มูลนิธิสืบฯ - WWF-thaland แถลงขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งรัดคดีเสือดำ
เหตุการณ์กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่สังคมไทยได้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งในแง่กฎหมายที่หลายสื่อต่างออกมาให้ข้อมูลการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีให้สาธารณชนรับทราบ และทำความเข้าใจถึงขั้นตอนตามกฎหมายในแต่ละช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระแสอารมณ์ อยู่เหนือข้อมูลและข้อเท็จจริง
วันที่ 19 มีนาคม มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 4
จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าจับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต พร้อมพวกรวม 4 คน ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มีการตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ได้แก่ เสือดำ ไก่ฟ้าหลังเทา เนื้อเก้ง พร้อมทั้งอาวุธปืน เครื่องกระสุน และปลอกกระสุนปืน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ให้กับสำนักงานอัยการจังหวัดทองผาภูมิ สรุปสำนวนสั่งฟ้องในข้อหาสำคัญ ทั้งการร่วมกันล่าสัตว์ป่า และร่วมกันครอบครองซากสัตว์ป่าอย่างครบถ้วน โดยพนักงานอัยการได้สรุปสำนวนส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดทองผาภูมิ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 ศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2561 และศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้(19 มีนาคม 2562)
ถึงแม้ผลคำพิพากษาอาจเป็นหรือไม่เป็นไปดังที่สาธารณชนคาดหวัง แต่เชื่อว่าเหตุการณ์กรณีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่สังคมไทยได้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งในแง่กฎหมายที่หลายสื่อต่างออกมาให้ข้อมูลการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีให้สาธารณชนรับทราบและทำความเข้าใจถึงขั้นตอนตามกฎหมายในแต่ละช่วงเวลา เพื่อไม่ให้กระแสอารมณ์ อยู่เหนือข้อมูลและข้อเท็จจริง หลายสื่อกระตุ้นเตือนสังคมด้วยการนำเสนอเรื่องเสือดำซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพื่อไม่ให้สังคมลืมเลือนถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดกับสัตว์ทั้งสามชนิด และก่อให้เกิดกระแสที่มีผลสะเทือนไม่ยอมรับถึงการเข้าป่าล่าสัตว์เพียงเพื่อความสนุก สังคมไทยได้รู้จักงานนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่ามากขึ้น และเห็นถึงความก้าวหน้าของงานนิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่าที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่สัตว์ป่าในคดีนี้ รวมไปถึงจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่สัตว์ป่าในคดีอื่นๆอีกด้วย และมีกลุ่มมากมายจากภาคประชาชนคนธรรมดาที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่เสือดำ
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเร่งรัดคดีนี้ ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกในความกล้าหาญสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการจับกุมจำเลยทั้งสี่ รวมถึงภาคประชาชนที่คอยเฝ้าติดตามไม่ให้คดีนี้เงียบหาย จนผู้กระทำผิดได้รับการลงโทษตามกฎหมายเช่นประชาชนคนไทยทุกคนที่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียม โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคดีนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญและเป็นบรรทัดฐานของสังคมไทย ขอให้สังคมร่วมกันตรวจสอบและพร้อมที่จะแสดงออกถึงการไม่ยอมรับผู้ไม่เคารพกฎหมาย และร่วมกันติดตามคดีนี้จนกว่าจะถึงที่สุดต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
วันที่ 19 มีนาคม 2562
ขณะที่ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทย ออกแถลงการณ์ แสดงความชื่นชมกระบวนการทางกฎหมาย และเจ้าหน้าที่รัฐ ที่สามารถดำเนินคดีผู้กระทำความผิด กรณีการจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต และพรรคพวกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 โดยเหตุเกิดขึ้นบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ มรดกโลกทางธรรมชาติ
จากคำพิพากษาของศาลในกรณีดังกล่าว ถือเป็นชัยชนะของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเป็นข้อพิสูจน์ความเข้มแข็งของกฎหมาย รวมถึงกระบวนการยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการพิจารณาตัดสินคดี ด้วยความโปร่งใสไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่เลือกสถานะของผู้กระทำความผิด WWF ประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คำพิพากษาจะถือเป็นที่สิ้นสุดแม้ในกระบวนการยื่นอุทธรณ์ในศาลชั้นต่อไป
ทั้งนี้ WWF ประเทศไทย ขอแสดงความชื่นชม คุณวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกและคณะเจ้าหน้าที่ สำหรับความกล้าหาญ และการทำงานอย่างสุจริต เที่ยงตรง ที่นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดในคดีนี้ รวมถึงขอแสดงความขอบคุณไปยังหน่วยงานต้นสังกัด กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ร่วมต่อสู้และทำงานอย่างมืออาชีพตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี เพื่อนำกรณีนี้ขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรม นอกจากนั้น สถาบันศาลยังได้พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ว่าเป็นองค์กรสาธารณะที่ใช้อำนาจตุลาการ ในการธำรงไว้ซึ่งความถูกต้องทางกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
อย่างไรก็ตาม กระบวนการในชั้นอุทธรณ์อาจดำเนินต่อไป และในฐานะองค์กรอนุรักษ์ WWF ประเทศไทย จะยังคงติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดร่วมกับประชาชนชาวไทย เพื่อรอให้คำพิพากษาเป็นที่สุด และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจต่อเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า รวมถึงองค์กร และหน่วยงานที่ทำงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงในการทำงานอนุรักษ์สัตว์ป่าในประเทศไทย
ท้ายที่สุด WWF ประเทศไทยมีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นปรากฎการณ์ที่นักอนุรักษ์ชาวไทย ได้ร่วมแรงร่วมใจผลักดันให้กรณีดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศ ด้วยการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทรัพยากรธรรมชาติที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการล่าสัตว์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งวันนี้ผลการพิพากษาคดี มิได้ถือเป็นเพียงแค่ชัยชนะ แต่เป็นการทำให้เกิดพลังขับเคลื่อนประเทศในงานด้านการอนุรักษ์ที่คู่ขนานไปกับการสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ถือเป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ ในฐานะองค์กรอนุรักษ์ การปกป้องทุกชีวิตบนผืนป่าไทย เป็นหนึ่งในพันธกิจหลักที่จะธำรงรักษารวมทั้งส่งมอบพื้นที่ธรรมชาติอันอุดสมบูรณ์ เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สู่คนรุ่นหลังต่อไป