษัทหรือบุคคลมารับทําโครงการจัดสรรบ้านเอื้ออาทร และส่งเรื่องให้การเคหะแห่งชาติ รออนุมัติโดยมีข้อแม้ว่าผู้ร่วมโครงการจะต้องจ่ายเงินค่าตอบแทนยูนิตละ 10,000 บาท ซึ่งกรณีดังกล่าว คณะกรรมการตรวจสอบการกระทําที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ดําเนินการไต่สวน นายวัฒนา เมืองสุข กับพวก รวม 20 ราย ว่ามีพฤติการณ์ทุจริตเรียกรับสินบนในโครงการบ้านเอื้ออาทรหรือไม่
ต่อมาได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา นายวัฒนา เมืองสุข กับพวก จํานวน 8 ราย ปัจจุบันคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ต่อมาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ดําเนินการไต่สวนและชี้มูลความผิดทางอาญาแก่บุคคลเพิ่มเติม จํานวน 11 ราย
จากการรวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าว มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายวัฒนา เมืองสุข กับพวก เป็นผู้มีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (5) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควร เชื่อได้ว่านายวัฒนา เมืองสุข กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดดังกล่าว
ซึ่งจากการรวบรวมพยานหลักฐานปรากฏว่า กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทํา ความผิด จํานวน 13 รายการ พร้อมดอกผล และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดในคดีนี้เป็น อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดิน อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียนในการเป็น ผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองโดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง อาจดําเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงขอผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้ หากมิได้มีการออกคําสั่งให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดําเนินการ โอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคําสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงใช้อำนาจตามกฎหมายอายัดทรัพย์ ปปง. ไว้ชั่วคราว
ขณะที่ นายวัฒนา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ส่วนตัวยืนยันว่า "คดีบ้านเอื้ออาทรอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลแล้ว ขณะนี้รอการไต่สวนพยานโจทก์นัดแรกในเดือนมิถุนายน 2562 โดยคดีเกิดขึ้นตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อปี 2549 จากนั้นก็ค้างคาอยู่เช่นนั้น จนกระทั่งผมออกมาต่อต้าน คสช. คดีจึงถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งและดันเรื่องจนมาถึงศาลเมื่อเวลาผ่านไปถึง 12 ปี ส่วนผมก็พร้อมที่จะต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์เสมอมาและไม่เคยประวิงคดี
ข้อเท็จจริงที่พอจะเกี่ยวข้องคืออัยการสูงสุดได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องลงวันที่ 25 มกราคม 2562 ขอให้ศาลริบเงินที่จำเลยได้มาจากการกระทำความผิดให้ตกเป็นของแผ่นดิน ศาลได้ให้จำเลยยื่นคำให้การซึ่งเพิ่งครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2562 แต่ตามข่าวที่นำมาเผยแพร่นั้นมีการอายัดทรัพย์โดย ปปง. ตามคำสั่งที่ ย.51/2562 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 ข้อที่เป็นพิรุธคือ (1) คดีนี้อยู่ในกระบวนพิจารณาของศาล การดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับคดีนี้ไม่ว่าจะเป็นการยึดหรืออายัดจะต้องเป็นคำสั่งศาลไม่ใช่ ปปง. (2) ผู้ที่ถูกอายัดทรัพย์ไม่ได้เป็นจำเลยหรือมีความเกี่ยวข้องในคดีบ้านเอื้ออาทร (3) อัยการสูงสุดไม่เคยมีคำขอให้ศาลสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์ของจำเลยทั้งสิ้น
นี่เป็นอีกหนึ่งในวิชามารที่พิสูจน์ให้เห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้สกปรกที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์ร่วมสมัย มีการใช้วิชามารมากมาย เช่น เมื่อวันสองวันที่ผ่านมาผู้สมัครและผู้สนับสนุนของพรรคเพื่อไทยถูกตำรวจทหารคุกคามตรวจค้นถึงบ้าน หรือแม้แต่การพยายามเอาเรื่องการอายัดทรัพย์มาโยงกับผม แต่ถูกจับโกหกได้เสียก่อนเลย “โป๊ะแตก”
เดินหน้าสู่ความเป็นนิติรัฐและนำความสงบที่มีคุณภาพกลับคืนมาดีกว่าครับ หมดเวลาของพวกลุงที่ถ่วงความเจริญของประเทศแล้วครับ"
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา ปปง. ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงข้อโต้แย้งของนายวัฒนาแต่อย่างใด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
ภาพ : นายวัฒนา เมืองสุข จากเอ็มไทยนิวส์ นายอภิชาติ จัทร์สกุล จากโพสต์ทูเดย์