กรมอุทยานฯ แจงร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ จำคุก 5 ปี ปรับ 5 แสน หวังให้หลาบจำ ผู้บุกรุกป่า
กรมอุทยานฯ แจงร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท หวังให้หลาบจำ ผู้บุกรุกป่าใหม่ ยันคนอาศัยเดิม อนุญาตให้อยู่ ภายใต้ข้อตกลง ช่วยดูแลพื้นที่
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นายวีรยุทธ วรรณเลิศสกุล ผอ.ส่วนจัดการที่ดินและชุมชนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยในเวทีเสวนาเรื่อง “ร่าง พ.ร.บ. 2 ฉบับ รอนสิทธิคนอยู่ป่าจริงหรือ? และทำไมทำเหมืองปูนบนลุ่มน้ำ A1 ได้” ถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ... ซึ่งผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วาระ 2 และ 3 ให้ประกาศเป็นกฎหมาย เมื่อต้น มี.ค. ที่ผ่านมา ไม่อนุญาตให้บุกรุกและเก็บของป่า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายวีรยุทธ กล่าวว่า การเผยแพร่ที่เกิดขึ้นเป็นการจับแพะชนแกะ ความจริงโทษติดคุก 5 ปี ในกรณีเป็นการเข้าไปแผ้วถางป่า บุกรุกป่าใหม่ ซึ่งทุกวันนี้สังคมไม่ยอมรับแล้ว แม้แต่มติหรือคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ 66/2557 เรื่อง เพิ่มเติมหน่วยงานสําหรับการปราบปราม หยุดยั้งการบุกรุกทําลายทรัพยากรป่าไม้ และนโยบายการปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราวในสภาวการณ์ปัจจุบัน ยังระบุจะดูแลช่วยเหลือผู้ยากไร้ แต่เฉพาะผู้ที่มีพื้นที่อยู่เดิม ไม่ใช่การเปิดพื้นที่ป่าใหม่ แม้จะยากไร้ขนาดไหนก็ตาม ยืนยันไม่อนุญาต
ทั้งนี้ ในบทบัญญัติกฎหมายจึงมีเจตนาคงเดิม ถ้าไปเปิดพื้นที่ป่าใหม่ จะมีโทษหนัก เพราะป่าเหลือเพียงเท่านี้ จะไม่ให้ทำลายอีกแล้ว และทุกรัฐบาลได้ประกาศนโยบายป่าต้องไม่ถูกทำลายอีก ดังนั้นต้องปรับกฎหมายเพื่อให้หลาบจำ เพราะโทษใน พ.ร.บ. เดิมเบา อย่างไรก็ตาม การพูดถึงป่า ต้องดูความสำคัญแต่ละระดับชั้น ซึ่งกรณีนี้เกี่ยวข้องกับป่าอนุรักษ์ที่เปรียบเหมือนไข่แดง จึงต้องเพิ่มบทลงโทษ
“ใครถางป่าใหม่ ณ วันนี้ โทษต้องหนัก แต่ถ้าเป็นที่อยู่อาศัยเดิม เราอนุญาตให้อยู่ ซึ่งข้อตกลงต้องเห็นร่วมกัน ช่วยกันดูแลป่าที่เหลือ ยืนยันชุมชนเดิมอยู่ได้ โดยมีวิธีการสำรวจจากภาพถ่ายทางอากาศ ปี 2545-2546 เป็นภาพสี สามารถดูได้ โดยไม่มีข้อโต้แย้ง” ผอ.ส่วนจัดการที่ดินฯ กรมอุทยานฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. ... มีการกำหนดบทลงโทษผู้กระทำผิด มาตรา 42 ระบุว่า “ผู้ใดเก็บหา นำออกไป ทำด้วยประการใด ๆ ให้เป็นอันตรายหรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ ดิน หิน กรวด ทราย แร่ปิโตเลียม หรือทรัพยากรธรรมชาติอื่น หรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลต่อระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาตร์ หรือสวนรุกขชาติ อันเป็นการฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ...”
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/