ป.ป.ช.มติเอกฉันท์ตีตกคดี‘โสภณ ซารัมย์’ ปมซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าส่อล็อคสเปก
ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา ‘โสภณ ซารัมย์’ อดีต รมว.คมนาคม ปม รฟท. จัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า 7 คัน ส่อล็อคสเปก ชี้พยานหลักฐานไม่มีมูล
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ ตีกตกข้อกล่าวหานายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรณีการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้า จำนวน 7 คัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
กรณีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมการไต่สวนว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ไม่ปรากฎข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่า นายโสภณ ผู้ถูกกล่าวหา กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ก่อนหน้านี้เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า เมื่อเดือน มี.ค. 2554 ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายโสภณ กรณีการจัดซื้อหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้าจำนวน 7 คัน โดยปรากฎข้อเท็จจริงว่า มีบริษัทที่ผ่านการพิจารณาด้านเทคนิค 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จีเทค เทคโนโลยี (แอลจีที) และบริษัท จีซีเอส กรุ๊ป คอร์เปอร์เรชั่น โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน และการพิจารณาทีโออาร์เอื้อประโยชน์ต่อเอกชนกลุ่มนี้ อย่างไรก็ดีโครงการนี้ ถูกสั่งให้มีการยกเลิกการประกวดราคาไปแล้ว
ขณะที่นายโสภณ ชี้แจงในสภาว่า เรื่องนี้ไม่ได้ดูรายละเอียด เพราะเป็นหน้าที่ของ รฟท. ตนมีหน้าที่กำกับดูแลเท่านั้น ไม่สามารถแทรกแซงได้ และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ส่วนที่ยกเลิกการประกวดราคาเพราะมีการร้องเรียนว่า อาจมีการล็อคสเปก ในฐานะเป็นรัฐมนตรีพร้อมจะตรวจสอบอยู่แล้ว (อ้างอิงข้อมูลจาก : https://www.posttoday.com/politic/news/79206)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยมีมติตีตกข้อกล่าวหานายโสภณ พร้อมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูร อดีต รมว.มหาดไทย มาแล้ว กรณีถูกกล่าวหาว่า มีพฤติการณ์เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นคู่สัญญาในโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมืองโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ
อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม พบว่า นายโสภณ ยังถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงอีก 2 คดี ได้แก่ 1.ขอให้ถอดถอนนายโสภณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม ออกจากตำแหน่ง กรณีแสวงหาผลประโยชน์จากการสั่งซื้อรถตู้ 20,000 คัน โดยที่ ขสมก. ออกระเบียบห้ามมิให้รถร่วมบริการที่เป็นรถตู้ที่มีอายุเกิน 10 ปี วิ่งรับส่งผู้โดยสาร รวมทั้งบริษัท ขนส่ง จำกัด แต่ปรากฏว่าหากต้องการจะได้สัมปทานวิ่งรถตู้โดยสารต้องสั่งซื้อรถจากบริษัท สยามออโต้ จำกัด เท่านั้น สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
2.ขอให้ถอดถอนนายโสภณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม ออกจากตำแหน่ง กรณีทุจริตโครงการรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่มีการแก้ไขสัญญาและเพิ่มวงเงินโดยมิชอบ สถานะปัจจุบันอยู่ระหว่างไต่สวนข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐาน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/