ประเทศที่ดีที่สุดในโลกปี 2019

สวิสเซอร์แลนด์ ยังคงครองความเป็นประเทศที่ดีที่สุดของโลกเหมือนปีที่ผ่านมา ตามด้วยญี่ปุ่นและแคนาดา การที่สวิสเซอร์แลนด์ยังคงสามารถครองความเป็นประเทศที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นประเทศที่ ไม่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ ประชาชนมีคุณภาพ สิ่งแวดล้อมสำหรับการอยู่อาศัยดีและคุณภาพชีวิตที่ดีมาก  

นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมาโรงเรียนธุรกิจ Wharton และ BAV Group ร่วมกับ U.S. News and World Report ได้ทำการศึกษาและพัฒนาแบบจำลองสำหรับการให้คะแนนและจัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลกจำนวน 80 อันดับ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการจัดอันดับแบรนด์ของแต่ละประเทศประจำปี โดยการพิจารณาความมั่งคั่งและความสำเร็จของประเทศ นโยบายและการสร้างโอกาส ผู้นำที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและประวัติศาสตร์ของประเทศ เป็นต้น

สำหรับปี 2019 ซึ่งเป็นปีที่ 4 ของการจัดอันดับได้มีการเผยแพร่ผลการจัดอันดับประเทศ ที่ได้ประมวลมาจากการสำรวจแบบสอบถามจำนวน 20,301 คน จาก 36 ประเทศ ใน 4 ภูมิภาคของโลก โดยใช้เกณฑ์การวัดที่พิจารณาจากคุณลักษณะย่อย 9 ประเภทด้วยกัน ได้แก่

- ประสบการณ์ที่น่าสนใจ ( Adventure ) เช่น ความเป็นมิตร ความสนุกสนาน อากาศดี ภูมิประเทศสวยงามและสิ่งดึงดูดใจ : ประเทศที่ดีที่สุด 6 อันดับ สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ได้แก่ บราซิล อีตาลี สเปน กรีซ ไทย นิวซีแลนด์

- สิทธิในความเป็นพลเมือง (Citizenship) เช่น ความใส่ใจในสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม ความเท่าเทียมทางเพศ อิสระทางศาสนา การให้ความเคารพต่อทรัพย์สินทางปัญญา ความน่าไว้วางใจ การกระจายอำนาจ : ประเทศที่ดีที่สุด 6 อันดับ สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ได้แก่ นอร์เวย์ แคนาดา สวิสเซอร์แลนด์ สวีเดน ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์

- อิทธิพลทางวัฒนธรรม (Cultural influence) เช่น ความง่ายต่อการอยู่อาศัย อาหารดี ความทันสมัย ความมีเกียรติภูมิ : ประเทศที่ดีที่สุด 6 อันดับ สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ได้แก่ อีตาลี ฝรั่งเศส สเปน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น

- คุณสมบัติในการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) เช่น การติดต่อกับประเทศอื่นๆ ความมีการศึกษาของประชากร นวัตกรรม ความง่ายในการเข้าถึงแหล่งทุน ทักษะของแรงงาน ความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยี ความโปร่งใสในการทำธุรกิจ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนากรอบด้านกฎหมาย : ประเทศที่ดีที่สุด 6 อันดับ สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมัน สหรัฐอเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา

- ขนบธรรมเนียมประเพณี (Heritage) เช่น การเข้าถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์อันรุ่งเรือง อาหารยอดเยี่ยม ความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดใจ :ประเทศที่ดีที่สุด 6 อันดับ สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ได้แก่ อีตาลี สเปน กรีซ ฝรั่งเศส เม็กซิโก อินเดีย

- ศักยภาพในการเป็นผู้ขับเคลื่อน (Mover) เช่น การสร้างความแตกต่าง พลังและความสร้างสรรค์ ความมีเอกลักษณ์: ประเทศที่ดีที่สุด 6 อันดับ สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น ไทย

- การเปิดกว้างทางธุรกิจ (Open for business) เช่น ระบบราชการและกฎระเบียบ ต้นทุนการผลิตต่ำ การให้สินบน มาตรการจูงใจทางภาษี ความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐ : ประเทศที่ดีที่สุด 6 อันดับ สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ได้แก่ ลักเซมเบอร์ก สวิสเซอร์แลนด์ ปานามา สวีเดน เดนมาร์ก สิงคโปร์

- ความมีอำนาจ (Power) เช่น ความมีอำนาจของผู้นำ อิทธิพลทางเศรษฐกิจ พันธมิตรระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง อำนาจทางการทหาร : ประเทศที่ดีที่สุด 6 อันดับ สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ได้แก่ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีน เยอรมัน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส

- คุณภาพชีวิต (Quality of life) เช่น ตลาดงานที่ดี สินค้าราคาไม่แพง เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ มิตรภาพในครอบครัว ความเท่าเทียมด้านรายได้ ความมั่นคงทางการเมือง ความปลอดภัย การพัฒนาของระบบการศึกษา การพัฒนาระบบสุขภาพ : ประเทศที่ดีที่สุด 6 อันดับ สำหรับคุณสมบัติข้อนี้ได้แก่ แคนาดา สวีเดน เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวิสเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์

๏ ในภาพรวมผู้วิจัยได้จัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดของปี 2019 ดังนี้

1.สวิสเซอร์แลนด์ 2. ญี่ปุ่น 3. แคนาดา 4. เยอรมัน 5. สหราชอาณาจักร 6. สวีเดน 7. ออสเตรเลีย 8.สหรัฐอเมริกา 9. นอร์เวย์ 10. ฝรั่งเศส 11. เนเธอร์แลนด์ 12. นิวซีแลนด์ 13. เดนมาร์ก 14. ฟินแลนด์ 15. สิงคโปร์ 16. จีน 17. เบลเยียม 18. อีตาลี 19. ลักเซมเบอร์ก 20. สเปน 21. ไอร์แลนด์ 22. เกาหลีใต้ 23. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 24. รัสเซีย 25. โปรคุเกส

• ประเทศไทย อันดับที่ 26

(อันดับ 27-80 ดู https://www.usnews.com/news/best-countries/overall-rankings)

การจัดอันดับในภาพรวม ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ยังคงครองความเป็นประเทศที่ดีที่สุดของโลกเหมือนปีที่ผ่านมา ตามด้วยญี่ปุ่นและแคนาดา การที่สวิสเซอร์แลนด์ยังคงสามารถครองความเป็นประเทศที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นประเทศที่ ไม่มีความขัดแย้งระหว่างประเทศ ประชาชนมีคุณภาพ สิ่งแวดล้อมสำหรับการอยู่อาศัยดีและคุณภาพชีวิตที่ดีมาก ส่วนสหรัฐอเมริกายังคงอยู่ในอันดับที่ 8 เท่าเดิม

สำหรับประเทศจีนนั้นถือว่า ทำได้ดีกว่าปีที่แล้วโดยก้าวจากอันดับที่ 20 ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 16 ส่วนประเทศที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกนั้นยังคงเป็นของ แคนาดา เหมือนกับปีที่แล้ว

สำหรับประเทศไทยซึ่งในปีนี้ได้ลำดับที่ 26 นั้น ถือว่าได้อันดับดีขึ้น 1 อันดับ จากปีกลายซึ่งอยู่ในอันดับที่ 27 และอยู่ในอันดับที่ดีกว่าประเทศมาเลเซียซึ่งอยู่ในอันดับที่ 38 และดีกว่าเวียดนามซึ่งอยู่ในอันดับ 39

แม้ว่าเวียดนามซึ่งอยู่ในอันดับที่ 39 ซึ่งยังต่ำกว่าไทย แต่ปีนี้เวียดนามสามารถก้าวกระโดดขึ้นมาถึง 5 อันดับจากปี 2018 และจัดเป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนประเทศหนึ่งเนื่องจากยังมีค่าแรงต่ำและมีศักยภาพด้านการผลิต ส่วนประเทศที่อยู่รั้งท้ายของการจัดอับดับในปีนี้ได้แก่ประเทศ อิรัก

การที่ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 26 ในภาพรวม และติดอันดับหนึ่งในหกของประเทศที่มี ความเป็นมิตร สนุกสนาน น่าดึงดูดใจ รวมทั้งยังติดอันดับหนึ่งในหกของประเทศที่เป็นผู้ขับเคลื่อนที่น่าสนใจของโลกนั้น ประเทศไทยน่าจะได้อานิสงส์จากการจัดอันดับแบรนด์ในครั้งนี้ไม่มากก็น้อยและถือเป็นประเทศที่ไม่ธรรมดาในสายตาชาวโลก แม้ว่าจะมีคำพรรณนาในทางที่ไม่เป็นคุณและมีเสียงก่นด่าผ่านเพลง “ประเทศกูมี” อยู่มากมายก็ตามที

อ้างอิง

1. http://knowledge.wharton.upenn.edu/article/best-countries-report-2019/?utm_source=kw_newsletter&utm_medium=email&utm_campaign=2019-02-12

2. https://www.usnews.com/news/best-countries/articles/methodology
ภาพประกอบ https://www.telegraph.co.uk/travel/news/best-country-in-the-world-switzerland/