ศาลปค.ยกฟ้องคดีติดลิฟท์ ‘บีทีเอส’ ล่าช้า กทม.เเจ้งอุปสรรคเป็นระยะ ไม่ได้ขัดคำสั่ง
ศาลปค.ยกฟ้องสองสำนวนคดีคดี กทม.ไม่จัดทำลิฟท์-อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อคนพิการใน 23 สถานี 'บีทีเอส' ให้แล้วเสร็จตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เหตุได้รายงานอุปสรรคให้สำนักบังคับคดีฯ ทราบเป็นระยะ เเสดงถึงมิได้จงใจประมาทเลินเล่อไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง
วันที่ 4 มี.ค. 2562 ศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 495/2561 หมายเลขแดงที่ 225/2562 ระหว่าง นายสุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ ผู้ฟ้องคดี กับ กรุงเทพมหานคร ผู้ถูกฟ้องคดี และคดีหมายเลขดำที่ 990/2561 หมายเลขแดงที่ 226/2562 ระหว่าง นายธีรยุทธ สุคนธวิท กับพวกรวม 430 คน ผู้ฟ้องคดี กับ กรุงเทพมหานคร ผู้ถูกฟ้องคดี
คดีทั้งสองสำนวนนี้ ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า เมื่อปี พ.ศ. 2558 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษา ในคดีหมายเลขแดงที่ อ.650/2557 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีจัดทำลิฟต์รับ - ส่งคนพิการ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพิการที่สถานีขนส่งทั้ง 23 สถานี ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา แต่จนถึงปัจจุบันผู้ถูกฟ้องคดีกลับไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด จึงขอให้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดี
ศาลปกครองกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ.650/2557 แม้ผู้ถูกฟ้องคดีจะได้จัดทำลิฟต์รับ – ส่งคนพิการ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพิการในสถานีขนส่งเป็นบางสถานีแล้ว แต่เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดให้ครบถ้วนในสถานีขนส่งทั้ง 23 สถานี ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา คือ ภายในวันที่ 21 ม.ค. 2559 จึงเป็นกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดล่าช้าเกินสมควร อันเป็นผลให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นคนพิการ ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลิฟต์รับ - ส่งคนพิการ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวในสถานีขนส่งทั้ง 23 สถานี เพื่อเดินทางหรือปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้อย่างบุคคลทั่วไปตามสิทธิที่ได้รับการรับรองโดยกฎหมาย อันย่อมก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิของผู้ฟ้องคดีที่ต้องได้รับความช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวจากรัฐ
อย่างไรก็ตาม เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกฟ้องคดีได้ดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งลิฟต์รับ - ส่งคนพิการ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพิการในสถานีขนส่งต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษา ผู้ถูกฟ้องคดีต้องประสบปัญหาและอุปสรรคในการทำงานที่ทำให้เกิดความล่าช้าจนเกินระยะเวลาตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด โดยผู้ถูกฟ้องคดีได้รายงานผลการดำเนินการพร้อมปัญหาอุปสรรคดังกล่าวให้สำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครอง ทราบ เป็นระยะๆ มาโดยตลอด อันเห็นได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อที่จะไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด
นอกจากนี้ ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีการขอจัดสรรงบประมาณเพื่อก่อสร้างและติดตั้งลิฟต์เพิ่มเติมให้ครบทั้งสองฝั่งชานชาลา อันเป็นกรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดียังคงมีแผนงานที่จะดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งลิฟต์เพิ่มเติมให้แล้วเสร็จต่อไป
กรณีจึงเห็นได้ว่า แม้ผู้ถูกฟ้องคดีจะปฏิบัติหน้าที่จัดทำลิฟต์รับ - ส่งคนพิการ อุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกโดยตรงแก่คนพิการตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขแดง ที่ อ.650/2557 ล่าช้าเกินสมควร และก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีก็ตาม แต่เมื่อเหตุดังกล่าวมิได้เกิดจากการจงใจหรือประมาทเลินเล่อของผู้ถูกฟ้องคดี จึงไม่ครบองค์ประกอบตามกฎหมายอันจะถือได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดี
ศาลปกครองกลางจึงพิพากษายกฟ้องทั้งสองสำนวนคดี
ด้านนายธีรยุทธ สุคนธวิท ประธานภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้ กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงเเผนการขับเคลื่อนหลังจากนี้ จะรวบรวมข้อเท็จจริงยื่่นอุทธรณ์ต่อไป เเละเตรียมฟ้องประชาคมคนพิการโลก เพื่อให้เห็นถึงบทเรียนในการต่อสู้มาตลอดระยะเวลา 20 ปี พร้อมกับจะยกระดับการติดตามเเละตรวจสอบการทำงานของ กทม. ให้เข้มข้นขึ้นด้วย
อ่านประกอบ:เช็คข้อมูล ก่อนศาลตัดสิน ‘บีทีเอส’ ยังติดตั้งลิฟท์ไม่ครบ -ทำได้แค่ 5 สถานี
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/