สธ.เพิ่ม 4 บริการโรงพยาบาลตำบล ช่วยชาวบ้านรักษาใกล้ชุมชน-ลดแออัด รพ.ใหญ่
ก.สาธารณสุข รุกพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 4 ด้าน ห้องแล็บมาตรฐาน-บริการแพทย์แผนไทย-ทันตกรรม-ดูแลผู้ป่วยเรื้อรัง หวังลดแออัดใน รพ.ใหญ่-ช่วยชาวบ้านรักษาใกล้ชุมชน
เร็วๆนี้ นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดประชุมวิชาการสาธารณสุข เขต 14 ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ว่า ขณะนี้ สธ.ได้เร่งพัฒนาศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือ รพ.สต.ซึ่งมี 9,750 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอนาน ลดจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน ผู้ป่วยไม่ต้องเข้าคิวรอตรวจ หรือไปรับยาที่โรงพยาบาลใหญ่
ซึ่งได้ให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พัฒนาห้องแล็บ ของรพ.สต. ซึ่งจะทำให้มีระบบการตรวจชันสูตรทางห้องปฏิบัติการมีมาตรฐาน เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจวินิจฉัยโรคและการรักษาผู้ป่วยได้แม่นยำยิ่งขึ้น และยังได้พัฒนาศักยภาพอีก 3 ด้าน คือ บริการแพทย์แผนไทย ทันตกรรม และการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน มั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2555 จะลดคนไข้ในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนได้ประมาณร้อยละ 40
รมว.สธ.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้จัดบุคลากรอย่างน้อยที่สุดจะมีพยาบาลวิชาชีพประจำทุก รพ.สต. ในอนาคตจะมีแพทย์หมุนเวียนมาที่ รพ.สต.อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 วัน บางวันที่ไม่มีแพทย์จะมีระบบปรึกษาแพทย์ที่อยู่ในโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลศูนย์ หรือโรงพยาบาลทั่วไป ผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อร่วมตรวจวินิจฉัยโรค โดยผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล โดยรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา มีการปรึกษาผ่านระบบดังกล่าว 5,720 ครั้ง ได้ส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการหนักในระยะวิกฤตไปรักษาในโรงพยาบาลใหญ่ 9,241 ครั้ง นับว่าเป็นบริการที่มีความก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ
น.พ.สุรวิทย์กล่าวต่อไปว่า ผู้ป่วยที่ไปใช้บริการในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขประมาณร้อยละ 80 ใช้บริการที่ รพ.สต. ส่งผลให้แพทย์ที่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลทั่วไป มีเวลาให้คนไข้มากขึ้น แทนที่จะดูแลคนไข้ 5-10 นาที ก็จะมีเวลาดูแลได้เพิ่มขึ้นเป็น 15- 20 นาที การตรวจก็จะละเอียดมากขึ้น คิวรอตรวจสั้นลง โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 70 ปีขึ้นไปจะได้รับบริการรักษาพิเศษโดยไม่มีคิว นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังจัดการเรื่องความเหลื่อมล้ำ 3 กองทุน คือ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกันสังคม และสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ด้านการเจ็บป่วยฉุกเฉิน และได้เพิ่มอีก 2 โรค คือโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย และโรคเอดส์ สามารถใช้บริการได้ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นโรงพยาบาลต้นสังกัดหรือไม่ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น