ศาล ปค.สั่งเพิกถอนมติ กสทช.ปิด'วอยซ์ ทีวี' ชี้ทำหน้าที่ตามเสรีภาพสื่อ
ศาลปกครองกลาง พิพากษาเพิกถอนมติ กสทช. ปมพักใบอนุญาต 'วอยซ์ ทีวี' เหตุวิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะ-บุคคลสาธารณะตามสิทธิและเสรีภาพสื่อ แม้สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็ไม่ถึงขนาดนำเสนอยั่วยุ ปลุกปั่น สร้างความขัดแย้ง รวมถึงไม่ปรากฎสร้างคามเสียหายร้ายแรง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2562 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ของบริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด เนื่องจากศาลฯเห็นว่า การออกอากาศรายการที่เป็นเหตุให้ กสทช.มีมติดังกล่าว ผู้ดำเนินรายการได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะและบุคคลสาธารณะตามสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน แม้มีการแสดงความคิดเห็นสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็ไม่ถึงขนาดเป็นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งหรือสร้างความแตกแยกในราชอาณาจักร รวมทั้งไม่ปรากฏว่า กสทช.ได้เสนอว่าการออกรายการดังกล่าวเกิดความเสียหายร้ายแรงอย่างไร
โดยศาลปกครองกลางวินิจฉัยว่า ผู้ดำเนินรายการพิพาทได้เสนอข่าวสารในเชิงวิเคราะห์ทางการเมือง โดยผู้นำเสนอรายการจะรวบรวมข้อมูลข่าวสารจาแหล่งข่าวในขณะนั้นมาเรียบเรียงเนื้อหา และกำหนดรูปแบบวิธีการเสนอข่าวให้เป็นที่สนใจของประชาชน และมีการวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ และเจ้าหน้าที่ นโยบายพรรคการเมือง ผู้นำทางการเมือง และผู้นำรัฐบาล
ผู้ดำเนินรายการได้วิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะ และบุคคลสาธารณะตามสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชน อย่างไรก็ดีแม้การแสดงความคิดเห็นของผู้ดำเนินรายการพิพาทจะมีเพิ่มเติมไปจากแหล่งข่าว รวมทั้งมีการแสดงความคิดเห็นสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่ กสทช. กล่าวอ้าง แต่การกระทำดังกล่าวฟังไม่ได้ถึงขนาดจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานรัฐ หรือผู้นำรัฐบาล
ส่วนการดำเนินรายการดังกล่าวมีปัญหาด้านจริยธรรมหรือไม่นั้น ย่อมเป็นหน้าที่ขององค์กรสภาวิชาชีพดำเนินการตรวจสอบ การแสดงความคิดเห็นของผู้ดำเนินรายการที่เพิ่มเติมไปจากแหล่งข่าว รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นสนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของวอยซ์ ทีวี ในรายการทั้ง 5 รายการพิพาท จึงไม่ถึงขนาดเป็นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่ก่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร
อีกทั้งไม่ปรากฏว่า กสทช. เสนอว่า การออกรายการของผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเกิดความเสียหายร้ายแรงหรือไม่อย่างไร และไม่ปรากฏว่าได้พิจารณาในประเด็นความเสียหายร้ายแรงก่อนมีมติออกคำสั่งกำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของผู้ฟ้องคดีเช่นกัน
ดังนั้นการที่ กสทช. มีมติให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของวอยซ์ ทีวี จึงไม่ชอบด้วยมาตรา 64 ประกอบมาตรา 16 และ 17 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ข้อ 20 ของประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการขออนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 และ ข้อ 22 ของประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำความผิดในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่มีโทษทางปกครอง พ.ศ. 2556
ศาลปกครองกลางจึงพิพากษาเพิกถอนมติของ กสทช. ที่กำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของช่องวอยซ์ ทีวี เป็นเวลา 15 วัน นับตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 13 ก.พ. 2562 โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่มีมติ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ส่วนคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวของศาล เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2562 ให้มีผลต่อไปจนกว่ามติของ กสทช. ดังกล่าวเป็นอันสิ้นผลตามเงื่อนไขระยะเวลาที่กำหนดไว้
นายประวิตร บุญเทียม ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ในฐานะโฆษกศาลปกครอง เปิดเผยว่า คดีนี้อธิบดีศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วน ตามระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ข้อ 49/2 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมตามระเบียบฯ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 นับเป็นคดีแรกที่ศาลปกครองได้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วนตามระเบียบดังกล่าว ที่กำหนดให้อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาโดยเร่งด่วนได้หากมีกฎหมายกำหนดเวลาการพิจารณาพิพากษาหรือเหตุอื่นใดที่การดำเนินกระบวนพิจารณาตามขั้นตอนปกติอาจเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้ฟ้องคดีที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังหรืออาจเป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/