เผยผลสอบชื่อนร.ซ้ำซ้อนเพียบแสนราย! จว.แจงลาออก-ขาดเรียนไม่แจ้ง สั่งลบข้อมูลในระบบแล้ว
เผยข้อมูลก่อนหน้า 'ศธ.' สั่งศึกษาธิการจว.ลุยตรวจปัญหารายชื่อนร. ซ้ำซ้อนภาคเรียนที่ 2 เพียบ 173,575 ราย จังหวัด เคยสรุปผลสอบเป็นทางการแล้ว พบสาเหตุ ลาออก-ขาดเรียน ไม่แจ้งสถานศึกษาทราบ แถมติดต่อไม่ได้ รวมเด็กเล็กศูนย์พัฒนาฯ ด้วย เบื้องต้น สถ.แจ้ง ผู้ว่าฯ กำชับสุ่มตรวจเพิ่ม ให้นำชื่อออกจากระบบสารสนเทศ เบิกจ่ายเงินเฉพาะที่มีอยู่จริง
สืบเนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2562 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เพื่อขอให้แจ้งสถานศึกษาในสังกัดให้ความร่วมมือสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดในการเข้าตรวจสอบความซ้ำซ้อนของข้อมูลนักเรียนรายบุคคลประจำปีการศึกษา 2561 ภาคเรียนที่ 2 เพื่อสรุปผลการตรวจสอบเสนอ พล.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี รับทราบ หลังจากที่ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ประมวลผลข้อมูลรายบุคคลของนักเรียน ณ วันที่ 4 ก.พ.2562 จากระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ หลังตรวจสอบความถูกต้องและความซ้ำซ้อนของข้อมูลจากรหัสประจำตัวประชาชน 13 หลัก พบว่า ข้อมูลที่หน่วยงานจัดส่งมีรายชื่อของนักเรียนรายเดียวกันซ้ำซ้อนในหลายสถานศึกษา และหลายสังกัด จำนวน 173,575 ราย จึงมอบหมายให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดดำเนินการตรวจสอบการมีตัวตนจริงของนักเรียนที่มีรหัสประจำตัวซ้ำซ้อนดังกล่าว ในสถานศึกษาระหว่างวันที่ 11 ก.พ.2562 - 5 มี.ค.2562 นี้ (อ่านประกอบ : ศธ.เช็คยอดชื่อ นร. ซ้ำซ้อนล่าสุดเจอเพียบ1.7แสนราย-แจ้ง สถ.ส่งศึกษาธิการจว.ลุยตรวจแล้ว)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายเดือนม.ค.2562 ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่ ศธ. จะทำหนังสือถึง อธิบดี สถ. เพื่อขอให้แจ้งสถานศึกษาในสังกัดให้ความร่วมมือสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดในการเข้าตรวจสอบความซ้ำซ้อนของข้อมูลนักเรียนรายบุคคลประจำปีการศึกษา 2561 ภาคเรียนที่ 2 ดังกล่าว
อธิบดี สถ. ได้ทำหนังสือลงวันที่ 24 ม.ค.2562 แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ให้ตรวจสอบข้อมูลจำนวนนักเรียนในโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลังจากได้รับรายงานผลการตรวจสอบจากจังหวัด ว่า กรณีที่ไม่พบตัวเด็กเล็กและนักเรียน ส่วนใหญ่เกิดจาก ปัญหา 3 ประการ คือ 1.นักเรียนและเด็กเล็กมาสมัครเรียนแล้วไม่มาเรียนหรือสมัครแล้วไปเรียนที่อื่นโดยไม่แจ้งให้สถานศึกษาทราบ 2. นักเรียนและเด็กเล็กออกระหว่างภาคเรียนโดยไม่มีการแจ้งหรือทำเรื่องลาออก และ 3.นักเรียนขาดเรียน ไม่มาเรียนและไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งกรณีปัญหาทั้งหมด ในการเปลี่ยนแปลงข้อมูลยังไม่สามารถนำข้อมูลออกจากระบบข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษาท้องถิ่นได้ เนื่องจาก สถ.จะทำการปิดระบบเพื่อใช้ข้อมูลจำนวนนักเรียนและเด็กเล็กเป็นฐานข้อมูลในการจัดสรรงบประมาณและทำคำของบประมาณจากสำนักงบประมาณ และระบบยังไม่มีการคัดกรองหรือจำแนกข้อมูลเป็นช่วงระยะเวลาได้
ดังนั้น สถ. จึงขอความร่วมมือจากจังหวัดแจ้ง อปท.ที่มีสถานศึกษาในสังกัดโรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กให้ดำเนินการกำชับติดตาม ตรวจสอบและกำกับดูแลการบันทึกข้อมูลของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการบันทึกข้อมูลนักเรียนและเด็กเล็กของสถานศึกษา โดยให้นำผลการตรวจสอบการมีตัวตนของนักเรียนและเด็กเล็กมาดำเนินการนำข้อมูลของนักเรียนและเด็กเล็กที่ไม่มีตัวตนออกจากระบบข้อมูลสารสนเทศในช่วงระยะเวลาเปิดระบบข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษาท้องถิ่นของปีการศึกษา 2562 (ณ วันที่ 10 มิ.ย. 2562) และให้ดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณตามจำนวนนักเรียนและเด็กเล็กที่มีอยู่จริง พร้อมขอให้จังหวัดติดตามตรวจสอบการบันทึกข้อมูลนักเรียนและเด็กเล็กในระบบข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษาท้องถิ่น รวมทั้งให้มีการลงพื้นที่สุ่มตรวจการบันทึกข้อมูลในช่วงระยะเวลาดังกล่าวด้วย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/