วินัยคนไทยไม่พร้อม! 'วิชา' ชี้ปัญหานโยบายเสรีกัญชา หนุนเริ่มพัฒนาวิจัย-จดสิทธิบัตรถูกแล้ว
'วิชา มหาคุณ' คณบดีนิติศาสตร์ม.รังสิต ชี้จุดอ่อนนโยบายเสรีกัญชา วินัยคนไทยยังไม่พร้อม เริ่มต้นแบบสุดซอยปัญหาตามมาเพียบ มันเละแล้วจะทำยังไง! หนุนเริ่มต้นพัฒนาวิจัย-จดสิทธิบัตรเพื่อปย.ด้านการแพทย์ ถูกต้องแล้ว
นายวิชา มหาคุณ คณบดีคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงนโยบายเสรีกัญชาของของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้คอนเซปต์ “พืชแก้จน พืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ กัญชาเสรี” ว่า มองว่าสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยเสนอมานั้นเป็นปลายทางของระบบประเทศที่อนุญาตให้ปลูกกัญชาได้ เพราะหากไปดูอย่างประเทศแคนาดาที่อนุญาตให้เสพกัญชาเพื่อการสันทนาการได้นั้น นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา มองแล้วว่าประเทศแคนาดา ไม่มีปัญหาเรื่องการติดยาแต่อย่างใด เลยอนุญาตทั้งในส่วนของการวิจัยและในส่วนของสันทนาการ ส่วนในสหรัฐอเมริกานั้นการบังคับใช้ในเรื่องกัญชาเองก็มีความแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐเช่นกัน โดยบางรัฐก็ไม่ได้อนุญาตให้ใช้สันทนาการ แต่อนุญาตในเรื่องการใช้ในการแพทย์เป็นเรื่องปกติ
นายวิชา กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยนั้นกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่พึ่งผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังได้กำหนดอยู่ว่าในระยะเวลา 5 ปีนั้น เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกัญชายังเป็นเรื่องที่ต้องกระทำโดยการมีส่วนร่วมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)กระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกรณีรัฐแคลิฟอร์เนียร์ของสหรัฐอเมริกาที่อนุญาตให้แต่ละบ้านนั้นปลูกได้ ก็ไม่ใช่เรื่องสันทนาการ แต่เป็นเรื่องของการแพทย์และงานวิจัย การพัฒนา ย้อนกลับมาที่ประเทศไทยที่จะให้ใช้กัญชากันทั้งในระดับสันทนาการ หรือในระดับการวิจัยแบบนั้นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมีการแก้กฎหมายกันค่อนข้างมาก โดยหลายฝ่ายนั้นต้องเห็นคล้อยตามกันด้วย เพื่อให้มีเสียงข้างมากสนับสนุนในสภา และก็ต้องมองในประเด็นของคนด้วยว่าคนเรามีวินัยมีความพร้อมจะไปสู่ระดับว่าจะไปเสพกัญชาเพื่อสันทนาการแบบต่างชาติแล้วหรือยัง
"ส่วนการให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจก็ต้องมีกระบวนการด้านกสิกรรมเพื่อให้เป็นพืชเศรษฐกิจโดยสมบูรณ์ แต่ถ้าหากดูตามข่าว เวลานี้จะเห็นว่าแค่ออก พ.ร.บ.ข้าวที่เกษตรกรสามารถปลูกได้ทั่วไปยังจะวุ่นวายกันเลย โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการคัดสายพันธุ์ข้าว โซนนิ่ง มาตรการควบคุมต่างๆ ดังนั้นถ้าจะทำกัญชาซึ่งเป็นพืชผิดกฎหมายให้มีเป็นพืชเศรษฐกิจได้นั้นก็อยากจะให้คิดว่ามันจะวุ่นวายกันอีกขนาดไหน ซึ่งกลับมาที่ข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย ผมบอกว่ามันต้องค่อยเป็นค่อยไปก่อน แต่ทางนั้นเขาเสนอเรื่องการใช้กัญชามาแบบสุดซอยเลย ก็เลยต้องถามกลับไปเหมือนกันว่าถ้ามันเละแล้วจะทำยังไง ในกรณีเรื่องเมาแล้วขับรถก็มีเกิดขึ้นเป็นประจำ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นเมากัญชาแล้วขับรถ อะไรมันจะเกิดขึ้น ดังนั้นผมว่าอย่าไปทำให้กัญชาซึ่งมันเป็นพืชที่มีความวิเศษ มีประโยชน์ เป็นสมบัติของชาติ กลับกลายมาเป็นพืชที่มีโทษเลยน่าจะดีกว่า" นายวิชา กล่าว
พร้อมระบุว่า "ส่วนกรณีที่มีการจะให้มองพืชกัญชาว่าจะเป็นพืชเศรษฐกิจตามที่ได้เรียนไปแล้วว่ามันมีขั้นตอนที่วุ่นวายมาก แต่ในตอนนี้มันมีพืชอีกประเภทอยู่ในตระกูลกัญชา ก็คือกัญชงที่สามารถนำเส้นใยไปทำเป็นเสื้อผ้า เสื้อเกราะได้ ซึ่งผมคิดว่าควรจะทำกัญชงให้เป็นพืชเศรษฐกิจ แทนที่กัญชาซึ่งไปเสพแล้วมีอาการมึนเมา น่าจะดีกว่า”
คณบดีคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต ยังระบุด้วยว่า "ผมว่าถ้าจะทำจริงอย่างน้อยก็การดำเนินการก็ต้องมีการค่อยเป็นค่อยไป อย่างที่ประเทศไทยได้ทำตอนนี้ก็คือการพัฒนาวิจัย โดยกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ ผมคิดว่ามันถูกแล้ว เพราะว่ากัญชาของประเทศไทยนั้นอาจจะไม่ได้มีแค่สายพันธุ์เดียวแต่อาจมีสายพันธุ์ย่อยอีกกว่า 100 สายพันธุ์ก็เป็นได้ ดังนั้นเราต้องเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะที่สุดในการปลูกกลางแจ้งตามสภาพอากาศของประเทศ ดีที่สุดและแข็งแรงที่สุดในการใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะในส่วนของดอกกัญชาที่จะต้องกลั่นเป็นน้ำมันที่จะมีประโยชน์ในการรักษาพยาบาล ไม่ใช่แค่ตัวต้นที่เอาไว้เสพที่เอาไว้ในการสันทนาการ ซึ่งส่วนตัวผมนั้นอยากให้มีการเข้าถึงกัญชาในเรื่องของการแพทย์ให้มาก และให้ได้ ดังนั้นผมก็เห็นด้วยนะถ้าจะใประเทศไทยมีการจดสิทธิบัตรกัญชา เพื่อเป็นประโยชน์ในด้านการแพทย์ ซึ่งนี่ถือเป็นความจำเป็นที่ต้องดำนเนินการเป็นอันดับแรกและก็ค่อยทำแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อจะแสดงให้เห็นว่ากัญชานั้นเป็นสิ่งที่มีประโยชน์จริงๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทางด้านมหาวิทยาลัยรังสิตก็ได้มีการพัฒนาโดยประสานงานกับทางสภาเกษตรกร เพื่อให้ผลิตกัญชาที่สามารถรักษาโรคต่อไปได้"
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
เปิดทัศนะ ภูมิใจไทย VS นักวิชาการ นโยบายเสรีกัญชา ทำได้จริงหรือ ก่อนลงคะแนนเลือกตั้ง62