ศาลอุทธรณ์ยืนอดีตพนง.ชนะ ถูกเลิกจ้างเหตุร้องผู้บริหารอินไซด์เดอร์-ก.ล.ต.สอบยังไม่คืบ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลแรงงานกลางคดีอดีตลูกจ้าง บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน ถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรม เหตุให้ข้อมูลผู้บริหารระดับสูงใช้ข้อมูลภายในการซื้อขายหลักทรัพย์ ด้าน ก.ล.ต. ดำเนินการสอบสวนยังไม่คืบหน้า
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าจากกรณีที่เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมาได้มีอดีตลูกจ้างของ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (ต่อมาได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)) ยื่นฟ้องบริษัทต่อศาลแรงงานกลางในข้อหาเลิกจ้างไม่เป็นธรรม อ้างว่าการเลิกจ้างสืบเนื่องจากอดีตลูกจ้างเป็นพยานให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ข้อมูลกรณีผู้บริหารระดับสูงในบริษัทใช้ข้อมูลภายในเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์หรือ Insider Trading ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ซึ่งศาลแรงงานกลางได้พิพากษาไปเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2561 ให้โจทก์เป็นฝ่ายชนะคดีโดยวินิจฉัยว่าการกระทำของบริษัทเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมและให้จำเลยชำระเงินจำนวน 894,740.- บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้อง (30 ม.ค. 2561) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ (อ่านประกอบ : ร้องผู้บริหารอินไซด์เดอร์ถูกเลิกจ้าง ชนะคดีในศาลแรงงานได้เพิ่ม9แสน-ก.ล.ต.สอบซ้ำนายจ้าง)
ทั้งนี้ การเลิกจ้างโดยอาศัยเหตุดังกล่าวนั้น นอกจากจะเข้าข่ายเลิกจ้างไม่เป็นธรรมตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานแล้ว ยังอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 89/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์) ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์ว่าห้ามมิให้บริษัทหลักทรัพย์เลิกจ้างลูกจ้างโดยเหตุที่บุคคลนั้นให้ข้อมูล ให้ความร่วมมือ หรือให้ความช่วยเหลือแก่คณะกรรมการก.ล.ต. อีกด้วย
สำนักข่าวอิศรา รายงานต่อว่า อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษา จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวในสองประเด็นคือ 1. จำเลยเลิกจ้างเพราะโจทก์ทำงานไม่มีประสิทธิภาพหรือมีความบกพร่องในการทำงาน ไม่ผ่านการประเมินผลงานประจำปี เป็นเหตุเพียงพอที่จำเลยจะเลิกจ้างได้ และไม่เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม แต่ศาลแรงงานกลางกลับวินิจฉัยว่ากรณีประเมินผลและเลิกจ้างนั้นต่อเนื่องจากเหตุการณ์ที่โจทก์ให้ความร่วมมือโดยให้ข้อมูลต่อ ก.ล.ต. และ 2. เนื่องจากในศาลชั้นต้นจำเลยได้อ้างหนังสือเลิกจ้างมีข้อความระบุว่า "โจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องเงินใดๆ หรือฟ้องร้องคดีใดๆ อีกต่อไป" แต่ในทางนำสืบศาลแรงงานกลางพิจารณาพยานหลักฐานของโจทก์รับฟังได้ว่า โจทก์มิได้ลงลายมือชื่อสละสิทธิในหนังสือเลิกจ้าง โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ในประเด็นดังกล่าว จำเลยอุทธรณ์ว่า การรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อยังมีข้อสงสัยว่าเอกสารดังกล่าวถูกต้องแท้จริงหรือไม่ ศาลแรงงานกลางชอบที่จะเรียกพยานหลักฐานอื่นมาสืบเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษได้อ่านคำพิพากษาที่ 5055/2561 ได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในประเด็นแรกว่า ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงในทำนองว่าจำเลยกลั่นแกล้งประเมินผลงานโจทก์ การประเมินผลงานมิได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม ผลการประเมินจึงไม่มีความน่าเชื่อถือ การเลิกจ้างโดยอ้างอิงผลการประเมินดังกล่าว จึงไม่มีเหตุผลสมควรเพียงพอที่จะเลิกจ้าง เป็นการเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม และวินิจฉัยในประเด็นที่สองว่า ศาลแรงงานกลางย่อมมีอำนาจรับฟังคำเบิกความของโจทก์ประกอบพยานหลักฐานทั้งปวงแล้ววินิจฉัยได้ว่า โจทก์ไม่ได้ลงลายมือชื่อสละสิทธิเรียกร้องในหนังสือเลิกจ้าง อุทธรณ์ทั้งสองข้อของจำเลยฟังไม่ขึ้น ให้พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลแรงงานกลาง
ขณะที่ แหล่งข่าวในแวดวงธุรกิจ กล่าวแสดงความเห็นว่า กรณีนี้น่าจับตามองว่า ก.ล.ต. ในฐานะผู้มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบการกระทำที่เป็นความผิดตามมาตรา 89/2 พ.ร.บ.หลักทรัพย์ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป เมื่อกรณีนี้มีทั้งคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยความผิดตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานและพิพากษาแล้วว่า การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์นั้นมาจากเหตุการณ์ที่โจทก์ให้ความร่วมมือโดยให้ข้อมูลต่อ ก.ล.ต. เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาหรือตรวจสอบกรณีที่มีเหตุสงสัยว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์ และเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ซึ่งอดีตลูกจ้างก็ได้เคยร้องเรียนและส่งเอกสารทั้งหมดให้ ก.ล.ต. พิจารณาแล้วตั้งแต่ศาลแรงงานกลางมีคำพิพากษาแล้ว แต่ปัจจุบันปรากฏว่ายังไม่ได้รับการตอบรับหรือการดำเนินการของ ก.ล.ต. มีความคืบหน้าใดๆ อย่างไรก็ตามก็คงจะได้แต่หวังว่า ก.ล.ต. หรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหลังจากนี้จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนให้เสร็จสิ้นก่อนครบกำหนดอายุความ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
ร้องผู้บริหารอินไซด์เดอร์ถูกเลิกจ้าง ชนะคดีในศาลแรงงานได้เพิ่ม9แสน-ก.ล.ต.สอบซ้ำนายจ้าง