พท.-พปชร. ชิงเเข่งรวมเสียงเป็นเเกนนำตั้ง รบ. -ยึดคะเเนนสูงสุดคนละชุด
เพื่อไทยประกาศรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล หลังปชช. ลงคะเเนนได้ ส.ส.เขตอันดับ 1 ยันทำตามฉันทานุมติ ย้ำพรรคร่วมต้องไม่สนับสนุนสืบทอดอำนาจ ด้าน 'อนาคตใหม่' ไม่เสนอชื่อ 'ธนาธร' เป็นนายกฯ ให้เกียรติพรรคได้คะเเนนสูงสุด ฝ่าย 'พปชร.' เเข่งสู้ ยึดคะเเนนรวมสูงสุด พร้อมเป็นเเกนนำ
วันที่ 25 มี.ค. 2562 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงกล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงให้กับพรรคเพื่อไทย เราจะได้มุ่งมั่นทำงาน เพื่อทำให้การแก้ไขปัญหาความทุกข์ ความยากจน ของประชาชนหมดไปอย่างรวดเร็ว อย่างที่เราให้คำมั่น อย่างที่เราพูดมาตลอดการหาเสียงในครั้งนี้
ทั้งนี้ ในการเดินหน้าจากนี้ไป ในฐานะพรรคได้รับความไว้วางใจได้ฉันทานุมัติจากประชาชนมากที่สุดจะเดินหน้ารวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลอย่างที่เราพูดไว้แล้วว่า พรรคที่มาอันดับ 1 ได้ ส.ส.มากที่สุดถือได้ว่าฉันทานุมัติจากพี่น้องประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาล จะมีการเดินหน้าประสานเพื่อรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
"แน่นอนคนที่เราจะร่วมด้วย หลักการยังไม่เปลี่ยน ยังเป็นหลักการเดิมที่เราจะร่วมกับพรรคที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ ซึ่งมีพรรคประกาศตัวชัดเจนไม่สนับสนุนสืบทอดอำนาจ ซึ่งหลักการที่วางไว้ยังคงไว้ตามเจตนารมณ์ที่ประชาชนได้แสดงผ่านการเลือกตั้งในการร่วมมือกับพรรคที่มีแนวทางและอุดมการณ์เดียวกัน"
ส่วนเรื่อง ส.ว. คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุเราคงยังมีความเห็นและยืนยันแบบเดิมว่า ส.ว. 250 เสียง สมควรทำตามเสียงของประชาชนเช่นเดียวกัน เเละถึงแม้ผลการเลือกตั้งออกมาไม่เป็นทางการ แต่เป็นการประกาศอย่างไม่เป็นทางการจากกกต. ได้เสียงส.ส.มากที่สุด คงจะเดินหน้าหลังจากนี้ รวบรวมจัดตั้งรัฐบาล
"จะมีการพูดคุยกับพรรคร่วม โดยเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติเเละประชาชนเป็นที่ตั้ง ผลประโยชน์ของพรรคจะเป็นรอง เราจะร่วมกันเพื่อจะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าได้ด้วยความสงบสุขเเละมีเศรษฐกิจที่ดี ซึ่งเราจะพูดคุยกัน เเต่เราให้ความสบายใจว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไม่ได้เพื่อการได้มาซึ่งอำนาจ ฝั่งเราไม่ได้มองอย่างนั้น เเต่การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ต้องเเก้ไข ตอบสนอง สิ่งที่ประชาชนปรารถนาให้ได้ เเละเริ่มต้นทำบริบทประเทศให้เข้าสู่ประชาธิปไตยเเละกติกาสากล"
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นหากไม่สามารถจับมือกับพรรคภูมิใจไทยได้ ว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ชัดเจน เรากำลังตอบสนองความต้องการของประชาชนที่อยากเห็นความเปลี่ยนเเปลง เเล้วเสียงข้างมากในสภาขณะนี้สะท้อนให้เห็นการอยากเปลี่ยนเเปลง ซึ่งยืนยันว่าจะทำตามเจตนารมย์ของประชาชน ไม่ได้ทำเพื่อความทะยานอยากของใครบางคน เพราะฉะนั้นเชื่อว่าเมื่อตั้งเป้าตรงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเเละการเปลี่ยนเเปลงที่ประชาชนอยากเห็น เราจะสามารถลุล่วงปัญหาเเละจับมือจัดตั้งรัฐบาลได้
จะรับได้หรือไม่ กรณีจับมือจัดตั้งรัฐบาลเเล้ว เเต่ไม่เสนอชื่อคนในพรรคเพื่อไทยเป็นเเคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เราจะคุยกัน โดยยึดมั่นฉันทามติของทั้งหมด เพื่อให้เห็นว่าการเปลี่ยนเเปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ประเทศจะได้ประโยชน์สูงสุดเเละประชาชนจะไม่ผิดหวัง ทั้งนี้ เป็นเรื่องที่พรรคฝ่ายประชาธิปไตยจะพูดคุยกัน
วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เเละนายปิยบุตร เเสงกนกกุล เเถลงข่าวขอบคุณ 5.8 ล้านเสียง ที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ จนทำให้พรรคได้รับคะเเนนเสียงมากเป็นอันดับ 3 ณ ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่
โดยนายปิยบุตร กล่าวว่า ที่ผ่านมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต้องเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองลำดับที่ 1 ได้เป็นเเกนนำจัดตั้งรัฐบาลเเละนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาการเลือกตั้งตั้งเเต่ปี 2535 เป็นเเบบนี้มาโดยตลอด ครั้งนี้อันดับ 1 ไม่ได้เฉือนกัน 1 หรือ 2 ที่นั่ง เเต่เฉือนกันหลักสิบ ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่จะให้พรรคลำดับที่ 2 จัดตั้งรัฐบาล
"พรรคเสนอชื่อ ธนาธร เข้าไปเป็นเเคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตอนหาเสียง เรายังมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าธนาธร พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี เเต่ต้องมาอย่างสง่างาม นั่นคือเราต้องชนะเป็นลำดับที่ 1 ถ้าเราเป็นลำดับ 3 เราเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไม่สง่างาม"
ด้านนายธนาธร กล่าวว่า หากเเคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคือ คุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งได้เเสดงตัวชัดเจนเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง คุณหญิงสุดารัตน์คือผู้สมัครส.ส.เเบบบัญชีรายชื่ออันดับ 2 ของพรรคเพื่อไทย กฎกติกาการเลือกตั้งเเบบนี้ทำให้ไม่ได้ตำเเหน่ง ส.ส. เเต่ได้เเสดงความตั้งใจชัดเจนลงมาอยู่ในกติกา ซึ่งน้ำหนักของพวกเราคือการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. เป็นอันดับเเรก
จากนั้น ในเวลา 17:00 น.นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค มีการพูดคุยถึงผลคะแนนไม่เป็นทางการ สรุปได้ว่า พรรคพลังประชารัฐได้ 7.9 ล้านคะแนนสูงสุด และได้ผู้สมัครเขตอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จากนี้ไปพรรคจะหารือพูดคุยกับพรรคการเมืองที่มีผู้สมัครมีแนวทางสอดรับกับพรรคพลังประชารัฐ ทั้งนโยบาย และการบริหารจัดการประเทศ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลต่อไป
"การหารือจัดตั้งรัฐบาลเวลานี้ บอกเวลาตายตัวไม่ได้ แต่เริ่มดำเนินการแล้ว อยู่ช่วงเวลาการพูดคุย และอย่างน้อยที่สุดพรรคที่เข้ามาต้องมีอุดมการณ์สอดคล้องเรื่องนโยบาย "
ขณะที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า พรรคถือเป็นความชอบธรรมที่ได้คะแนนรวมสูงสุด เราไม่มองข้ามเสียงใดเสียงหนึ่งที่ไว้วางใจ มั่นใจเราสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ พร้อมกับยืนยันเสนอพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/