ไม่ได้มุ่งทำโรงเลื่อย! 'ธนาธร' แจงตั้ง บ.เตรียมใช้ธุรกิจส่วนตัว-ล่าสุดแจ้งปิดกิจการแล้ว
'ธนาธร' โพสต์เฟซบุ๊กแจงปมนั่งกก.-ถือหุ้นใหญ่ บ. วัน โอ ซี คอร์โปเรชั่น ฯ เตรียมไว้ใช้ในธุรกิจส่วนตัว แต่สุดท้ายไม่ได้ใช้ มีสถานะ sleeping company มาตลอด ปัจจุบันอยู่ระหว่างปิดกิจการ ชี้วัตถุประสงค์โรงเลื่อยจักร สัมปทานค้าไม้ แค่ระบุขอบเขตกิจการกว้างๆ เรื่องปกติการทำธุรกิจทั่วไป
สืบเนื่องจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลทางธุรกิจของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พบว่า ปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท วัน โอ ซี คอร์โปเรชั่น จำกัด ซึ่งแจ้งทำธุรกิจโรงเลื่อยจักร สัมปทานค้าไม้ ซึ่งไม่ได้ประกอบกิจการติดต่อกันหลายปี งบการเงินล่าสุดปี 2560 แจ้งรายได้ 13,600 บาท ค่าใช้จ่าย 8,000 บาท กำไรสุทธิ 5,600 บาท สินทรัพย์ 981,392 บาท หนี้สิน 13,540 บาท ขาดทุนสะสม 32,147 บาท และได้จดทะเบียนเลิกบริษัทซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2561 และขณะนี้ยังไม่ได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี (อ่านประกอบ : ไม่ใช่แค่ซัมมิท! ‘เสี่ยเอก ธนาธร’ เจ้าของโรงเลื่อย ปิดตัวปลายปี 61)
ล่าสุด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ว่า
"ในกรณีของบริษัท วัน โอ ซี คอร์โปเรชัน จำกัด มีความพยายามที่จะทำให้ประชาชนเชื่อว่า บริษัทวันโอซีที่ผมถือหุ้นอยู่ ทำกิจการโรงเลื่อยและสัมปทานค้าไม้ จนทำให้มีคนนำเรื่องนี้ไปโจมตีต่อว่าเป็นโรงเลื่อยเถื่อนและทำลายป่าไม้ทำให้เกิดภูเขาหัวโล้น
"วัน โอ ซี เป็นบริษัทที่ผมเตรียมไว้ใช้ในธุรกิจส่วนตัว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้บริษัทนี้แต่อย่างใด สถานะของบริษัทนี้ตลอดมาเป็น sleeping company ปัจจุบันบริษัทนี้อยู่ในระหว่างปิดกิจการ "
"ธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไปในภาคธุรกิจอันเกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนบริษัท มักระบุขอบเขตกิจการของบริษัทกว้างๆ ไว้ ซึ่งโดยมากเขียนกันเป็นมาตรฐาน เพื่อให้เมื่อประกอบกิจการแล้วขยับขยายต่อไปจะได้ไม่ต้องไปขอแก้ไขเพิ่มอันจะเสียเวลาทั้งของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการ ซึ่งเรื่องนี้คนทั่วไปที่ทำธุรกิจและสื่อมวลชนก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไป"
"ดังนั้นการนำเอาวัตุประสงค์ของบริษัท วัน โอ ซี เพียงบางข้อในหนังสือจดทะเบียนนิติบุคคลมากล่าวหาว่าผมเป็นเจ้าของโรงเลื่อยและสัมปทานค้าไม้โดยไม่มีหลักฐานอื่นใดมายืนยัน จึงเป็นการสร้างข่าวเท็จที่มุ่งหวังจะสร้างความเกลียดชังในสังคม"
"ต้องยอมรับว่าผมเสียดายอย่างยิ่งสำหรับสำนักข่าวที่เป็นผู้จุดประเด็นนี้ เนื่องจากเคยเป็นความหวังของสังคมไทยว่าจะยืนหยัดตรวจสอบผู้มีอำนาจอย่างตรงไปตรงมา เป็นธรรม ไม่มีอคติและไม่เลือกปฏิบัติ"
นายธนาธร ยังระบุด้วยว่า "ในโลกที่กระแสโลกาภิวัตน์เชี่ยวกราก สื่อทุกสำนักต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอดทางธุรกิจ ประชาชนจากเดิมที่เป็นเพียงผู้เสพข่าวกลายเป็นทั้งผู้เสพ ผู้เขียน และตัวแสดงในคนคนเดียวกัน สื่อคือตัวกลางที่เชื่อมระหว่างข่าวกับผู้เสพข่าว ตัวกลางที่ไม่มีประสิทธิภาพ ไม่มีคุณภาพ หรือไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้อ่านได้ จะถูกเทคโนโลยีทำลายหายไป
องค์กรสื่อทั้งหมดเผชิญกับรายได้ที่ลดลง ผลประกอบการส่วนใหญ่ขาดทุน และยังหารูปแบบการทำธุรกิจที่ทำกำไรอย่างยั่งยืนไม่ได้ ถ้าผมเป็นผู้บริหารสื่อบางสำนัก แทนที่จะเอาเวลามาสร้างความเกลียดชังกันในหมู่ประชาชน ผมจะนำเวลาไปพัฒนาความรู้และทักษะของคนในองค์กรเพื่อตอบสนองกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างข่าวที่มีคุณภาพกว่าคนอื่น องค์กรธุรกิจสื่อสมัยใหม่จะอยู่ได้ก็ด้วยคุณภาพ
ผมยกตัวอย่างเช่น เมื่อครั้งผมไป World Economic Forum ที่เวียดนาม นักข่าวจาก Channel NewsAsia สำนักข่าวจากสิงคโปร์ มาสัมภาษณ์ผม เขาคนเดียวตั้งกล้องวิดีโอ, ถ่ายภาพนิ่ง, ทำประเด็น และสัมภาษณ์ด้วยตัวเองโดยมีเนื้อหาคำถามอันแหลมคม ภายใน 3 ชั่วโมงหลังการสัมภาษณ์ ข่าวถูกตีพิมพ์เผยแพร่ในโลก online เนื้อหาถูกเขียนสรุป พร้อมบริบทการเมืองที่ไม่ได้อยู่ในการสัมภาษณ์เพื่อปูพื้นฐานความเข้าใจ คลิปประโยคสำคัญถูกตัดต่อให้สั้นกระชับและแนบในเนื้อข่าว ทั้งหมดทำโดยคนๆ เดียว นี่คือองค์กรสื่อสมัยใหม่ชั้นนำ
ทว่าองค์กรสื่อไทยบางองค์กรกลับเลือกวิธีที่คิดสั้น เพราะการลงทุนลงแรงเพื่อเปลี่ยนแปลงมันยาก, ต้องเสี่ยง, เหนื่อย และใช้เวลา ทางเลือกอื่นคือหันไปรับใช้เผด็จการเพื่อผลประโยชน์ระยะสั้นโดยยอมทิ้งเสรีภาพ"
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ:
ไทยซัมมิทในไทยรักไทย ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’บริจาค 30 ล. ‘ธนาธร’ ตามรอย ‘ทักษิณ’?
เปิดถุงเงิน‘ธนาธร’ทายาทไทยซัมมิท ‘ตัวแสดง’ทางการเมือง สินทรัพย์หลายหมื่นล.
คอนเนกชันธุรกิจ ‘ธนาธร’ ร่วมหุ้น ตระกูลดัง ‘มหากิจศิริ’
พลิกข้อมูล บ.ไทยซัมมิท อีสเทิร์นฯ หลังปมเลิกจ้างคนงาน ล่าสุดรายได้ 4.3 พันล.
‘รวิพรรณ’หลังบ้าน‘ธนาธร’ ว่าที่เมียผู้แทนฯ โลว์โพรไฟล์ กก.บริษัทเดียว