เมื่อ บ.หุ้นใหญ่ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ถูก ตลท.สั่งชี้แจงข้อมูลธุรกิจ/โครงการลงทุนปัจจุบัน?
"...วง Sticky Fingers นั้นเป็นวงดนตรีวงร็อคผสมเรกเก้ สัญชาติออสเตรเลีย มีผู้คนชื่นชอบและให้ความสนใจและติดตามเป็นจำนวนมากผ่านช่องทางต่างๆ บริษัทจึงคาดว่า ฐานแฟนคลับจะเพียงพอที่จะขายตั๋วได้ในปริมาณที่ถึงระดับที่ได้รับผลตอบแทนการลงทุนที่น่าพอใจ โดยผลงานเพลงที่มีชื่อเสียงได้แก่ Australia Street มีผู้ชมกว่า 14.8 ล้านวิว, How to Fly มีผู้ชมกว่า 21.6 ล้านวิว และ Cyclone มีผู้ชมกว่า 18.3 ล้านวิว เป็นต้น โดยที่บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท เวรี่ ทีวี จำกัด ดำเนินการโดยนายสมิทธิ เพียรเลิศ เป็นผู้บริหารจัดการคอนเสิร์ต Sticky Fingers ในประเทศไทย..."
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อสังเกตเกี่ยวกับ โครงการ "The Marvel Experience Thailand เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์ ไทยแลนด์" ที่ใช้เงินลงทุนนับพันล้านบาท เพื่อสร้างศูนย์บัญชาการมาร์เวลฮีโร่ ในเมืองไทย ที่เมกาบางนา กำหนดราคาบัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่ราคา 1,500 บาท เด็ก 1,350 บาท ของ บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งลงทุนผ่าน บริษัท ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด ที่แจ้งเปิดให้บริการรอบสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2562 เวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา หลังเปิดให้บริการเมื่อ 29 มิ.ย. 61 หรือเพียงแค่ 185 วัน จนทำให้เกิดข้อสงสัยหลายประการเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการฯ มานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบกันไปแล้ว (อ่านประกอบ: เจาะเบื้องหลังฮีโร่เอ็กซ์พีเรียนซ์ก่อนแจ้งปิดตัว! โชว์งบลงทุน325ล.คาดรายได้สูงพันล./ปี)
อย่างไรก็ดี ล่าสุดมีข้อมูลปรากฎว่า ปัจจุบันการลงทุนทำธุรกิจและโครงการต่างๆ ของ บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กำลังถูกตรวจสอบจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นทางการ
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2562 บริษัท ดีมีเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับรายการธุรกิจหรือโครงการของบริษัท ระบุว่า ตามที่ ตลท. ได้ขอให้ บริษัท ดีมีเตอร์ฯ ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับรายการธุรกิจหรือโครงการของบริษัทที่ยังดำเนินธุรกิจหรือดำเนินโครงการอยู่ในปัจจุบันนั้น
บริษัท ขอเรียนชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับรายการธุรกิจหรือโครงการของบริษัท ณ ปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ 2 โครงการ คือ การจัดคอนเสิร์ต Sticky Fingers ในประเทศไทย และ การดำเนินธุรกิจแปรรูป ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไม้ฮิโนกิ
ทั้งนี้ ในส่วนการจัดคอนเสิร์ต Sticky Fingers ในประเทศไทย บริษัทฯ ระบุว่า เป็นการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการจัดการของบริษัทครั้งที่ 45/2561 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561 ที่ให้บริษัทลงทุน จัดคอนเสิร์ต Sticky Fingers ในประเทศไทย โดยมีงบประมาณไม่เกิน 4,200,000 บาท มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. การดำเนินการจัดหาและติดต่อศิลปินมาแสดง
2. การดำเนินการบริหารจัดการงานคอนเสิร์ต ได้แก่ ค่าเช่าสถานที่ในการจัดงาน ค่าใช้จ่าย เครื่องดนตรีรวมทั้งระบบแสงและเสียงที่เกี่ยวข้องกับงานคอนเสิร์ต ค่าจ้างศิลปินเปิดงานค่าที่พักของศิลปินและผู้เกี่ยวข้อง ค่าลิขสิทธิ์เพลง ค่าอำนวยความสะดวกและค่าบริหารจัดการสถานที่ เป็นต้น
สำหรับข้อมูลวง Sticky Fingers นั้น มีการระบุว่า เป็นวงดนตรีวงร็อคผสมเรกเก้ สัญชาติออสเตรเลีย มีผู้คนชื่นชอบและให้ความสนใจและติดตามเป็นจำนวนมากผ่านช่องทางต่างๆ บริษัทจึงคาดว่า ฐานแฟนคลับจะเพียงพอที่จะขายตั๋วได้ในปริมาณที่ถึงระดับที่ได้รับผลตอบแทนการลงทุนที่น่าพอใจ โดยผลงานเพลงที่มีชื่อเสียงได้แก่ Australia Street มีผู้ชมกว่า 14.8 ล้านวิว, How to Fly มีผู้ชมกว่า 21.6 ล้านวิว และ Cyclone มีผู้ชมกว่า 18.3 ล้านวิว เป็นต้น โดยที่บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท เวรี่ ทีวี จำกัด ดำเนินการโดยนายสมิทธิ เพียรเลิศ เป็นผู้บริหารจัดการคอนเสิร์ต Sticky Fingers ในประเทศไทย
ทั้งนี้ บริษัท เวรี่ ทีวี เป็นผู้ดำเนินธุรกิจสื่อโทรทัศน์และวิทยุ และบริหารจัดงานคอนเสิร์ตให้กับศิลปินที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ ซึ่งการแสดงคอนเสิร์ตที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากผู้เข้าชมเป็นอย่างดี มีจำนวนผู้เข้าชมประมาณร้อยละ 90 ถึง 100 ของความจุต่อคอนเสิร์ต มีกำหนดการแสดงในวันที่ 9 ก.พ. ณ Moon Star Studio ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าชมได้ประมาณ 2,500 คน โดยมีบัตรคอนเสิร์ตเป็นบัตรยืน ราคาใบละ 2,000 บาท ซึ่งได้จัดจำหน่ายผ่านช่องทางของเว็บไซต์ ticketmelon.com ไปแล้ว นับแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2561 โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทได้จำหน่ายบัตรไปได้กว่าร้อยละ 99 ของ จำนวนบัตรคอนเสิร์ตทั้งหมด ซึ่งบริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้จากการจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตดังกล่าวภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งหากการจัด คอนเสิร์ต Sticky Fingers ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ บริษัทมีแผนงานที่จะจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัท เวรี่ เพื่อดำเนินการ จัดหาศิลปินเพื่อจัดคอนเสิร์ตในประเทศไทยในระยะยาวต่อไปด้วย
ส่วนการดำเนินธุรกิจแปรรูป ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไม้ฮิโนกิ นั้น บริษัทฯ ระบุว่า เนื่องจาก บริษัท ดีมีเตอร์ อินโนเวชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 99.9996 ได้ดำเนินการสำรวจความนิยมของผู้บริโภคพบว่า ในปัจจุบันมีกระแสเน้นไปในการรักสุขภาพมากยิ่งขึ้นทั่วโลก ซึ่งเห็นได้จากการที่ทุกคนมุ่งเน้นในการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการบริโภคอาหาร หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นในเรื่องของสุขภาพมากยิ่งขึ้น ดี อินโนเวชั่น จึงเล็งเห็นว่า ธุรกิจที่มีทิศทางสอดคล้องกับสุขภาพเป็นสิ่งที่น่าลงทุน จึงดำเนินการศึกษาหาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค และพบว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากไม้ฮิโนกิซึ่งเป็นไม้สนเนื้ออ่อนที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความสะอาด ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค เนื่องจากไม้ฮิโนกิมีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีน้ำมันภายในเนื้อไม้ จึงทำให้ไม่ชนิดนี้ ไม่เป็นเชื้อรา ไม่มีความชื่น และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ดังนั้น ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ดี อินโนเวชั่น ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2561 ให้ บริษัท ดีมีเตอร์ อินโนเวชั่น จำกัด จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ บริษัท ฮิโนกิวู้ดเวิร์ค จำกัด ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท โดยบริษัท ดี อินโนเวชั่น ถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 99.98 ซึ่งบริษัท ฮิโนกิถูกจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2561และเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ของบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจแปรรูป ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไม้ฮิโนกิ
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว ได้ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองการลงทุนของบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีมติเห็นชอบให้ลงทุน และนำเสนอให้คณะกรรมบริษัทรับทราบการลงทุนในการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั ้งที่ 12/2561 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 เบื้องต้น บริษัท ฮิโนกิ ได้ดำเนินการสั่งซื้อไม้ฮิโนกิเพื่อนำมาผลิตสินค้าภายในกรอบงบประมาณการลงทุน 18 ล้านบาท โดยสินค้าจะถูกผลิตออกมาภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า WA ซึ่งสินค้าชนิดแรกที่บริษัท ฮิโนกิได้ ผลิตและนำมาจำหน่ายคือเขียงไม้ฮิโนกิ โดยผลิตออก มาจำนวน 5 ขนาด (S, M,L, XL, XXL) นอกจากนี้ บริษัท ฮิโนกิ ยังมีแผนที่จะแปรรูป ผลิต จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไม้ ฮิโนกิอื่นๆ อีก อาทิ ตะเกียบ ชั้นวางรองเท่า จานรองอาหาร ฯลฯ และมีแผนสำหรับ ช่องทางในการจัดจำหน่ายทั้งทางออนไลน์ ออฟไลน์ และผ่านตัวแทนจำหน่าย บริษัท ฮิโนกิ มีแผนที่จะดำเนินการเปิดตัวสินค้า ซึ่งคือ เขียงไม้ฮิโนกิในเชิงพาณิชย์ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 และมีการดำเนินการประชาสัมพันธ์ทางสื่อช่องทางต่างๆ และจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อทดลองตลาด ประมาณเดือนธันวาคม 2561 พบว่าสินค้าได้รับผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ
ทั้งหมดนี่คือข้อมูลรายการธุรกิจหรือโครงการของบริษัท ดีมีเตอร์ฯ ที่ชี้แจงต่อ ตลท.ล่าสุด
ส่วนเบื้องหลังที่ว่า ทำไม ตลท. ถึงต้องสั่งให้ บริษัท ดีมีเตอร์ฯ ชี้แจงรายการธุรกิจหรือโครงการฯ เป็นข้อเท็จตรงที่จะต้องมีการติดตามตรวจสอบกันต่อไป
ขณะที่ก่อนนี้ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.2561 ตลท. เคยทำหนังสือสอบถาม บริษัท ดีมีเตอร์ฯ เกี่ยวกับราคาหุ้นของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาแล้ว ขณะที่บริษัทฯ ได้ชี้แจงว่า สถานการณ์ ณ ปัจจุบันของบริษัท ยังคงดำเนินกิจการตามปกติ ทั้งนี้ บริษัท มิได้มีการเปลี่ยนแปลง หรือมีพัฒนาการที่มีนัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจของบริษัทนอกเหนือไปจากสิ่งที่บริษัทได้เปิดเผยต่อสาธารณชนแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/