'ทษช.' ยื่นศาล รธน.แจง 8 ประเด็น ค้านยุบพรรค ชี้ มติ กกต.ไม่ชอบด้วยกม.
'ทษช.' ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ 8 ประเด็นค้านปมยุบพรรค อ้างไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ชี้ มติ กกต.ไม่ชอบด้วยกม.-ขยายความพระราชโองการเป็นเรื่องมิบังควร แจง ปชช.ควรมีสิทธิได้เลือกพรรคในการเลือกตั้ง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 20 ก.พ. 2562 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ทางพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) จะยื่นคำร้องขอโต้แย้งกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ส่งคำร้องให้วินิจฉัยให้ยุบพรรคทษช. เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา (อ่านประกอบ:ทษช.ยื่นศาล รธน.ขอสำเนาคำร้อง กกต. ปมยุบพรรค-ชี้เร่งรัด ไม่เปิดให้แก้ข้อกล่าวหา) คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคทษช. อาทิ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง นายสุรชัย แซ่ตั้ง ได้เดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยื่นเอกสารจำนวน 20 หน้ากระดาษ แก้ข้อกล่าวหาในคดีนี้
โดยนายสุรชัย ชินชัย ทนายความพรรค ทษช. ให้สัมภาษณ์หลังจากยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดียุบพรรค ว่า ประเด็นหลักที่ยื่นแก้ข้อกล่าวหามี 3 ประเด็น ประเด็นแรก พรรคยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ และไม่มีเจตนาพิเศษใดๆ ที่มุ่งหวังให้เป็นอย่างอื่น โดยเชื่อว่าจะสามารถทำได้อย่างบริสุทธิ์ใจ พร้อมทั้งความประสงค์และความยินยอมจากผู้ได้รับการเสนอชื่อ
ส่วนประเด็นที่ 2 การเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก้ข้อกล่าวหาว่า ความหมายของคำว่าปฏิปักษ์ตามพจนานุกรมให้ความหมายว่าเป็นศัตรู เป็นฝ่ายตรงข้าม น่าจะหมายถึงการนำระบอบคอมมิวนิสต์ มาใช้ปกครองในประเทศไทย หรือการเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113 ทั้งนี้ คำร้องยุบพรรคทษช.ยังขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครของกรรมการบริหารพรรค ถือว่าคำร้องยุบพรรคเป็นคำร้องประเภทเดียวกับคดีอาญาการเพิกถอนสิทธิสมัครตลอดชีวิตไม่ต่างจากการประหารชีวิตในทางการเมือง
ประเด็นที่ 3 จากกรณีที่กกต.มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเป็นการปฏิบัติไม่เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีการสืบสวนสอบสวนก่อนโดย กกต.มีมติส่งศาลจึงเป็นการข้ามขั้นตอนการเสนอคำร้องจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ พรรคได้ยื่นบัญชีพยานบุคคลซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค 14 คนและพยานคนกลางซึ่งเป็นบุคคลภายนอก 5 ปาก
เมื่อถามว่าพยานที่เป็นบุคคลภายนอกคือใคร นายสุรชัย กล่าวว่า เป็นรายละเอียดที่นำเสนอต่อศาลไม่สามารถเปิดเผยได้
เมื่อถามต่อว่ามองว่าการตัดสินคดีของศาลรัฐธรรมนูญควรเสร็จก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสควรให้ประชาชนได้ลงคะแนนวันที่ 24 มี.ค.ก่อนจะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งตนเชื่อมั่นในความยุติธรรมที่ศาลจะเมตตาต่อพรรค
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในประเด็นข้อต่อสู้ของพรรค ทษช. ยังได้แยกย่อยออกเป็น 8 ประเด็น คือ
1. การดำเนินกิจการของพรรค ทษช. เป็นไปตามประกาศอุดมการณ์ นโยบายในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
2. พรรค ทษช. ทำตามประสงค์และความยินยอมของทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ประกาศพระบรมราชโองการ พ.ศ. 2515 และข้อบังคับพรรค ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติเป็นข้อห้ามมิให้ ทูลกระหม่อมฯ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี
3. พรรค ทษช. เข้าใจโดยสุจริตว่าการเสนอพระนามทูลกระหม่อมฯ ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นการกระทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 88, 89 และ พรป. เลือกตั้งส.ส. มาตรา 13 และ 14 ไม่ใช่เป็นการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
4. เมื่อมีพระราชโองการวันที่ 8 ก.พ.2562 เวลา 23.00 น. ภายหลังที่พรรคได้แจ้งรายชื่อบัญชีนายกฯ ไปแล้วเมื่อเวลา 9.00 น. พรรคฯจึงได้แถลงโดยทันทีในวันรุ่งขึ้น เพื่อน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ เป็นการแสดงเจตนารมณ์โดยชัดเจนว่าพรรคฯไม่ติดใจในการเสนอพระนาม
5. การกระทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 88 และมาตรา 89 ประกอบมาตรา 87 และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 13 และ มาตรา 14 ให้ถือว่าการเสนอชื่อบุคคลใดที่มิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายดังกล่าวให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น จึงไม่เป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 92 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดให้ผู้ร้องกล่าวหาผู้ถูกร้องในทางใดๆ ต่อศาลได้
6. พรรคฯ เห็นว่าคำว่า “ปฏิปักษ์” ให้ความหมายว่า ฝ่ายตรงกันข้าม ข้าศึก ศัตรู แต่การกระทำของผู้ถูกร้อง ได้กระทำการเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเป็นความประสงค์ของทูลกระหม่อมฯ ที่อาสา และยินยอมให้ผู้ถูกร้องเสนอพระนาม มิใช่เป็นการแอบอ้างโดยพละการ
7. กกต. ไม่มีอำนาจหน้าที่นำพระราชโองการมาขยายความกล่าวหาพรรคฯว่ากระทำผิดตามมาตรา 92 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 คำขอให้พิจารณาวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น เป็นการขยายความของพระราชโองการที่เป็นโทษ เป็นเรื่องที่มิบังควร และไม่ถูกต้องอย่างยิ่งอันเป็นการนำพระราชโองการมาแอบอ้างใช้อย่างมีเจตนาไม่สุจริตเป็นการกล่าวหาโดยสร้างฐานความผิดใหม่ซึ่งไม่มีฐานกฎหมายใดๆบัญญัติไว้
8. มติในการประชุมครั้งที่ 18/2562 เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2562 ของกกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคไม่เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก กกต.จงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามมาตรา 41 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ประกอบระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และมีพฤติกรรมไม่สุจริต ซึ่งพรรคฯมีหลักฐานนำเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญและพรรคฯจะใช้สิทธิตามกฎหมายดำเนินการที่พรรคฯ ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีกำหนดการจะพิจารณาคดียุบพรรค ทษช. นัดแรกในวันที่ 27 ก.พ. เวลา 13.30 น. นี้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/