รมช.พาณิชย์ ชี้พรรคการเมืองหาเสียงช่วยชาวนาให้ข้าวเปลือกราคาสูงเกิน บิดเบือนกลไกตลาด
การทำให้เกษตรกรได้ราคาข้าวเปลือกดี ไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่คุณภาพ มีพันธุ์ที่ดี 'ชุติมา บุณยประภัศร' สวนพรรคการเมืองหาเสียงให้ข้าวราคาสูง ชี้ไทยเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว 6 - 7 ปีก่อน จนเสียส่วนแบ่งทางการตลาด กว่าจะดึงกลับมาได้ ก็ไม่เหมือนเดิม
วันที่ 10 มีนาคม นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความในเฟชบุค ระบุถึงกรณีที่พรรคการเมืองต่างๆ ก็ออกมาพูดถึงนโยบายข้าวที่จะบริหารให้ชาวนาพอใจ โดยแต่ละพรรคมุ่งไปที่ราคาข้าวเปลือกที่ตั้งเป้าว่า จะให้ชาวนาได้รับในราคาสูง
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องดี แต่ก็อยากให้ทุกคนทราบข้อเท็จจริงว่า ข้าว เป็นสินค้าประเภทที่เรียกว่าสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity) มีปริมาณมาก หลายๆประเทศมีเหมือนๆ กัน คล้ายๆ กัน ในการบริโภค และมีคู่แข่งหลายประเทศที่เสนอขายในตลาดโลกเป็นปริมาณมากเหมือนกัน
"การสร้างความแตกต่างจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นั่นคือ คุณภาพ ซึ่งต้องครบทั้งกระบวนการตั้งแต่เริ่มปลูก สีแปร จัดจำหน่าย ดังนั้น การจะช่วยให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาสูงต้องช่วยที่ต้นเหตุ ไม่ใช่การกำหนดว่า จะให้ข้าวเปลือกราคาเท่าใด ยิ่งสูง ชาวนายิ่งพอใจ เพราะจะได้ราคาดี แต่ถ้าราคาที่เราไปกำหนดเป็่นราคาที่บิดเบือนกลไกตลาดมากเกินไป จนทำให้เมื่อสีแปรเป็นข้าวสารแล้ว ราคาสูงมากจนไม่สามารถขายในตลาดได้ เพราะคู่แข่งสามารถผลิตข้าวชนิดที่ใกล้เคียงมาขายได้ในราคาที่ถูกกว่ามาก เราก็จะเสียตลาดแน่นอน"
นางสาวชุติมา กล่าวอีกว่า ประเทศไทยเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว เมื่อ 6 - 7 ปี ก่อน ที่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิสูง จนเสียลูกค้าที่เคยซื้อไปจำนวนมาก เพราะไม่สามารถสู้ราคาได้ ที่แย่ที่สุด คือ เราเสียตลาดให้กับคู่แข่ง ที่แม้ผลิตข้าวคุณภาพยังสู้เราไม่ได้ แต่ก็พอที่ลูกค้าจะยอมรับเพื่อทดแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เพราะตลาดเริ่มสนใจข้าวของคู่แข่ง เมื่อทำตลาดมากขึ้น ผู้บริโภคก็ค่อยๆ เกิดการยอมรับ เพราะราคาถูกกว่า คุณภาพพอรับได้ เราต้องใช้เวลาอีกหลายปีต่อมา เพื่อดึงราคาข้าวหอมมะลิให้กลับไปสู่ความเป็นจริงของราคาตลาด จนเราสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดกลับมาได้ แน่นอนมัน ไม่เหมือนสภาพตลาดก่อนหน้า เพราะคู่แข่งเราก็เริ่มพัฒนาพันธุ์ของเขาให้ดีขึ้น สู้เราได้มากขึ้น
" การจะทำให้พี่น้องเกษตรกรได้ราคาข้าวเปลือกดี ไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่คุณภาพ คือต้องมีพันธุ์ที่ดี ได้ผลผลิตปริมาณที่มากขึ้น (เพื่อให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น) ผลิตในต้นทุนที่ต่ำลง มีการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง มีโรงสีที่มีคุณภาพในการสีแปร และมีพ่อค้าในประเทศและผู้ส่งออกที่ร่วมมือกัน เสนอราคาขายที่เหมาะสม ไม่ขายตัดราคากัน เพราะผู้นำเข้ารออยู่แล้วที่จะกดราคาต่ำ ถ้ามีโอกาส เพราะราคาที่ขายในประเทศ และราคาส่งออกก็จะสะท้อนมาเป็นราคาข้าวเปลือกในประเทศ เป็นราคาที่พี่น้องชาวนาจะขายได้ ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลไม่ให้ราคาในประเทศตกต่ำจนต่ำกว่าต้นทุนการผลิต จึงเป็นที่มาของมาตรการต่างๆ ที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือในช่วงราคาผลผลิตออกมาก"
รมช.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า การช่วยเหลือชาวนาด้วยการประกาศให้ ข้าวเปลือกราคาสูงเกินไปจนบิดเบือนกลไกตลาด มีแต่จะทำร้ายซ้ำเติม และจะทำให้ไทยสูญเสียตลาดข้าวอย่างถาวร เหมือนในอดีตที่ผ่านมา และเป็นภาระรัฐบาลต้องเอางบประมาณมาแบกรับโดยไม่สมควร การจะให้พี่น้องชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น ต้องทำหลายมาตรการประกอบกัน แล้วจะมีมาตรการอะไรบ้าง ค่อยติดตามต่อไป